ทำไมเวลาที่เราอยากผอม ลองกินนิดเดียวก็แล้ว หรือคุมอาหารมาตั้ง 2–3 เดือน กลับมากินแค่ 2 วันน้ำหนักก็ขึ้นมาเท่าเดิม จนเราตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราทำอะไรผิดไปหรือเปล่า แล้วจะต้อง กินอย่างไรให้ผอม ลองมาดูเทคนิคการ กินอย่างไรให้ผอม ทั้ง 7 ข้อที่ใช้ได้กับทุกคนทุกช่วงอายุว่ามีอะไรบ้าง หัดเป็นผู้นำของร่างกาย เมื่อฝึกการกินใหม่ตัวเราต้องเป็นผู้นำของร่างกาย เราต้องรับความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับร่างกายและฮอร์โมนก่อน เรียนรู้การฝึกกินอาหารตามหลัก LCHF ที่จะเปลี่ยนขั้วการกินจากการกินคาร์โบไฮเดรตเป็นหลักไปเป็นไขมันเป็นพลังงานหลัก และที่สำคัญคือค่อยๆ ทำไปทุกวัน เมื่อทำไปเรื่อยๆ จะเห็นผลลัพทธ์ที่ทวีคูณภายในไม่เกิน 1 เดือนตามที่เราต้องการแน่นอน เปลี่ยนรูปแบบการกิน เคี้ยวน้อยเป็นเคี้ยวเหลว ให้เคี้ยวอาหารในปากทุกคำจนเหลวก่อนกลืน ความรู้สึกเหลวรับได้จากลิ้น กระพุ้งแก้ม เพดานปาก ริมฝีปาก เคี้ยวจนคายออกมาจะมองไม่ออกว่านี่คืออะไร สิ่งที่จะช่วยให้อาหารเหลวได้ง่ายขึ้นคือ น้ำลายที่เกิดจากการอมไปเคี้ยวไป น้ำซุปที่จะให้พร้อมเกลือแร่ที่ช่วยให้น้ำย่อยในปากทำงานได้ดี และน้ำผักสดที่มีเอนไซม์ช่วยย่อยโปรตีน แนะนำเคี้ยวพร้อมเนื้อสัตว์ เช่น ไข่ ถั่วเหลือง กินเมื่อหิว อาการอยากนั้นเกิดมาจากอารมณ์ ฮอร์โมน สิ่งแวดล้อม อาหารไม่ดี ความหิวเกิดจากความต้องการสารอาหารและพลังงานที่แท้จริงของร่างกาย เราสามารถแยกระหว่างความหิวกับความอยากได้คือ กินสิ่งที่ไม่แปรรูป […]
Author Archives: AMARINBOOKS TEAM
พูดคุยกับ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ ในเรื่องที่เรา…ชาวมนุษย์เงินเดือนต้องเจอในแต่ละวัน เพราะทุกวันนี้เราใช้ชีวิตอยู่กับงานมากกว่าอยู่บ้าน อย่างน้อยสมดุลของชีวิตก็เป็นเรื่องที่มนุษย์เงินเดือนต้องหาให้เจอ เพื่อเอาตัวรอดจากเดนตายให้ได้ด้วยสันติวิธี รายการ “เป็นไร ไหนเล่าซิ” ทุกปัญหาที่เกิดขึ้นบนโลก ถึงตอนนี้จะยังแก้ไขไม่ได้ แต่เล่าให้เราฟังได้ รายการที่เราจะชวนคนหลายแวดวงมาเป็นผู้รับฟังปัญหาต่างๆ ที่ตอนนี้คุณอาจจะยังหาคำตอบไม่ได้ แต่อยากหาคนรับฟังหรือคนปรึกษา พวกเขาจะบอกเล่าความคิดมุมมองของเขาให้คุณได้ฟังกัน ใน 1 ปีมนุษย์ออฟฟิศจะทำงานเฉลี่ยปีละ 200 วันต้นๆ เฉลี่ยวันละ 8 -10 ชั่วโมงที่เราต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ในทุกๆ ด้าน เพราะว่าทุกวันนี้เราใช้ชีวิตอยู่ในที่ทำงานเป็นหลัก เราจึงต้องหาสมดุลให้กับชีวิตที่เราจะได้อยู่ในที่ทำงานอย่างสันติสุขกับทุกสรรพสิ่ง EP นี้เราเลยเชิญแขกรับเชิญที่พนักงานรวมไปถึงเจ้านายในองค์กรส่วนใหญ่น่าจะคุ้นเคยและรู้จักเขาเป็นอย่างดี มาพูดคุยเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกับสรรพสิ่งต่างๆ ในออฟฟิศ เผื่อว่ามนุษย์เงินเดือนเช่นเราจะได้แง่คิดดีๆ ในการทำงานหรือแง่มุมที่ต่างจากเดิม ให้อาจารย์แนะนำตัว เคยทำงานที่ไหน ทำงานอะไรอยู่ ดร.วรภัทร์ : อายุเยอะประวัติก็เลยยาว จบเคมีเทคนิคคณะวิทยาศาสตร์จุฬาฯ จบปริญญาโทด้านวิศวะและปริญญาเอกด้านวิศวะจากมลรัฐโอไฮโอ USA ในระหว่างที่เรียนปริญญาเอกก็ทำงานเป็นนักวิจัยที่องค์การอวกาศนาซาทางด้านเครื่องบินไอพ่นในส่วนที่เป็นเครื่องยนต์พวกผิว เซรามิกเคลือบ จบจากนาซาก็กลับมาเมืองไทย ก็มีความเห็นว่าถ้าเข้าบริษัทใหญ่ๆอย่าง ปตท. หรือ SCG ไล่หลังเพื่อนไม่ทันแล้ว […]
ถึงแม้จะพยายามหลีกเลี่ยง ‘คนเฮงซวย’ มากแค่ไหนแต่คุณก็ต้องเจอพวกเขาอยู่วันยังค่ำ พฤติกรรมของคนพวกนี้จะสร้างสภาพแวดล้อมที่แย่ให้กับองค์กรมีความมุ่งร้าย เสแสร้ง ปลุกปั่น จนทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ น้อยลงรวมถึงคุณด้วย ในเมื่อหลีกเลี่ยงพวกเขาไม่ได้ ก็ต้องหาทางอยู่ด้วยให้ได้ มาดูกันว่าเราจะสามารถอยู่ร่วมกับ คนเฮงซวย ได้อย่างไรบ้าง ไม่พูดอะไรเลย วิธีรับมือง่ายๆ อันดับแรกคือการไม่พูดอะไรเลย หรือ การนิ่งเฉย แม้คนเฮงซวยเหล่านั้นจะพูดจาแข็งกร้าว หรือชอบพูดจาตะคอก เหน็บแนมคนอื่นก็ตาม เมื่อคุณได้ยิน จงนิ่งเฉย และเดินออกมาจากบริเวณนั้นเสีย หากหลายๆ คนทำแบบคุณ คือการนิ่งและเดินออกมาแบบเงียบๆ คนเฮงซวยเหล่านั้นก็จะรู้ตัวเอง หรืออาจจะทำทองไม่รู้ร้อนต่อไปนั่นก็เป็นเรื่องของเขา ก็ถือว่าคุณได้พยายามออกห่างจากเขาอย่างเต็มที่แล้ว ให้คำปรึกษา บางครั้งคนเฮงซวย อาจไม่ได้เป็นคนเฮงซวยแบบ full time แต่เป็นคนเฮงซวย part time ซึ่งก็คือใครบางคนที่โดยปกติแล้วจะปฏิบัติกับคนอื่นอย่างอ่อนโยนและให้เกียรติ แต่จะมีบางครั้งที่เขามีพฤติกรรมไม่เป็นมิตร ซึ่งหากเป็นคนรู้จักและปกติแล้วชอบพอกันดี คุณอาจจะมองได้ว่า ความไม่เป็นมิตรของเขานั้นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขากำลังมีเรื่องแย่ๆ และต้องการกำลังใจ ให้ลองหาจังหวะแล้วสอบถามดู เผลอๆ คุณอาจเป็นคนที่ช่วยเยียวยาเขาให้กลับมาเป็นคนปกติอีกครั้ง ระวังการแพร่เชื้อ จะพูดว่าเชื้อของคนเฮงซวยร้ายแรงเหมือนไข้หวัดใหญ่เลยก็ว่าได้ ปัญหาการแพร่เชื้อของคนเฮงซวยไปสู่คนอื่นๆ เกิดขึ้นได้เพราะ ‘อารมณ์’ […]
ใครๆ ก็พูดกันว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ทักษะหรือความฉลาดที่เด็กยุคใหม่ควรมีก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แค่เรียนเก่ง ไอคิวดี อาจไม่เพียงพอสำหรับลูกเมื่อเติบโต แล้วลูกเราต้องฉลาดเรื่องอะไรบ้าง ถึงจะอยู่รอดและเติบโตในสังคมอย่างมีความสุข มาหาคำตอบใน FamiRead Podcast กันเลยค่ะ รายการ FamiRead รายการผู้ช่วยมือหนึ่งของพ่อแม่ พิธีกร คือ บ.