เชิญร่ำสุรา 將進酒 ถังจิ่วชิง 唐酒卿 กอหญ้า แปล “เจ้าก้าวเข้ามาในถิ่นของข้าทีละก้าว ปล่อยให้ข้าหยั่งเชิงเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า จุดประสงค์ก็เพื่อค่ำคืนนี้ เพื่อลงเรือลำเดียวกับข้า” เซียวฉือเหย่โน้มตัวไปข้างหน้าช้าๆ สายตาเย็นชา “แต่หากคืนนี้ข้าสืบไม่ได้ว่าผู้บงการเบื้องหลังคือ… ไม่ล่วงรู้จุดประสงค์ของเจ้า เจ้าก็จะเหยียบข้าลงไปอย่างแท้จริง ใช้ข้าเป็นแท่นเพื่อก้าวขึ้นไปใช่หรือไม่” “เจ้าเป็นหมาป่าจมูกไว” เสิ่นเจ๋อชวนพูด “ไฉนจึงพูดเหมือนตัวเองน่าสงสารเช่นนั้นเล่า หากข้ามิใช่ข้า เจ้าไม่มีทางเปิดโอกาสให้ข้าเหยียบย่างเข้ามา พวกเราจะไม่มีแม้กระทั่งการสนทนากันด้วยซ้ำ เจ้ากับข้าเป็นคนประเภทนี้แหละ แทนที่จะมาคาดคั้นข้า ไยจึงไม่ถามตัวเจ้าเองดูก่อนเล่า” เซียวฉือเหย่พูด “เจ้าต่างหากที่เป็นสารเลว” เสิ่นเจ๋อชวนตอบ “สารเลวที่มีเป้าหมายเดียวกันหาไม่ง่ายนะ” เซียวฉือเหย่ไม่อ้อมค้อมกับเขาอีกตรงเข้าประเด็น “บัดนี้เป็นเจ้าที่ต้องการยืมอำนาจข้า ทว่าการเป็นพันธมิตรก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนบางอย่างจึงจะสำเร็จได้” “พวกเรามีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน” เสิ่นเจ๋อชวนตอบ —.—.—.—.—.—.—.—.—.— ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ บทที่ 51 จอมทัพ เซียวฉือเหย่ใช้นิ้วโป้งเช็ดมุมปากในความมืด ตรงนั้นยังหลงเหลือคราบสุราอยู่ เขาพูด […]
Author Archives: AMARINBOOKS TEAM
เชิญร่ำสุรา 將進酒 ถังจิ่วชิง 唐酒卿 กอหญ้า แปล “เจ้าก้าวเข้ามาในถิ่นของข้าทีละก้าว ปล่อยให้ข้าหยั่งเชิงเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า จุดประสงค์ก็เพื่อค่ำคืนนี้ เพื่อลงเรือลำเดียวกับข้า” เซียวฉือเหย่โน้มตัวไปข้างหน้าช้าๆ สายตาเย็นชา “แต่หากคืนนี้ข้าสืบไม่ได้ว่าผู้บงการเบื้องหลังคือ… ไม่ล่วงรู้จุดประสงค์ของเจ้า เจ้าก็จะเหยียบข้าลงไปอย่างแท้จริง ใช้ข้าเป็นแท่นเพื่อก้าวขึ้นไปใช่หรือไม่” “เจ้าเป็นหมาป่าจมูกไว” เสิ่นเจ๋อชวนพูด “ไฉนจึงพูดเหมือนตัวเองน่าสงสารเช่นนั้นเล่า หากข้ามิใช่ข้า เจ้าไม่มีทางเปิดโอกาสให้ข้าเหยียบย่างเข้ามา พวกเราจะไม่มีแม้กระทั่งการสนทนากันด้วยซ้ำ เจ้ากับข้าเป็นคนประเภทนี้แหละ แทนที่จะมาคาดคั้นข้า ไยจึงไม่ถามตัวเจ้าเองดูก่อนเล่า” เซียวฉือเหย่พูด “เจ้าต่างหากที่เป็นสารเลว” เสิ่นเจ๋อชวนตอบ “สารเลวที่มีเป้าหมายเดียวกันหาไม่ง่ายนะ” เซียวฉือเหย่ไม่อ้อมค้อมกับเขาอีกตรงเข้าประเด็น “บัดนี้เป็นเจ้าที่ต้องการยืมอำนาจข้า ทว่าการเป็นพันธมิตรก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนบางอย่างจึงจะสำเร็จได้” “พวกเรามีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน” เสิ่นเจ๋อชวนตอบ —.—.—.—.—.—.—.—.—.— ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ บทที่ 50 ลงเรือลำเดียวกัน “การหยั่งเชิงเป็นเพียงการโยนหินถามทาง” เซียวฉือเหย่แววตาเย็นชา “การเปิดเผยอย่างจริงใจเปรียบเหมือนการเปลื้องอาภรณ์ […]
