จงเลิกพฤติกรรมขยันมากแต่ได้ผลน้อย ด้วย เคล็ดลับการทำงาน ที่ขยันแต่พอประมาณแต่ประสบความสำเร็จกันดีกว่า หลายคนคิดว่าการขยันทำงาน หรือทำงานมากกว่าคนอื่นจะส่งผลดีต่อชีวิต ทว่าในความจริงแล้ว ความขยันเหล่านั้นกลับบั่นทอนกำลังใจในการทำงาน เพราะความพยายามที่เกินพอดีจะทำให้ทั้งร่างกายและจิตใจเหนื่อยล้า ลองมาดู เคล็ดลับการทำงาน ที่ทำให้คุณไม่เหนื่อยฟรีไปตลอดชีวิต! ออกไปทำงานข้างนอกบ้าง คนที่ทำงานล่วงเวลาจนดึกทุกวันไม่ใช่ว่าแค่ทำงานช้าแต่อาจทำงานไม่มีคุณภาพด้วย การไม่สนใจเรื่องภายนอกออฟฟิศเลยส่งผลให้ผลสำเร็จในการทำงานแย่ลง ไม่ว่าจะทำงานฝ่ายผลิต ฝ่ายการเงิน หรือฝ่ายบริการ ไม่มีงานไหนที่ไม่มีความสัมพันธ์กับสังคมภายนอก อย่าลืมว่าการนั่งทำงานแต่ในออฟฟิศทำให้เราละทิ้งการใช้เวลาออกไปเจอโลกภายนอก “ข้างนอก” มีไอเดียสร้างสรรค์อยู่มากมาย เหตุผลที่เราไม่ค่อยออกไปข้างนอกแม้จะไม่ต้องนั่งทำงานที่โต๊ะมีสองข้อ คือหนึ่ง “การต่อต้านทางจิตวิทยา” และรู้สึกว่ามันคือการอู้งาน ถ้าออกไปข้างนอกบ่อยๆ คนอื่นจะคิดว่า “หมอนี่เอาแต่ไปเดินเล่นข้างนอกอยู่เรื่อย” เหตุผลข้อสองคือความรู้สึกในทางจิตวิทยาว่า “การได้อยู่ในที่ของตัวเองนั้นสบายกว่า” รู้สึกสบายใจและโล่งใจกว่าการไปยังที่ที่ไม่คุ้นชิน บางคนจึงชอบทำงานที่โต๊ะเพราะคิดว่ามันสบายดี และยังสามารถนั่งทำงานล่วงเวลาได้ด้วย แต่สำหรับบางคน การทำงานแบบนี้นอกจากจะไม่ช่วยให้ประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้นแล้ว ยังทำให้พื้นฐานของไอเดียหดหายไปด้วย บางคนอาจนั่งที่โต๊ะแล้วคิดไอเดียต่างๆ ออกมามากมาย แต่คนส่วนใหญ่สมองจะทำงานได้เมื่อแขนขาทำงาน แม้แต่นักคิดหรือนักปรัชญายังต้องออกไปเดินเล่นเพื่อให้เกิดไอเดีย หากเรามีเวลาว่างก็ควรออกไปข้างนอกเพื่อกระตุ้นกระบวนการคิดบ้าง เลิกทำงานเป็น Routine สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราเหนื่อยฟรี ก็คือการทำงานเป็น Routine นั่นเอง ทำแบบเดิมซ้ำๆ ทุกวัน ถึงจะทำมากกว่าคนอื่น อยู่ดึกกว่าคนอื่น แต่ผลงานก็ไม่ได้ปรากฎเด่นชัดออกมาเท่าไรนัก […]
Author Archives: AMARINBOOKS TEAM
