เพื่อให้มีความสุขและมี ชีวิตที่ดี ตลอดทั้งวันเราอาจไม่ต้องทำอะไรมากเพื่อให้ชีวิตเราพบเจอความสบายใจและมีความสุข เพียงปฏิบัติตาม 4 ข้อนี้ ที่องค์ทะไลลามะแนะนำไว้ ค่อยๆทำบ่อยเข้าๆ ก็จะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นในชีวิต และแม้เจอเรื่องร้ายๆ ก็ยังเบิกบานจากภายในได้ นับว่าเป็น ชีวิตที่ดี และมีความสุขอย่างแท้จริง ^^
เมื่อตื่นแล้ว ผ่อนคลายร่างกาย
เพื่อ ชีวิตที่ดี ตลอดทั้งวัน เมื่อตื่นนอนแล้วเริ่มจากนั่งสบายๆ อาจนั่งห้อยขาบนเก้าอี้ หรือจะนั่งขัดสมาธิบนพื้นก็ได้ สามารถฝึกขณะอยู่บนที่นอนก่อนที่จะลุกขึ้นมาในตอนเช้าก็ได้ หลังจากกดปิดนาฬิกาปลุกแล้ว ก่อนที่จะเร่งรีบทำกิจวัตรประจำวัน วางมือตามสบายที่ขาหรือที่ท้อง หลับตาลงพร้อมกับหายใจเข้าออกยาวๆ ทางจมูก รู้สึกถึงท้องที่ป่องขึ้นและแฟบลงขณะหายใจโดยใช้กะบังลม
เมื่อรู้สึกผ่อนคลายขึ้นแล้วถามตัวเองว่า “สิ่งที่ใจฉันต้องการคืออะไร ฉันปรารถนาอะไรเพื่อตัวเอง เพื่อคนที่ฉันรัก และเพื่อโลกนี้” โดยทั่วไปแล้วความปรารถนาที่ลึกที่สุด มักมีแนวโน้มที่จะเป็นเรื่องของการใช้ชีวิตด้วยคุณค่าของความเป็นมนุษย์อันลึกซึ้ง ซึ่งนำไปสู่ความสุขอันยิ่งใหญ่
ทะไลลามะมีวิธีง่าย ๆ ในการทดสอบเจตนาของตัวเอง “สิ่งนี้เป็นไปเพื่อฉัน หรือเพื่อผู้อื่น เพื่อประโยชน์แก่ส่วนน้อยหรือส่วนใหญ่ เพื่อขณะนี้หรือในอนาคต” การทดสอบเช่นนี้จะเป็นเครื่องชี้นำเราไปสู่สิ่งที่เราปรารถนาอย่างแท้จริง
นึกถึงสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ด้วยความปรารถนาดี
อาร์ชบิชอปและทะไลลามะชี้ให้เห็นเสมอว่าเรามีความอ่อนแอและความเปราะบางในฐานะที่เป็นมนุษย์เหมือนกัน การฝึกความเป็นมนุษย์ธรรมดาช่วยเตือนเราว่า ไม่ว่าจะสูงต่ำดำขาว ไม่ว่าเราจะกลัวการถูกปฏิเสธ แต่อันที่จริงแล้วเรามีความเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้งแม้เราจะมองไม่เห็นมันก็ตาม
คิดถึงคนที่คุณรัก เช่น ลูก พ่อแม่ เพื่อนสนิท หรือสัตว์เลี้ยงที่รัก จดจำภาพของพวกเขาไว้ในใจและปล่อยให้ตัวเองรู้สึกถึงความรักที่มีต่อพวกเขา สังเกตความรู้สึกอบอุ่นและหัวใจที่เปิดกว้างซึ่งเกิดจากความรู้สึกรักที่คุณมีต่อพวกเขา นึกว่าพวกเขาก็มีความปรารถนาที่จะมีความสุขและหลีกหนีจากความทุกข์ ใคร่ครวญว่าพวกเขาใช้ชีวิตอย่างไรเพื่อให้บรรลุความปรารถนานั้น