โอตาคุวันสิ้นโลก 重生宅男的末世守则 暖荷 หน่วนเหอ เขียน เมิ่งเหวิน เเปล นิยาย 7 เล่มจบ ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ ____________________________________ บทที่ 129 ความแค้น ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง ยังคงรู้สึกเพียงแค่เจอกันแต่ไม่รู้จักกัน หลัวซวินกับเหยียนเฟยเปิดประตูกลับเข้าบ้านตัวเอง แต่ยังไม่ทันได้กดสวิตช์ไฟบนผนัง ทั้งสองก็เห็นแสงไฟจากดวงตาคู่หนึ่งพุ่งมาทางพวกเขา ถ้าไม่เพราะได้ยินเสียงหายใจ ‘แฮ่ๆ’ ปนมากับเสียงคราง ทั้งสองก็เกือบจะโจมตีใส่มันเพราะนึกว่าเป็นสัตว์ประหลาดอะไรสักอย่างไปแล้ว “ช้าๆ หน่อย ค่อยๆ… ไหนให้ฉันดูลูกตาแกหน่อยซิ ทำไมมันสว่างแบบนั้น ทำคนอื่นตกอกตกใจหมด เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้เลยนี่นา” หลัวซวินพูดพลางเอื้อมมือไปเปิดไฟ เจ้าตัวเล็กกำลังยืนด้วยสองขาหลังตะกายอยู่ด้านข้างตัวเขา มันใช้สองขาหน้าเกาะก่าย และใช้หัวดุนๆ มุดๆ เข้าหาอ้อมกอดเจ้านาย ซุกไซ้อย่างออดอ้อน หลัวซวินสังเกตลักษณะท่าทางของมันอย่างละเอียด ทุกอย่างยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรแตกต่างจากเมื่อก่อนเลยสักนิด เพียงแต่… “เมื่อกี้ตาของมันสว่างขึ้นได้ยังไง เหมือนกับสะท้อนแสงได้เลย” เมื่อครู่เหยียนเฟยก็เห็นเหมือนกัน เขาหันกลับไปมองโถงทางเดินหน้าห้องอีกครั้งโดยอัตโนมัติ “บางทีอาจเป็นแสงสะท้อนจากโถงทางเดินล่ะมั้ง” วันนี้พวกเขากลับดึกมาก จึงเปิดไฟไว้ให้พืชที่ปลูกอยู่ตรงโถงทางเดินไว้ใช้สังเคราะห์แสงทิ้งไว้ตั้งแต่ออกไปข้างนอก แถมเมื่อกี้เจ้าตัวเล็กก็อยู่แถวหน้าประตูพอดี […]
โอตาคุวันสิ้นโลก 重生宅男的末世守则 暖荷 หน่วนเหอ เขียน เมิ่งเหวิน เเปล นิยาย 7 เล่มจบ ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ ____________________________________ บทที่ 128 โถชักโครก โถชักโครกกับตึกถล่ม “เฮ้ย!” “อะไรวะเนี่ย” หวังตั๋วไม่ทันเห็นสิ่งที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าจนเกือบสะดุดล้ม หานลี่ซึ่งอยู่ข้างๆ จึงส่องไฟฉายไปที่พื้น ทุกคนเห็นแล้วถึงกับผงะถอยหลัง…คนตาย ที่จริงถ้าเป็นศพคนตาย พวกเขาก็ไม่ได้หวาดกลัวอะไร เพราะต่างก็ฆ่าซอมบี้ เก็บกวาดซากศพซอมบี้มาไม่รู้ตั้งเท่าไรต่อเท่าไรแล้ว แต่ว่า… “ถูกฆ่าตั้งแต่ตอนที่ยังมีชีวิต” หลัวซวินตรวจดูสภาพศพ “น่าจะตายยังไม่ถึงเดือน ศพยังเน่าไม่เยอะ” เขาพูดพลางปัดไม้ปัดมือแล้วชี้ไปยังทางเดินอีกด้าน “คงขัดแย้งกันเอง ไม่ได้ถูกซอมบี้ฆ่าหรอก ไปกันเถอะ” ทุกคนต่างสั่นสะท้านในใจ พวกเขาหายใจเข้าลึกๆ แล้วรีบเดินอ้อมบริเวณนี้ไป พวกเขาช่วยกันยกโถชักโครกที่เป็นสินค้าตัวอย่างสองรุ่นนี้ไปที่โกดังด้วย…ควรออกมาทำภารกิจนอกฐานกับทีมที่เชื่อใจกันได้จริงๆ ไม่งั้นถ้าพวกเขาไปรวมกลุ่มกับทีมอื่นส่งเดช บางทีก็บอกไม่ได้ว่าจะต้องเจอกับสถานการณ์ถูกฆ่าตายข้างนอกเอาตอนไหน แบบนั้นสู้หางานทำอยู่แต่ในฐานที่มั่นเสียยังดีกว่า โกดังของที่นี่หลายคนในทีมโอตาคุก็เคยมากันแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนั้นไม่เจอคลังเครื่องสุขภัณฑ์ ดังนั้นคราวนี้พวกเขาจึงเดินผ่านบริเวณที่พวกเขาเคยสำรวจไปแล้วเมื่อคราวก่อน เพื่อข้ามไปค้นหายังจุดอื่น แต่ทันทีที่พวกเขาเข้ามาในนี้ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่า ‘คนหมู่มากสร้างพลังที่ยิ่งใหญ่ได้โดยแท้’ ทุกสิ่งทุกอย่างที่คนสนใจอยากได้ […]
ปัจจัยของความสำเร็จในอเมริกายุคโควิด ไม่ใช่ความสามารถ ไม่ใช่การทำงานหนัก ไม่ใช่โชค แต่กลับเป็น “จำนวนเงินที่พ่อแม่มี” มารู้จักระบบชนชั้นในอเมริกายุคนี้ ที่แม้หลายคนจะมองว่าอเมริกาคือประเทศมหาอำนาจ เจริญรุ่งเรือง แต่ทำไมการศึกษาครั้งแล้วครั้งเล่ากลับพบว่า คนอเมริกันอายุสั้นลง อิสระน้อยลง และไม่มีความสุขใน ระบบชนชั้นใหม่ของ USA ยุคโควิค เป็นเศรษฐีคือเรื่องยาก ! ดิสนีย์แลนด์ส่วนตัว ความเหลื่อมล้ำหยั่งรากลึกอยู่ในหลักเกณฑ์การเสียภาษี ระบบการศึกษา และบริการสาธารณะที่เลวร้าย ตอนนี้พวกมันกำลังฝังตัวลงในวัฒนธรรมของเรา เมื่อก่อน ชาวอเมริกันต่างเคยสัมผัสดิสนีย์แลนด์เดียวกัน เราทุกคนสามารถซื้อตั๋วที่ดีที่สุด ในราคา 9.5 เหรียญสหรัฐ และเข้าแถวรอ 45 นาทีเพื่อเล่นไพเรทส์ออฟเดอะแคริบเบียน แต่ในตอนนี้สิทธิพิเศษต่าง ๆ ก็จะแตกต่างไปตามราคาตั๋วที่คุณจ่าย สำหรับคนที่ไม่มีเงินมากนัก ก็จะคิดราคานึง ได้กินอาหารธรรมดา ๆ เข้าแถวรอคิวนาน แต่ถ้าคุณรวยกว่านั้นหน่อยคุณจะได้ Fast Pass ที่เข้าคิวรอแค่สิบนาที หรือถ้ารวยกว่านั้นอีก คุณจะได้รับบริการแบบวีไอพี จัดเต็มทั้งไกด์นำเที่ยว อาหารในห้องพิเศษ ได้เข้าหลังเวที ลัดคิวเล่นเครื่องเล่น และผ่านเข้าออกโดยทางของพนักงานด้วย ว่าด้วยการศึกษา จากที่ดิสนีย์แลนด์ได้นำระบบชนชั้นมาใช้ ให้คุณลองแทนที่คำว่า “ดิสนีย์แลนด์” […]