การสร้าง สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเรียนรู้ ของเด็กเล็กสำคัญมาก เด็กเล็กเปรียบเสมือนผ้าสีขาว ที่แต้มสีอะไรลงไป สีนั้นก็จะติดตัวของเด็กไปตลอด อยากให้ลูกมีพฤติกรรมแบบไหน ขึ้นอยู่กับว่าคุณพ่อคุณแม่สร้างสภาพแวดล้อมแบบไหนให้กับลูก ลองมาดูเหตุผลกันว่าทำไมการสร้าง สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเรียนรู้ จึงสำคัญ การศึกษาและสภาพแวดล้อมเหนือกว่ากรรมพันธุ์ ในประเทศญี่ปุ่นมีการทดลองมากมายว่า หากนำลูกแฝดซึ่งเกิดจากไข่ใบเดียวกันไปเลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันตั้งแต่แรกเกิดจะเป็นอย่างไร ผลการทดลองพิสูจน์ให้เห็นชัดว่า แม้แต่เด็กที่เกิดจากพ่อแม่คู่เดียวกัน แต่ถ้าได้รับการเลี้ยงดูจากบุคคลที่ต่างกัน ในสถานที่ต่างกัน ได้รับการศึกษาต่างกัน อุปนิสัยและความสามารถจะแตกต่างกันมาก ปัญหาอยู่ที่ว่าเราจะให้การศึกษาลูกอย่างไร สร้างสภาพแวดล้อมแบบไหนถึงจะพัฒนาศักยภาพของเด็กได้ดีที่สุด เด็กซึมซับภาษาได้ง่าย มีครอบครัวหนึ่ง สามีต้องไปทำงานที่ต่างประเทศในขณะที่ลูกสาวเพิ่งคลอดมาได้ไม่กี่เดือน เขาจึงส่งภรรยาและลูกสาวไปอยู่กับตาและยายที่ภาคอีสาน 1 ปีผ่านไป เขาก็กลับมาอยู่ที่ไทยถาวร พร้อมทั้งนำภรรยาและลูกสาวกลับมาอยู่ด้วย ตอนนั้นลูกสาวอยู่ในวัยหัดพูด หลังจากนั้นไม่นาน พอเด็กเริ่มหัดพูดได้บ้าง พ่อแม่ถึงกับตะลึง เพราะคำพูดที่หลุดออกมาจากลูกสาวทุกคำเป็นสำเนียงอีสานอย่างชัดเจน ทั้งบ้านมีแต่คนพูดภาษากลางทั้งนั้นยกเว้นลูกสาววัย 2 ขวบคนเดียวเท่านั้นที่พูดภาษาอีสาน ได้ความว่าระหว่างที่เขาไปต่างประเทศ และภรรยากลับไปอยู่บ้านเดิมนั้น ตากับยายรักหลานมากและดูแลอย่างใกล้ชิด ภรรยาของเขายังคิดว่าลูกสาวยังเด็กอยู่ พูดไม่ได้เลยพูดภาษาอีสานกับที่บ้านทุกวัน หลายปีหลังจากนั้นเมื่อเด็กเข้าโรงเรียนประถม แกก็ยังติดสำเนียงอีสานอยู่นั่นเอง เรื่องนี้เป็นเพราะภายในสมองของเด็กมีการสร้างเส้นสายสำเนียงอีสานก่อนที่เด็กจะพูดได้เสียอีก และเมื่อสร้างเส้นสายเสร็จแล้ว ให้วางสายใหม่อีกครั้งนั้นเป็นเรื่องยากมากสำหรับมนุษย์เรา มีผู้กล่าวว่าการทำลายเส้นสายเก่าเพื่อวางเส้นสายใหม่นั้นต้องใช้เวลามากกว่าการวางสายถึง 4 เท่า! ห้องที่ว่างเปล่ามีผลร้ายต่อเด็กเล็ก เพดานขาวสะอาด […]