ก.แสตมป์จาก Amarin Kids ไอคิว หรือ ความฉลาดทางสติปัญญา น่าจะเป็นสิ่งที่พ่อแม่ได้ยินกันมานานแล้ว หลายๆ โรงเรียนก็ให้เด็กทำข้อสอบวัดไอคิวเพื่อคัดเด็กเข้าโรงเรียนหรือแบ่งห้อง จนอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่คิดว่าความฉลาดทางสติปัญญาหรือไอคิวคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อการเรียนและความสำเร็จในอนาคต แต่ความคิดนี้ถูกเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น เพราะการทีเด็กคนหนึ่งจะเติบโตและประสบความสำเร็จในชีวิต แท้จริงแล้วต้องใช้ความฉลาดหลากหลายด้าน ไม่ใช่เพียงความด้านสติปัญญาเท่านั้น แต่จะมีความฉลาดเรื่องอะไรบ้าง ลองมาฟังกัน หนึ่ง IQ หรือ ความฉลาดทางสติปัญญา ได้แก่ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ จดจำ มีทักษะทางวิชาการ ทั้งการคำนวนและการใช้ภาษา ตามที่คุณพ่อคุณแม่รู้จักกันดีอยู่แล้ว สอง EQ หรือ ความฉลาดทางอารมณ์ คือ ความสามารถในการรู้จักอารมณ์ของตัวเอง มีทักษะจัดการอารมณ์ตัวเองอย่างเหมาะสม รวมทั้งมีความเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของผู้อื่น เด็กที่ขาดอีคิวเศร้าก็จะเศร้าสุด โมโหก็โมโหสุดๆ ซึ่งอารมณ์เหล่านี้อาจเป็นอุปสรรคในชีวิตลูกได้มาก […]
สาวๆ หลายคนอาจเคยเจอประสบการณ์ ประจำเดือนมาไม่ปกติ และคิดว่า “การที่ประจำเดือนไม่มานี่สบายจังจะได้ทำอะไรได้อย่างเต็มที่” และปล่อยเรื่องนี้ไว้ ไม่ได้ใส่ใจ แต่แท้จริงแล้วการที่ ประจำเดือนมาไม่ปกติ นั้นถือว่าเป็นเรื่องอันตรายกับร่างกาย เพราะเป็นสัญญาณว่าฮอร์โมนเพศหญิงไม่ได้ทำงานตามปกติ และมีความเสี่ยงในโรคต่างๆ ตามมาได้ มาดูกันว่า สาเหตุ ความเสี่ยง และวิธีแก้ปัญหา ประจำเดือนมาไม่ปกติ ต้องทำอย่างไรบ้าง ความเครียดเป็นสาเหตุ เมื่อเราเครียดเรื่องในชีวิตประจำวัน ก็สามารถส่งผลต่อประจำเดือนได้ เช่น เครียดเรื่องงาน ความสัมพันธ์ ความเครียดนี้จะส่งผลไปถึงศูนย์ควบคุมฮอร์โมนที่สองทำให้การถ่ายทอดคำสั่งจากสมองไปยังรังไข่ไม่ดี การทำงานของรังไข่จะลดลงและนำไปสู่ภาวะประจำเดือนมาไม่ปกติและเกิดการขาดประจำเดือนได้ นอกจากนั้น การพักผ่อนไม่เพียงพอก็เป็นหนึ่งในสาเหตุด้วยเช่นกัน ลดน้ำหนักอย่างหักโหมก็เป็นหนึ่งในสาเหตุ นอกจากความเครียด การลดน้ำหนักก็เป็นหนึ่งในสาเหตุความผิดปกติของประจำเดือนได้ การลดน้ำหนักอาจเป็นเรื่องที่ดีต่อร่างกาย แต่ถ้าเป็นการลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารมากเกินไป ร่างกายจะเกิดการป้องกันตนเอง ซึ่งเป็นสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิตเพื่อให้ดำรงอยู่ได้ ส่งผลให้การทำงานของรังไข่ลดลง ประจำเดือนไม่มาและมีภาวะขาดประจำเดือนได้ สิ่งที่ควรกังวลเมื่อประจำเดือนขาดอย่างต่อเนื่อง เราต้องแยกก่อนว่าแบบไหนคือการที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือรอบประจำเดือนห่าง การที่ประจำเดือนมาภายใน 39 -90 วันนั้นคือ รอบประจำเดือนห่าง ถ้าหาก 90 วันขึ้นไปคือ […]