ยุคสมัยแห่งธิดาอ๋อง 王女韶华 溪畔茶 ซีพั่นฉา เขียน ภวิษย์พร แปล — โปรย — มู่หยวนอวี๋ที่เติบใหญ่อยู่ในเมืองหลวง มาถึงวันที่ต้องเผชิญเหตุอับจนหนทาง จำต้องลี้ภัยกลับมาสู่มาตุถูมิในดินแดนใต้เพื่อรักษาชีวิต ผู้ที่ล่วงรู้ความลับสำคัญคือผู้ช่วยที่สำคัญ เขาคือผู้ที่เปิดโอกาสให้มู่หยวนอวี๋หลบหนีออกจากเมืองหลวง และเขายังเป็นผู้ฝาก “ขวดน้ำมันน้อย” ไว้กับมู่หยวนอวี๋ ชะตาชีวิตของมู่หยวนอวี๋ที่ต้องคิดหาวิธีล้างมลทิน รักษาชีวิตตัวเอง ค้นหาตัวผู้บงการซึ่งอยู่เบื้องหลังเหตุร้ายทั้งหมด และยังต้องดูแล “ขวดน้ำมันน้อย” จะเป็นอย่างไร _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) บทที่ 149 มู่หยวนอวี๋ไม่เข้าใจเลยสักนิด หลังจากผ่านวันปีใหม่ที่เงียบสงบมานางก็ค้นพบว่า โรคเหม่อลอยง่ายของนางไม่เพียงแต่ไม่หายไป กลับยังเพิ่มอาการใหม่เข้ามาเหนื่อยง่ายขึ้น นี่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดยิ่งนัก ตามหลักแล้วนางกลับมาบ้าน ภายใต้การดูแลด้วยความรักและเอาใจใส่อย่างทั่วถึงของมารดาที่รักบุตรอย่างพระชายาเตียนหนิงอ๋อง ต่อให้เดิมทีจะเจ็บไข้ไม่สบายเล็กน้อยก็น่าจะหายดีเพราะได้รับความรักการดูแลแล้วถึงจะถูก แต่นี่กลับไม่เป็นเช่นนั้น ซ้ำร้ายยังกลายเป็นในทางตรงกันข้าม หากเป็นช่วงเวลาปกติ การแสดงออกทางร่างกายนี้คงไม่ชัดเจนนัก แต่หลังจากที่นางกลับมาก็ไม่เคยมีวันใดที่ได้หยุดพัก ทุกวันต้องสิ้นเปลืองพลังความคิดมหาศาลในการช่วยเตียนหนิงอ๋องลากดึงฐานที่มั่นที่น่าสงสัยของกากเดนราชวงศ์ก่อนในชายแดนใต้ออกมา พบผู้ใต้บังคับบัญชาของเตียนหนิงอ๋องแทนเขา อีกทั้งยังต้องแบ่งความสนใจส่วนหนึ่งไปไว้ที่หลิ่วฮูหยิน วิเคราะห์เส้นทางที่นางอาจจะหลบหนีจากข้อมูลที่มีอยู่ในตอนนี้แล้วคัดเลือกคน ก่อนจะส่งตัวคนไปตามจับอย่างเป็นความลับ ภายใต้การเผาผลาญพละกำลังกายใจอย่างสูงและถี่กระชั้นนี้ […]
เชิญร่ำสุรา 將進酒 ถังจิ่วชิง 唐酒卿 กอหญ้า แปล “เจ้าก้าวเข้ามาในถิ่นของข้าทีละก้าว ปล่อยให้ข้าหยั่งเชิงเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า จุดประสงค์ก็เพื่อค่ำคืนนี้ เพื่อลงเรือลำเดียวกับข้า” เซียวฉือเหย่โน้มตัวไปข้างหน้าช้าๆ สายตาเย็นชา “แต่หากคืนนี้ข้าสืบไม่ได้ว่าผู้บงการเบื้องหลังคือ… ไม่ล่วงรู้จุดประสงค์ของเจ้า เจ้าก็จะเหยียบข้าลงไปอย่างแท้จริง ใช้ข้าเป็นแท่นเพื่อก้าวขึ้นไปใช่หรือไม่” “เจ้าเป็นหมาป่าจมูกไว” เสิ่นเจ๋อชวนพูด “ไฉนจึงพูดเหมือนตัวเองน่าสงสารเช่นนั้นเล่า หากข้ามิใช่ข้า เจ้าไม่มีทางเปิดโอกาสให้ข้าเหยียบย่างเข้ามา พวกเราจะไม่มีแม้กระทั่งการสนทนากันด้วยซ้ำ เจ้ากับข้าเป็นคนประเภทนี้แหละ แทนที่จะมาคาดคั้นข้า ไยจึงไม่ถามตัวเจ้าเองดูก่อนเล่า” เซียวฉือเหย่พูด “เจ้าต่างหากที่เป็นสารเลว” เสิ่นเจ๋อชวนตอบ “สารเลวที่มีเป้าหมายเดียวกันหาไม่ง่ายนะ” เซียวฉือเหย่ไม่อ้อมค้อมกับเขาอีกตรงเข้าประเด็น “บัดนี้เป็นเจ้าที่ต้องการยืมอำนาจข้า ทว่าการเป็นพันธมิตรก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนบางอย่างจึงจะสำเร็จได้” “พวกเรามีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน” เสิ่นเจ๋อชวนตอบ —.