ของที่ลูกค้ายินดีจ่ายไม่จำเป็นต้องราคาถูก ขายของราคาแพง ก็สามารถดึงดูดลูกค้าได้หากรู้จักอธิบายให้ลูกค้าเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องมีและคุณค่าของสินค้าชนิดนั้นๆ ลองเทียบระหว่างสินค้าตัวเดียวกัน 2 ชิ้นของ 2 ยี่ห้อ เช่น ครีมบำรุงผิวหน้ายี่ห้อแรกราคา 2,490 บาท อีกยี่ห้อหนึ่งราคา 1,490 บาท อาจไม่ได้หมายถึงครีมบำรุงผิวหน้ายี่ห้อที่แพงกว่าจะคุณภาพดีกว่า จริงๆ ส่วนผสมอาจมีคุณภาพเท่าๆ กัน แต่ยี่ห้อหนึ่งเลือกตั้งราคาแพงกว่าอีกยี่ห้อ อาจจะเพราะสร้างแบรนด์ได้ดีกว่าก็เท่านั้น ดังนั้นราคาที่ดึงดูดไม่จำเป็นต้องราคาถูก แต่อาจจะเป็นราคาแพงก็ได้ ลูกค้าที่ชอบของราคาถูกกับลูกค้าที่ชอบของราคาแพงต่างกันอย่างสุดขั้วแต่ประเด็นที่น่าสนใจคือ คนทั้งสองกลุ่มอาจซื้อได้ทั้งของถูกและของแพง ถ้าเขาคิดว่ามันมีคุณค่าพอที่เขาจะซื้อ เทคนิคการ ขายของราคาแพง เหล่านี้จะช่วยให้คุณทำยอดขายได้แรงแซงหน้าคู่แข่ง พูดถึง “คุณค่า” ก่อน “ราคา” ไม่ว่าคุณจะเจอลูกค้ากลุ่มไหน ก็ต้องให้ความสำคัญกับการนำเสนอ “คุณค่า” มากกว่า “ราคา” เพราะนั่นคือจุดที่จะโน้มน้าวลูกค้าได้ดีที่สุด และทำให้เขาเปิดใจฟังได้ง่ายกว่าที่จู่ๆ ก็พูดถึงเรื่องราคา โดยที่เขาแทบไม่รู้รายละเอียดของสินค้าหรือเกิดความรู้สึกร่วมกับสินค้าของคุณแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินเลยว่า “ราคานี้ แพง!” แล้วก็มองว่าสินค้าชนิดนี้ไม่มีคุณค่าเทียบเท่าราคา และยังไม่ได้ฟังเลยว่าสินค้าของคุณมีดีอะไรบ้าง นี่ไม่ใช่ความผิดของลูกค้า แต่เป็นความผิดของคุณ เพราะคุณไม่ยอมอธิบาย หรือ “ราคานี้ ถูกไป” แล้วก็มองว่าสินค้าของคุณไม่ดี […]
บางครั้ง ค่านิยมของสังคม ในปัจจุบัน ทำให้เรารู้สึกอึดอัดไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ชอบทำงานบริษัท แต่ต้องทำ เพราะสังคมยอมรับคนที่มีหน้าที่การงานเป็นหลักแหล่ง ไม่ได้เป็นคนแอ๊คทีฟ ขยัน มุ่งมั่น แต่กำลังอดทนและพยายามเป็นเพราะสิ่งรอบข้างบีบให้เราทำแบบนั้น ถ้ากำลังทรมานกับสิ่งที่ทำอยู่ ก็จงหยุดซะ อย่าให้ค่านิยมของสังคมที่ว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ถึงจะดีมากำหนดสิ่งที่เราอยากทำหรืออยากเป็นจริงๆ ลอง “ไม่ทำ” สิ่งเหล่านี้ตาม ค่านิยมของสังคม แล้วชีวิตจะมีความสุขขึ้นอีกเยอะ ไม่เหนื่อยจนเกินไป ร่างกายของคนเรามีขีดจำกัด อะไรที่มากเกินไปจะทำให้ร่างกายอ่อนแอได้ เช่น แดดแรงมาก ฝนตกหนักมาก อากาศหนาวมาก สิ่งเหล่านี้ทำให้เราป่วยได้ทั้งนั้น รวมไปถึงความเหนื่อยด้วย หากเราทำกิจกรรมอย่างกระปรี้กระเปร่าโดยตลอด ไม่หยุดหย่อนแล้วละก็ จะทำให้รู้สึกเหนื่อย ฝืน และอ่อนล้าเกินไป การมีช่วงเวลาพักเชิงบังคับ หรือเป็นเวลาตายตัวเป็นสิ่งที่ดี