Zero Training เป็นโปรแกรมฟื้นฟูรูปร่างให้กลับมาอยู่ในจุดที่ดีที่สุด หรือตำแหน่งศูนย์ ซึ่งเป็นตำแหน่งเดิมที่ถูกต้องก่อนร่างกายจะเปลี่ยนแปลง ได้แก่ คอ ไหล่ หลัง คอ สะโพก และนิ้วเท้า โดยมีเคล็ดลับการฝึกคือ เริ่มต้นด้วยการฝึกหายใจ จากนั้นให้ออกกำลังกายด้วยการผ่อน 5 ท่า แล้วค่อยออกกำลังกายด้วยการตรึงอีก 1 ท่า จึงจะครบสมบูรณ์ โดยให้ทำเช่นนี้ต่อเนื่องเป็นเวลา 4 สัปดาห์ก็จะเห็นรูปร่างและสุขภาพของคุณที่เปลี่ยนไป มาดูกันว่า Zero Training จำเป็นกับชีวิตคุณอย่างไรบ้าง ร่างกายหดตัว จึงทำให้อ้วนขึ้น สมัยที่ยังอายุน้อย แน่นอนว่าการลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่ง่าย แถมยังไม่รู้จักอาการปวดหลัง ปวดไหล่อีกด้วย แต่ยิ่งอายุมากขึ้น น้ำหนักก็ยิ่งเพิ่ม ทำให้สูญเสียรูปร่างที่ดีไป สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเรียกว่า “การหดตัวของร่างกาย” ร่างกายจะหดตัวไปตามบุคลิกภาพของเรา เช่น หากก้มหน้าเล่นสมาร์ทโฟนบ่อยๆ จะทำให้คอหดสั้นลง หากนั่งทำงานติดโต๊ะนานๆ ช่วงสะโพกก็จะหดตัวลง หากยืนเป็นเวลานาน ขาก็จะหดสั้นลง การหดตัวของร่างกายมี 2 รูปแบบคือ 1.การหดตัวของข้อต่อ ในส่วนกลางระหว่างข้อต่อจะมีระยะห่างที่พอเหมาะ ถ้าระยะห่างนี้เกิดการบีบหรืออัด ก็จะทำให้หดเล็กลงโดยอัตโนมัติ 2.การหดตัวของกล้ามเนื้อ […]
รายการ เทคนิคการเล่านิทาน พิธีกรคือบ.ก. พี่แสตมป์จาก Amarin Kids วันนี้ บ.ก. พี่แสตมป์ มีเทคนิคและตัวอย่างการเล่านิทานชุด ข้าวสวย ข้าวต้ม ฉลาดครบ 7Q มาฝากกัน แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักนิทานชุดนี้กันก่อนว่ามีกี่เล่ม แต่ละเล่มจะเสริมความฉลาดให้ลูกน้อยอย่างไรได้บ้าง นิทานชุด ข้าวสวย ข้าวต้ม ฉลาดครบ 7Q เป็นนิทานเสริมสร้างความฉลาดด้านต่างๆ ที่สำคัญสำหรับการเติบโตของลูกน้อย ซึ่งประกอบไปด้วยนิทาน 7 เล่ม เพื่อเสริมความฉลาด 7 ด้าน ได้แก่ ข้าวสวย ข้าวต้มพี่น้องสมองดี เป็นนิทานเสริมสร้างความฉลาดทางสติปัญญาหรือไอคิว เพื่อให้เด็กมีทักษะคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาอย่างชาญฉลาด ข้าวสวย ข้าวต้ม พี่น้องอารมณ์ดี เป็นนิทานเสริมสร้างความฉลาดทางอารมณ์หรืออีคิว เพื่อให้เด็กเรียนรู้การจัดการอารมณ์ของตนเองอย่างเหมาะสม ข้าวสวย ข้าวต้ม พี่น้องไอเดียดี เป็นนิทานเสริมสร้างใยการคิดริเริ่มหรือซีคิว ส่งเสริมให้เด็กคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และมีความคิดยืดหยุ่น ข้าวสวย ข้าวต้ม พี่น้องทำดีเป็นนิทานเสริมสร้างความฉลาดทางศีลธรรมและจริยธรรมหรือเอ็มคิว เพื่อให้เด็กดำเนินชีวิตอย่างรู้ผิดชอบชั่วดี ข้าวสวย ข้าวต้ม พี่น้องฉลาดแข็งแรง เป็นนิทานเสริมสร้างความฉลาดที่เกิดจากเล่นหรือพีคิว เพื่อส่งเสริมพัฒนาการตามวัยที่เหมาะสม […]