—.—.—.—.—.—.—.—.— ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ บทที่ 48 ซ้อนแผน หลี่เจี้ยนเหิงฝันร้าย เขาฝันถึงคืนวันฝนตกในลานล่าสัตว์หนานหลิน กิ่งไม้คมหวดตีใบหน้าเขา […]
เชิญร่ำสุรา 將進酒 ถังจิ่วชิง 唐酒卿 กอหญ้า แปล “เจ้าก้าวเข้ามาในถิ่นของข้าทีละก้าว ปล่อยให้ข้าหยั่งเชิงเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า จุดประสงค์ก็เพื่อค่ำคืนนี้ เพื่อลงเรือลำเดียวกับข้า” เซียวฉือเหย่โน้มตัวไปข้างหน้าช้าๆ สายตาเย็นชา “แต่หากคืนนี้ข้าสืบไม่ได้ว่าผู้บงการเบื้องหลังคือ… ไม่ล่วงรู้จุดประสงค์ของเจ้า เจ้าก็จะเหยียบข้าลงไปอย่างแท้จริง ใช้ข้าเป็นแท่นเพื่อก้าวขึ้นไปใช่หรือไม่” “เจ้าเป็นหมาป่าจมูกไว” เสิ่นเจ๋อชวนพูด “ไฉนจึงพูดเหมือนตัวเองน่าสงสารเช่นนั้นเล่า หากข้ามิใช่ข้า เจ้าไม่มีทางเปิดโอกาสให้ข้าเหยียบย่างเข้ามา พวกเราจะไม่มีแม้กระทั่งการสนทนากันด้วยซ้ำ เจ้ากับข้าเป็นคนประเภทนี้แหละ แทนที่จะมาคาดคั้นข้า ไยจึงไม่ถามตัวเจ้าเองดูก่อนเล่า” เซียวฉือเหย่พูด “เจ้าต่างหากที่เป็นสารเลว” เสิ่นเจ๋อชวนตอบ “สารเลวที่มีเป้าหมายเดียวกันหาไม่ง่ายนะ” เซียวฉือเหย่ไม่อ้อมค้อมกับเขาอีกตรงเข้าประเด็น “บัดนี้เป็นเจ้าที่ต้องการยืมอำนาจข้า ทว่าการเป็นพันธมิตรก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนบางอย่างจึงจะสำเร็จได้” “พวกเรามีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน” เสิ่นเจ๋อชวนตอบ —.—.—.—.—.—.—.—.—.— ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ บทที่ 49 ประกายเยียบเย็น เซียวฉือเหย่ยังไม่ได้เข้าวัง เสิ่นเจ๋อชวนเข้าเฝ้าหลี่เจี้ยนเหิงในตำหนักหมิงหลี่ก่อนและได้รับแต่งตั้งเป็นเจิ้นฝู่กองกำลังองครักษ์เสื้อแพรยศขุนนางขั้นห้า ป้ายห้อยเอวของเขาถูกเปลี่ยนเป็นป้ายทองแดงเคลือบทองลายเซี่ยจื้อ[1]ก่ายเมฆ […]
ยุคสมัยแห่งธิดาอ๋อง 王女韶华 溪畔茶 ซีพั่นฉา เขียน ภวิษย์พร แปล — โปรย — มู่หยวนอวี๋ที่เติบใหญ่อยู่ในเมืองหลวง มาถึงวันที่ต้องเผชิญเหตุอับจนหนทาง จำต้องลี้ภัยกลับมาสู่มาตุถูมิในดินแดนใต้เพื่อรักษาชีวิต ผู้ที่ล่วงรู้ความลับสำคัญคือผู้ช่วยที่สำคัญ เขาคือผู้ที่เปิดโอกาสให้มู่หยวนอวี๋หลบหนีออกจากเมืองหลวง และเขายังเป็นผู้ฝาก “ขวดน้ำมันน้อย” ไว้กับมู่หยวนอวี๋ ชะตาชีวิตของมู่หยวนอวี๋ที่ต้องคิดหาวิธีล้างมลทิน รักษาชีวิตตัวเอง ค้นหาตัวผู้บงการซึ่งอยู่เบื้องหลังเหตุร้ายทั้งหมด