ช่วงวันหยุดจงพักผ่อนให้เต็มที่ นอนหลับอุตุอย่างสบายใจในห้อง คิดทบทวนเรื่องที่ตัวเองทำไปในช่วงนี้ หรือจัดข้าวของที่มีให้เข้าที่ รีเซตนิสัยที่ทำต่อเนื่องจนเคยชิน เช่น ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป หรือการกินอาหารขยะ ช่วงเวลาที่พักทำให้ได้ชาร์จพลังงานในการดำเนินชีวิตและมีความรู้สึกอยากทำงาน เป็นการเตรียมรับมือกับช่วงที่จะออกไปทำกิจกรรม อาการป่วยหรือเหนื่อย เป็นสัญญาณร้องขอความช่วยเหลือจากร่างกาย ดังนั้นตอนที่รู้สึกป่วยหรือเหนื่อยก็ควรพักผ่อนสบายๆ โดยไม่ต่อต้านสภาพร่างกายจะดีกว่า ไม่จำเป็นต้องรู้สึกเสียใจกับงานที่ค้างคาเพราะป่วย ในบางครั้งก็ควรพักผ่อนและนอนให้เต็มที่กันเถอะ ไม่ทำเองทั้งหมด สังคมการทำงานปลูกฝังให้เรารู้จักรับผิดชอบงานของตัวเอง […]
การมี เรื่องที่ต้องทำ เยอะแยะไปหมด เช่นเรื่องงานที่มีโปรเจกต์นู่นนี่เข้ามาแทรกจนจัดตารางงานไม่ได้ หรือเรื่องส่วนตัวที่ต้องจัดการ ต้องซักผ้า ถูบ้าน พาแม่ไปหาหมอ ฯลฯ การที่ต้องถูกกำหนดการต่างๆ ไล่ตามทุกวันจะทำให้เราเป็นโรคเครียดได้ ถ้ายังต้องใช้สมุดแพลนเนอร์ หรือกิจกรรมต่างๆ ในปฏิทินในสมาร์ทโฟนแล้วละก็ แสดงว่าคุณมีกำหนดการที่ยุ่งเหยิงพอสมควรเลย คนส่วนใหญ่มักหงุดหงิดเมื่อต้องทำหลายสิ่งหลายอย่างในช่วงสั้นๆ ถ้าสิ่งนั้นสำเร็จไปได้ด้วยดีก็เป็นเรื่องน่ายินดี แต่ส่วนใหญ่มักไม่เป็นแบบนั้นด้วยสิ เทคนิคหยุดพัก เรื่องที่ต้องทำ จะช่วยให้สุขภาพของคุณดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เว้นช่องไฟบ้าง สำหรับคนที่งานยุ่งตลอดทั้งสัปดาห์ ควรจัดตารางงานวันไหนสักวันหนึ่ง โดยให้ครึ่งวันนั้นสบายๆ ไม่เร่งรีบบ้าง สำหรับคนที่ไม่ได้งานยุ่งขนาดนั้น ลองนำไปใช้ในการกำหนดตารางงานของตัวเองดู โดยให้แต่ละกิจกรรมเว้นช่วง ไม่ติดมากจนเกินไป เช่น เมื่อเสร็จงานหนึ่งแล้ว ให้ออกไปเดินเล่น 5 นาที ไปสูดอากาศ หลับตานิ่งๆ กินขนม ใดๆ ก็แล้วแต่ที่ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย แล้วจึงเริ่มลงมือทำงานถัดไป การทำงานติดต่อกันโดยไม่หยุดแม้แต่จะลุกไปเข้าห้องน้ำ ส่งผลให้สมองทำงานหนักจนเกินไป จนอาจทำให้เกิดอาการปวดหัว วิงเวียนศีรษะ หรือเป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้ ในกรณีที่ยุ่งจนไม่มีเวลาเข้าห้องน้ำ ความพยายามที่มากเกินไปส่งผลให้งานแย่ลง ในวงการกีฬา หากมีการฝึกซ้อมต่อเนื่องที่ยาวนานเกินไป ความเหนื่อยล้าอาจทำให้สถิติไม่ดีขึ้นได้ ฟอร์มการเล่นก็ตกลงด้วย หากเป็นความเหน็ดเหนื่อยในระดับปกติ […]