คุณพ่อ คุณแม่ หลายคนอยากรู้ว่าต้องเล่านิทานอย่างไร ลูกถึงจะสนุก วันนี้ บ.ก. พี่จ๊ะ จาก Amarin Kids มีเทคนิคการเล่านิทานเรื่อง นกพิราบไม่ยอมอาบน้ำ มาฝากกันค่ะ ไปฟังกันเลย เจ้านกพิราบต้องอาบน้ำนะ เป็นเรื่องราวของเจ้านกพิราบตัวหนึ่งที่ไม่ยอมอาบน้ำ ไม่ว่าเนื้อตัวของมันจะดูสกปรก หรือว่าจะมีใครมาบอกว่ามีกลิ่นเหม็นก็ตาม เจ้านกพิราบก็ไม่อาบน้ำอยู่ดี มีเหตุผลสารพัดที่จะปฏิเสธ แต่สุดท้ายแล้วเจ้านกพิราบก็ยอมอาบน้ำจนได้ นิทานเรื่องนี้เขียนโดย โม วิลเลียม เนื้อเรื่องดำเนินด้วยเจ้านกพิราบที่หลายคนอาจจะเคยเห็นมาก่อนจากเรื่อง อย่ายอมให้นกพิราบขับรถเมล์นะ การดำเนินเรื่องเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ทั้งท่าทางและคำพูดของเจ้านกพิราบ จะทำให้เด็กๆหัวเราะได้ไม่ยาก และจุดเด่นอีกอย่างของนิทานเรื่องนี้ ก็คือเป็นนิทานกึ่งบทสนทนา เจ้านกพิราบในเรื่องเหมือนกำลังพูดคุยกับเด็กๆ ที่ได้อ่าน ฟังนิทานเรื่องนี้อยู่ ซึ่งในระหว่างที่อ่านคุณพ่อคุณแม่สามารถเว้นจังหวะและชวนเด็กๆ คุยจากสิ่งที่เจ้านกพิราบพูดได้ นอกจากนั้นคุณพ่อคุณแม่ยังหยิบยกเรื่องการอาบน้ำซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวัน และเป็นสุขลักษณะพื้นฐานมาพูดคุยกับเด็กๆ ได้อีกด้วย นิทานเรื่องนี้จะสนุกและมีอารมณ์ขันยังไง เดี๋ยวพี่จ๊ะจะลองเล่าให้ฟังเป็นตัวอย่าง เรื่อง เจ้านกพิราบต้องอาบน้ำนะ เรื่องและภาพโดย โม วิลเลียมแปลโดย พี่นานะ สวัสดี ไม่รู้ว่าเด็กๆสังเกตไหม ว่าเจ้านกพิราบน่ะสกปรกมาก เด็กๆ ช่วยฉันหน่อยได้ไหม เพราะว่าเจ้านกพิราบต้องอาบน้ำนะ “เรื่องแบบนี้ต่างคนต่างคิดนะ” […]
เคล็ดลับการทำงาน แบบคนโคตรเก่งจาก Netflix ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นองค์กรยักษ์ใหญ่ที่สร้างแต่ทีมที่เก่ง หรือเรียกได้ว่าถ้าไม่เก่งจริง ไม่ได้ทำงานที่นี่แน่นอน Netflix บริหารองค์กรด้วยการจ้างพนักงานที่เก่งที่สุด และบริหารคนแบบเฉียบขาด แหวกแนว สุดโต่ง ที่ไม่ใช่องค์กรไหนๆ ก็ทำได้ เคล็ดลับการทำงาน แบบคนโคตรเก่งจาก Netflix เป็นอย่างไรตามมาดูกันเลย สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแรง เน็ตฟลิกซ์มีหลักปฏิบัติพื้นฐานที่เรียกว่าวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งเป็นแกนกลางอยู่หลักๆ 5 ข้อคือ 1.สื่อสารกันอย่างเปิดเผย ชัดเจน และทันทีในเรื่องงานและปัญหาที่เผชิญอยู่ 2.ซื่อสัตย์ จริงใจ พูดความจริงต่อกัน พูดความจริงกับเรา ในเวลาที่ถูกที่ควรและจะดีที่สุดคือพูดกันต่อหน้า 3.