และยังต้องดูแล “ขวดน้ำมันน้อย” จะเป็นอย่างไร _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) บทที่ 150 บางทีอาจเป็นเพราะ การพาขวดน้ำมันน้อย[1]กลับมาจาก เมืองหลวงอยู่นอกเหนือแผนการของมู่หยวนอวี๋อย่างสิ้นเชิง พอนางล้มตัว ลงนอนบนเตียงจึงอดพลิกไปพลิกมาไม่ได้…แต่ครู่เดียวก็หลับสนิท ตอนนี้ร่างกายที่เหนื่อยง่ายเหม่อลอยง่ายนี้ไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่ง ของนางสักเท่าไหร่ และนางเองก็จนปัญญาเหมือนกัน หลับฝันหวานไปตื่นหนึ่งก็ตื่นขึ้นมา จางหมัวหมัวได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวจึงเข้ามาปรนนิบัตินางสวมเสื้อผ้า เพียงไม่นานพระชายาเตียนหนิงอ๋องก็ตามเข้ามาด้วย พระชายาเตียนหนิงอ๋องพยายามกล่อมตัวเองให้ยอมรับ แต่ถึงอย่างไร ก็ไม่อาจปล่อยวางได้เร็วขนาดนั้น พอเข้ามาแล้วก็ดึงตัวนางมาซักถาม อีกคำรบ “อวี๋เอ๋อร์ เจ้ากับเขามีความสัมพันธ์กันวันไหน หลังจากนั้นระดู […]
โอตาคุวันสิ้นโลก 重生宅男的末世守则 暖荷 หน่วนเหอ เขียน เมิ่งเหวิน เเปล นิยาย 7 เล่มจบ ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ ____________________________________ บทที่ 126 ครอบครัวกับผลประโยชน์ ชีวิตของคนอย่างเหยียนเฟยไม่ได้ไร้ค่าขนาดนั้น ราวกับว่าโลหะใต้ฝ่ามือเหยียนเฟย มีชีวิตเคลื่อนไหวเองได้ เหล็กเส้นแต่ละเส้นประกอบร่างขึ้นช้า ๆ เป็นโครงสะพานขนาดใหญ่ งาน สร้างสะพานสายนี้ของพวกเขาเสร็จไปแล้วประมาณเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ เหลือเพียงช่วงสุดท้ายอีกหนึ่งช่วงกับการเก็บงานตกแต่งขั้นสุดท้าย งาน ก็จะเสร็จสมบูรณ์ แต่ตอนเริ่มต้นกับตอนจบท้ายนี่แหละที่ยากกว่าช่วง กลางหลายเท่า ใครใช้ให้สะพานนี่มีขนาดสูงใหญ่มหึมาขนาดนี้กันเล่า การเชื่อมทางขึ้นลงและทางแยกต่างระดับให้มีความลาดชันที่เหมาะสมจำเป็น ต้องทำวงแหวนและทางโค้งจำนวนมาก จึงต้องอาศัยความแม่นยำที่สูงอย่างยิ่ง เมื่อพวกเขาสร้างโครงหลักของสะพานตามแบบที่กำหนดไว้แข็งแรงมั่นคงดีแล้ว สองสามวันมานี้ผู้มีพลังพิเศษธาตุดินจึงเข้ามารับช่วงต่อ โดยเติมส่วน ‘เนื้อ’ ของตัวสะพาน แน่นอนว่ากว่าจะสร้างสะพานเสร็จสมบูรณ์ยังมีขั้นตอนอื่น ๆ อีกหลายอย่าง แต่ขั้นตอนเหล่านั้นไม่ใช่ส่วนที่พวกเหยียนเฟยต้องไปสนใจ หลังจากวันนี้เก็บงานเสร็จทุกคนต่างเก็บข้าวของเตรียมจะขึ้นรถ เพื่อเดินทางกลับไปที่ค่ายทหาร ขณะที่กำลังออกจากจุดพักชั่วคราวเพื่อเตรียมขึ้นรถ ก็บังเอิญเห็น ตรงบริเวณปากทางเข้าพื้นที่ก่อสร้างนอกจากจะมีรถบรรทุกที่พวกเขานั่งมา กับรถขนส่งโลหะสำหรับใช้สร้างสะพานจอดอยู่หลายคันแล้ว ยังมีรถจี๊ป ติดป้ายกองทัพจอดเทียบอยู่ใกล้ […]