เซลล์สมองมนุษย์จะเติบโตเต็มที่ภายในอายุ 3 ขวบ นี่เป็นเหตุผลที่คุณพ่อคุณแม่ต้องใส่ใจ พัฒนาการของเด็ก ในช่วง 0-3 ขวบมากเป็นพิเศษ เพราะความสามารถและอุปนิสัยส่วนใหญ่ของคนเราจะถูกกำหนดในช่วงเวลานี้เช่นกัน มาดูกันว่าทำไมคุณพ่อคุณแม่ถึงต้องเอาใจใส่กับ พัฒนาการเด็ก ในช่วง 0-3 ขวบเป็นพิเศษ เด็กแรกเกิดมีศักยภาพมหาศาล ระยะแรกเกิด คนเรามีความสามารถแค่ร้องไห้กับดูดนมเป็นเท่านั้น ในขณะที่สัตว์อื่นๆ ไม่ว่าหมา ม้า ลิง พอเกิดออกมาก็ยืนได้ เดินได้ทันที เพราะเหตุนี้สัตว์อื่นจึงมีความสามารถหลายอย่าง เช่น ความสามารถในการเดินติดตัวมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ส่วนมนุษย์ต้องเกิดมาในสภาพที่ยังทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้เลย ซึ่งหมายความว่าความสามารถของเด็กแรกเกิดนั้นขึ้นอยู่กับการศึกษาหลังจากที่ลืมตาดูโลกแล้ว ถ้าอยากให้เด็กแรกเกิดมีความสามารถอะไรก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเขียนอะไรลงไปในกระดาษขาวนั้น ในทางตรงข้าม ถ้าในระยะแรกเกิดแล้วปล่อยปละละเลยไม่สนใจ เด็กก็อาจหยุดอยู่ในสภาพสมองว่างเปล่าเช่นนั้น เด็กจำอักษรยากๆ ได้ง่ายกว่าอักษรง่ายๆ มีคุณแม่คนหนึ่งเล่าว่า ลูกชายอายุ 2 ขวบครึ่งเริ่มจำลักษณะของรถยนต์ต่างๆ ได้ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ภายใน 2-3 เดือนแกก็บอกได้ว่ารถคันไหนเป็นรถอะไรเกือบ 40 ชนิด รถบางคันแม้มีผ้าคลุมรถอยู่แกก็ทายได้ว่าเป็นรถอะไร นอกจากนั้นยังสามารถบอกธงประจำชาติของประเทศต่างๆ ได้กว่า 30 ประเทศ แม้แต่ธงชาติของมองโกเลีย […]
หลายคนคิดว่าถ้าอยาก เงินเดือนสูง ต้องทำงานสายงานพวกวิศวกร คอมพิวเตอร์ สถาปนิก หรือแพทย์เท่านั้น ทั้งที่ความจริงแล้วเราทุกคนสามารถพัฒนาวิธีการทำงานเพื่อเพิ่มเงินเดือนให้ตัวเองได้ เทคนิคที่จะแนะนำนี้ เป็นวิธีการทำงานจากประเทศญี่ปุ่นที่จะช่วยให้คุณมี เงินเดือนสูง ไม่ว่าจะอยู่ในองค์กรไหน จงเป็นคนที่สร้างเงินสดได้ การฝากเงินสดไว้ที่ธนาคารได้ดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อย แทบไม่ได้กำไรเลย หรือเวลานำสินค้าไปขายแล้วได้เงินก็จริง แต่ก็ไม่อาจทำเงินได้มากกว่าราคาของมันเอง