มีความคิดเห็นที่หนักแน่น ยึดหลักความจริง และกล้าถกเถียงอย่างตรงไปตรงมา 4.ทำสิ่งต่างๆ โดยเห็นแก่ประโยชน์สูงสุดจากลูกค้าและบริษัท ไม่ใช่เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองคิดถูก 5.ผู้จัดการที่ร่วมคัดสรรพนักงานเป็นผู้นำในการตระเตรียมทีมสู่อนาคต ทำทุกอย่างเพื่อให้คนในทีมทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยทักษะที่เหมาะสมในทุกๆ ตำแหน่ง การสร้างวัฒนธรรมคือกระบวนการพัฒนา ที่เริ่มจากตรงไหนไม่สำคัญ สำคัญที่ขอให้ได้เริ่ม ชอบความท้าทายและการแก้ปัญหา การทำงานแบบเน็ตฟลิกซ์ คือต้องมีการสร้างทีมที่ดีและแข็งแรง ทีมที่ดีคือเมื่อเจอปัญหาหนักๆ ให้ชนและมีเพื่อนร่วมงานเก่งๆ ให้ร่วมชนไปด้วยกันคือสิ่งดึงดูดใจที่ยอดเยี่ยมที่สุด และคนในทีมต้องไม่ได้เก่งแค่การค้นพบปัญหาเท่านั้น จะต้องเป็นคนที่ชอบแก้ปัญหาด้วย การสื่อสารต้องเกิดขึ้นสองทิศทาง การสื่อสารสองทิศทางเป็นสิ่งสำคัญมาก พนักงานจะต้องถามคำถามหรือเสนอข้อวิจารณ์และความคิดเห็นได้ […]
แต่ละคนมี เทคนิคการจดโน้ต ที่แตกต่างกันไป บางคนจดโน้ตเพื่อบันทึกความทรงจำ เช่น แม่ฝากซื้อไข่ไก่ น้ำมันพืช ผักคะน้า ฯลฯ หรือบางคนใช้การจดโน้ตเพื่อต่อยอดไอเดียสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ แต่ก็มีอยู่หลายครั้งที่การจดโน้ตของเราใช้ไม่ได้จริง จดไว้เมื่อเดือนที่แล้ว มาดูเดือนนี้กลับจำไม่ได้ว่าสิ่งนี้ฉันจดมาเพื่ออะไร แล้วมันเชื่อมโยงอย่างไรกัน เทคนิคการจดโน้ต ให้นำไปใช้ได้จริง มีอะไรบ้างมาดูกันเลย เขียน “วันที่” “สรุป” “ชื่อเรื่อง” สิ่งที่ทำเป็นอันดับแรกก็คือการเขียนวันที่ที่ฝั่งซ้ายบนของหน้าซ้าย เพราะข้อมูลเวลาว่าจดไปเมื่อไรสำคัญมากตอนย้อนกลับมาดู จากนั้นให้เขียนออกมาว่าการประชุมนี้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องอะไรด้วยหัวข้อสั้นๆ และให้ทำ “ช่องสรุป” ไว้ตรงข้างล่างหัวข้อประชุม ตรงนี้ควรเขียนให้เสร็จทันทีหลังจากประชุมเสร็จ โดยเลือกเฉพาะหัวข้อสำคัญของการประชุมครั้งนั้นว่าใจความสำคัญที่สุดคืออะไร และเขียนสรุปด้วยประโยคเดียวที่เมื่อกลับมาดูทีหลังแล้วสามารถนึกความคิดที่มีในตอนนั้นได้ทุกที ในส่วนของเนื้อหา ให้เขียน “ข้อเท็จจริง” ที่สมองจับใจความได้ด้วยการใช้คีย์เวิร์ด เมื่อลองบันทึกไปสักระยะเราจะเริ่มใช้คีย์เวิร์ดต่างๆ ได้คล่องมากขึ้นและเชื่อมโยงประเด็นที่คุยกันได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น ใช้ปากกา 4 สี สีของปากกาที่แนะนำให้ใช้มีทั้งหมด 4 สี ดังนี้ “สีดำ” “สีเขียว” “สีน้ำเงิน” และ “สีแดง” เกณฑ์ในการแบ่งสีมีอยู่สองอย่างคือ “เป็นความเห็นส่วนตัวหรือการมองอย่างเป็นกลาง” และ “ระดับความสำคัญ” สีเขียว […]