คิดถึงใครสักคนที่คุณรู้จักแต่ไม่ได้สนิทสนมคุ้นเคย อาจคิดถึงเพื่อนร่วมงาน คนบางคนในชั้นเรียนที่โรงเรียน หรือคนทำงานในร้านที่คุณไปซื้อของ ปล่อยให้ตัวเองตระหนักว่าความรู้สึกที่มีต่อคนเหล่านี้ แตกต่างจากความรู้สึกที่คุณมีต่อคนที่อยู่ในใจคุณอย่างไร
เรามักไม่ค่อยรู้สึกถึงความเห็นอกเห็นใจหรือความเชื่อมโยงกับคนที่เรามองว่าเป็นคนแปลกหน้า บางทีคุณอาจรู้สึกเฉย ๆ บางทีอาจรู้สึกแปลกแยก หรือบางทีอาจถึงขั้นเพ่งโทษ คราวนี้ลองพยายามนึกว่าตัวเองเป็นคนคนนี้นึกถึงชีวิตของเขา ความหวัง ความฝัน ความกลัว ความผิดหวังและความทุกข์ของเขา ยอมรับว่าพวกเขาก็ไม่ต่างจากคุณที่ปรารถนาจะมีความสุขและไม่อยากมีความทุกข์แม้เพียงน้อยนิด พวกเขาเหล่านั้นอาจจะอ้างว้างเหมือนกับคุณ และการยื่นมือออกไปหาพวกเขาก็อาจเป็นของขวัญสำหรับพวกเขา
มอบการตระหนักในเรื่องนี้ให้แก่โลก เริ่มใช้ชีวิตจากความเชื่อมโยงที่ค้นพบใหม่นี้ด้วยการเปิดหัวใจให้แก่ผู้คนรอบตัวคุณ เริ่มได้ด้วยการยิ้มหรือยอมรับผู้อื่นด้วยการมองเขาอย่างอบอุ่นและความเข้าใจ จงหาสิ่งที่เหมาะกับสถานการณ์ของคุณและเริ่มทักทายครอบครัวมนุษย์ของคุณ อย่าท้อใจหากคุณพบบางคนที่กำลังเป็นทุกข์เพราะความรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยวจนไม่ยอมรับคุณ
คุณสามารถสร้างความรู้สึกเห็นอกเห็นใจขึ้นจากความรู้สึกอ้างว้างของตัวเอง ทักทายโลกด้วยความเชื่อมั่นความกรุณา และความเมตตาให้มากยิ่งขึ้น แล้วโลกจะทักทายคุณกลับด้วยความเชื่อมั่น ความกรุณา และความเมตตาที่มากยิ่งกว่า
เมื่อคุณยิ้มให้โลก โลกก็จะยิ้มให้คุณ
ยินดีกับความสุขของคนอื่น
เพื่อ ชีวิตที่ดี ยิ่งขึ้น เราสามารถยินดีในโชคดีของผู้อื่นได้ เมื่อเราขยายขอบเขตของความเป็นตัวเรา เพื่อที่จะรวมคนอื่น ๆ เข้ามาด้วยและเมื่อเราเปิดใจยอมรับความเบิกบานของผู้อื่นเหมือนความเบิกบานของเราเอง เช่นเดียวกับพ่อแม่ที่รู้สึกยินดีในโชคดีของลูก
เริ่มจากนึกถึงคนที่มีบางสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกอิจฉา และยอมรับว่าคุณและเขาล้วนมีคุณสมบัติของความเป็นมนุษย์เหมือนกัน ในส่วนนี้สามารถย้อนกลับไปดูการฝึกปฏิบัติก่อนหน้า หรืออาจจะแค่มุ่งความสนใจไปที่ความหวัง ความฝัน ความกลัว ความผิดหวัง และความทุกข์ของบุคคลที่คุณอิจฉา ยอมรับว่าคนที่คุณอิจฉานั้นก็ปรารถนาที่จะมีความสุข และไม่อยากมีความทุกข์แม้เพียงน้อยนิดเช่นเดียวกับคุณ