แต่ถ้าเป็นสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนเช่นที่ดิน หรือโรงงานจะก่อให้เกิดค่าเช่าหรือผลิตสินค้าระยะยาวได้ จึงมีพลังในการสร้างเงินสดที่สูงกว่าสินค้า สิ่งที่สร้างเงินสดได้มากที่สุดคือคนและพลังของแบรนด์ ไม่ว่าเครื่องจักรจะดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีคนใช้สิ่งเหล่านี้ ก็จะไม่ก่อให้เกิดการสร้างเงินสดมหาศาล เหตุผลที่บางบริษัทเรียกบุคลากรว่าเป็น “ทรัพยากรบุคคล” ก็เพราะคนเป็นทรัพย์สินที่สำคัญที่สุดสำหรับบริษัทนั่นเอง ถ้าไม่มีคน บริษัทก็เพิ่มมูลค่าของสินค้า บริการ และหลักทรัพย์ไม่ได้ เราทุกคนจึงต้องมุ่งหวังที่จะเป็น “คนที่สร้างเงินสดได้” ยิ่งสร้างเงินสดให้กับบริษัทได้มากเท่าไร เงินเดือนของคุณก็จะสูงขึ้นเท่านั้น ตำแหน่งไม่ส่งผลกับเงินสด บางคนคิดว่าตำแหน่งงานเป็นสิ่งที่บ่งบอกมูลค่าของตัวเอง ไม่ว่าจะอยู่ในแวดวงไหนก็มีคนคิดแบบนี้มากจนน่าตกใจ และมัวแต่ภาคภูมิใจในตำแหน่ง ติดนิสัยพูดจาวางโตเป็นประจำ คุณจะไม่มีทางหาช่องทางทำเงินอื่นๆ ได้เลย นี่ถือเป็นทางตันสำหรับคนที่เอาแต่พึ่งพาตำแหน่งและไม่ขวนขวายหาวิธีเพิ่มมูลค่าตัวเอง คุณใช้ประโยชน์จากชื่อบริษัทและตำแหน่งได้ในระหว่างที่ยังทำงานในบริษัทเท่านั้น ชื่อบริษัทใหญ่และตำแหน่งทำให้ผู้คนที่ติดต่อด้วยไม่เพิกเฉย และได้รับการปฏิบัติอย่างดี แต่นั่นเป็นเพียงความเคารพที่มีต่อชื่อบริษัทและตำแหน่งเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าบุคคลนั้นจะได้รับการยกย่องไปด้วย ถ้าไม่อยากรู้สึกผิดหวังเมื่อต้องออกมาทำงานนอกบริษัท ให้ตั้งเป้าหมายไปที่การเพิ่มมูลค่าให้ตัวเอง บางทีตำแหน่งธรรมดาในบริษัท อาจจะเงินเดือนสูงกว่าตำแหน่งใหญ่ในอีกบริษัทหนึ่งก็เป็นได้นะ ทำงานให้เหมือนเป็นประธานบริษัท […]
การ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เริ่มต้นด้วยการพักผ่อนให้ถูกวิธี การที่เรามัวแต่กังวลเรื่องงานแม้แต่ในวันหยุด หรือถึงเวลานอนก็นอนไม่ได้ ต้องขอแตะงานนิดๆ หน่อยๆ พฤติกรรมแบบนี้นอกจากจะทำให้เสียสุขภาพแล้ว ยังทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าในทุกๆ วันอีกด้วย การพักผ่อนที่จะช่วย เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทำได้ด้วยวิธีเหล่านี้ แบ่งเวลาเป็นช่วงๆ มาตรการที่ได้ผลดีสำหรับคนที่เสพติดการทำงานวันหยุด หรือหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ คือการแบ่งเวลาเป็นช่วงๆ เช่น แบ่งเป็นช่วงเช้ากับช่วงบ่าย ถ้าใช้เวลาช่วงเช้าทำงานแล้ว เวลาในช่วงบ่ายจะตัดเรื่องงานออกไป โดยให้เวลากับสิ่งที่ตัวเองชอบ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย เล่นเกม ดูภาพยนตร์ หรือจะแบ่งเป็น 3 ช่วงคือ เช้า บ่าย และกลางคืนก็ได้เช่นกัน หรืออาจยอมจำนนไปเลยว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่คิดเรื่องงานในวันหยุด แล้วกำหนดว่าช่วงไหนจะทำงานหรือทำเรื่องส่วนตัวอื่นๆ หากกำหนดแบบนี้ ถึงแม้ช่วงเช้าจะดูโทรทัศน์ไปเรื่อยเปื่อย แต่ช่วงบ่ายได้วางแผนทำงานอย่างอื่นไว้แล้ว จึงสามารถเปลี่ยนโหมดความรู้สึกได้ง่ายขึ้น พักผ่อน 5 นาทีระหว่างวัน เมื่อพูดถึงการพักผ่อน คนมักนึกถึงการนอนบนเตียงโดยไม่ทำอะไรเลย หรือใช้ชีวิตเรียบๆ ในบ้านของตัวเอง แต่หากมองอีกด้านหนึ่ง การพักผ่อนก็คือการได้ทำกิจกรรมที่ชื่นชอบเช่นกัน จะรอให้ถึงวันหยุดก็ดูจะนานไปหน่อย ลองมาพักผ่อนทำสิ่งที่ชอบ 5 นาทีระหว่างวันดู เช่น “กินขนมหวาน” […]
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการ พัฒนาการทำงาน ให้ดีขึ้นอันดับต้นๆ ต้องเริ่มจากตัวเองก่อน ความพยายามเป็นเรื่องที่ดี แต่หากพยายามแบบผิดวิธี อาจเหนื่อยฟรี และไม่ก้าวหน้าได้ แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่าความพยายามที่เราทำอยู่ จะส่งผลให้การทำงานดีขึ้นได้ บางครั้งคุณอาจรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงานในทุกวัน หรือต้องนำงานกลับมาทำที่บ้าน ทั้งที่ควรจะเป็นเวลาพักผ่อน การทำงานแบบนี้นอกจากจะเหนื่อยฟรีแล้ว ยังไม่ได้พัฒนาการทำงานด้วย ยังทำงานหนักเท่าเดิม หรือหนักกว่าเดิม และเหนื่อยเหมือนเดิมวนลูปอยู่แบบนั้น ลองมาดูวิธี พัฒนาการทำงาน ที่คุณจะไม่เหนื่อยฟรีอย่างแน่นอน เพิ่มความรวดเร็ว ความรวดเร็วเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ถ้าอยากพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้น ความรวดเร็วหมายถึง การลงมือทำก่อนคนอื่น รวมถึงการคิดและเริ่มต้นทำงานให้เร็วกว่าคนอื่นเสมอ ส่วนความรวดเร็วอย่างที่สองคือ การทำงานให้เร็วขึ้นกว่าเดิม ถ้าไม่หัดทำงานให้เร็วขึ้นอยู่เรื่อยๆ เราก็จะทำงานช้าอยู่อย่างนั้น หากเราทำงานโดยนึกถึง ความรวดเร็ว ทั้งสองแบบนี้ เราก็สามารถทำงานให้เร็วขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพได้ และสาเหตุที่ทำให้เราทำงานช้า หรือไม่ทันกำหนดส่งงานเป็นเพราะทำงานเป็น Routine ประเด็นแรกเลยจะต้องเลือกทิ้งในส่วนงานที่ไม่จำเป็น ประเด็นที่สองคือต้องปฏิรูปขั้นตอนในการทำงาน ตัวอย่างเช่น ในการผลิตสินค้า ที่ผ่านมาจะตรวจสอบคุณภาพสินค้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย ก็อาจยกขั้นตอนนี้มาทำก่อนหน้า หรือแทนที่จะทำงานไล่ไปเป็นลำดับ ก็อาจนำบางงานมาทำพร้อมกัน เป็นต้น ส่วนประเด็นที่สาม คือ ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานในแผนกหลักๆ ทั้งหมด โดยคอยสังเกตว่า ที่งานออกมาช้าเนื่องจากติดขั้นตอนไหน และจะแก้ไขได้ด้วยวิธีใด การทำงานเป็น […]
การ จัดโต๊ะทำงาน ถือเป็นการบ่งชี้ประสิทธิภาพในการทำงานเลยก็ว่า ยิ่งโต๊ะรกมากเท่าไร นั่นหมายความว่าคุณไม่สามารถจัดระเบียบชีวิต หรือการทำงานได้เลย การจัดโต๊ะทำงานให้มีระเบียบและเหลือสิ่งของน้อยชิ้น จะทำให้คุณรู้สึกโล่งสบายและทำงานสะดวกขึ้นหลายเท่านัก มาดูกันว่าการ จัดโต๊ะทำงาน สไตล์มินิมัล จะช่วยให้คุณทำงานง่ายขึ้นอย่างไร จัดการเอกสาร สิ่งแรกที่ทำให้โต๊ะคุณรก ไม่เป็นระเบียบก็คือกองเอกสารที่สุมจนท่วมโต๊ะนั่นละ ถ้าต้องการรักษาพื้นที่ทำงานให้อยู่ในระดับ “น้อยแต่สบายใจ” การจัดการกับเอกสารต่างๆ จะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ถ้าคุณจัดการกับเอกสารต่างๆ ทุกวัน ก็จะรู้ว่าเอกสารชิ้นไหนสำคัญจริงๆ และมีสมาธิกับสิ่งนั้นได้มากขึ้น คนเราได้รับอิทธิพลจากสิ่งที่ตาเห็นได้ง่ายกว่าสิ่งที่คิด เพื่อไม่ให้เรารู้สึกสับสันกับความรกของกองงาน จึงจำเป็นต้องแยกเอกสารออกเป็น 4 กลุ่มดังนี้ 1.เอกสารสำหรับใช้งานจริง 2.เอกสารสำหรับสแกน 3.เอกสารสำหรับเก็บ 4.เอกสารที่จะนำไปทิ้ง เอกสารที่ใช้งานจริง คือเอกสารที่ยังใช้งานอยู่ เช่น เอกสารที่ใช้ทำโปรเจ็กต์ ซึ่งเป็นประเภทที่มีมากที่สุดและยังเพิ่มขึ้นทุกวันด้วย นอกจากจะแบ่งกองแล้ว ยังต้องแบ่งตามความถี่ของการหยิบมาใช้งานด้วย เช่น เอกสารที่ใช้ประกอบการทำงาน หรือเอกสารแสดงความคืบหน้าของงาน จะต้องวางไว้ในที่ที่หยิบมาดูง่ายที่สุด แต่ไม่ถึงกับต้องใส่แฟ้มอย่างดี เพราะหยิบมาใช้งานได้ยาก เอกสารสำหรับสแกน เอกสารประเภทนี้คือเอกสารที่อาจต้องหยิบมาใช้อ้างอิงบางครั้ง เช่น เอกสารโปรเจ็กต์ที่เสร็จสิ้นแล้ว แค็ตตาล็อกต่างๆ และเอกสารรายงานผลประกอบการ ควรใช้แฟ้มใส่เอกสาร […]