นึกภาพว่าพวกเขาจะมีความสุขแค่ไหนในสิ่งที่พวกเขามี ลองคิดว่าสิ่งที่พวกเขามีซึ่งทำให้คุณอิจฉานั้น มีความสำคัญต่อพวกเขาหรือครอบครัวของพวกเขาอย่างไร รถ บ้าน หรือสถานะอาจเป็นที่มาแห่งความพอใจอันยิ่งใหญ่
พยายามเปิดหัวใจให้กว้าง เพื่อดึงพวกเขาและความโชคดีของพวกเขาเข้ามาไว้ในใจ ยินดีในโชคลาภของพวกเขา ยินดีที่พวกเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ เพราะพวกเขาสามารถช่วยเหลือตัวเองได้
มองความทุกข์ในแง่มุมที่ทำให้คุณเติบโต
การนำความทุกข์ และเคราะห์กรรมใด ๆ ก็แล้วแต่ที่คุณประสบเข้ามาไว้ในการฝึกปฏิบัติทางจิตวิญญาณ มันจะเป็นตัวช่วยให้คุณเติบโตและพัฒนาขึ้น
คิดถึงความทุกข์หรือเคราะห์กรรมที่คุณกำลังประสบอยู่ รวมทั้งคิดถึงผู้อื่นที่เผชิญสถานการณ์เดียวกัน
คุณสามารถคิดถึงผู้อื่นที่อาจจะตกอยู่ในสถานการณ์เหมือนกับคุณ หรือบางทีอาจจะแย่กว่าได้ไหม คุณรู้สึกเห็นอกเห็นใจหรือมีเมตตาต่อพวกเขาไหม
ลองพิจารณาดูว่าสถานการณ์นี้น่าจะมีประโยชน์ต่อคุณอย่างไรได้บ้าง คุณจะได้อะไรจากประสบการณ์ครั้งนี้ มีบทเรียนอะไรให้ได้เรียนรู้ สถานการณ์นี้ช่วยให้คุณเติบโตและมีวุฒิภาวะขึ้นได้อย่างไร
พยายามรู้สึกขอบคุณต่อโอกาสที่ได้รับจากความทุกข์และเคราะห์กรรมครั้งนี้ พยายามท่องไว้ว่า “ขอให้ความทุกข์ที่ฉันประสบเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้พ้นจากความทุกข์ในแบบเดียวกัน” คุณจะใช้ความทุกข์ของตัวเองมาช่วยบรรเทาความทุกข์ของผู้อื่นได้อย่างไร การกระทำของคุณจะช่วยป้องกันผู้อื่นไม่ให้ประสบความทุกข์แบบเดียวกัน หรือมีส่วนช่วยลดความทุกข์ของผู้อื่นได้ไหม
บทความอื่นๆ
Pingback: ความเข้าใจผิดเรื่องความรัก : คิดแบบนี้ความรักถึงไปไม่รอด
Pingback: ความเครียดและ วิธีผ่อนคลายความเครียด ทางร่างกาย ร้านหนังสือออนไลน์ในเครืออมรินทร์
Pingback: วิธีใช้ชีวิตให้มีความสุข : เทคนิคดีๆ เริ่มต้นตั้งแต่ตื่นนอน ร้านหนังสือออนไลน์ในเครืออมร
Pingback: ผลกรรม จากการไม่รักษาศีล 5 : ที่ชีวิตแย่ก็เพราะเคยทำแบบนี้แหละ
Pingback: วิธีจัดระเบียบสมองและจิตใจแบบง่ายๆ ฝึกสมอง ให้มองแต่ความสุข
Pingback: พุทธทาสภิกขุ ผู้เขียน คู่มือมนุษย์ บุคคลสำคัญของโลกที่องค์การยูเนสโกยกย่อง