ยุคสมัยแห่งธิดาอ๋อง 王女韶华 溪畔茶 ซีพั่นฉา เขียน ภวิษย์พร แปล — โปรย — ใครว่าการเป็นซื่อจื่อน้อยแห่งนครอวิ๋นหนานนั้นแสนสบาย คงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเข้าใจ ว่าการจะรักษาตำแหน่ง “ซื่อจื่อ” ไว้ไม่ใช่เรื่องง่าย มู่หยวนอวี๋จำต้องเดินทางไกล จากบ้านเกิดเมืองนอนมาอยู่ในเมืองหลวง เพื่อรักษาความลับที่สำคัญและยื้อชีวิตของตน แต่ก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เมื่อบิดาเรียกตัวมู่หยวนอวี๋กลับอวิ๋นหนานบ้านเกิด การมาอยู่เมืองหลวงครั้งนี้จะเสียเปล่าหรือไม่ แผนการในชีวิตของมู่หยวนอวี๋จะเป็นอย่างไร ใครเล่าจะรู้ … _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) บทที่ 49 หลังจากที่มู่หยวนอวี๋มาถึงเมืองหลวงก็ไปยังจวนเหวินกั๋วกง หลักๆก็เพื่อจัดการเรื่องที่ตระกูลเหวยมาพักอยู่ร่วมชายคา หากไม่มีเรื่องนี้ สิ่งแรกที่นางต้องทำควรเป็นการไปยื่นเรื่องที่ฝ่ายสารบรรณกลางถึงจะถูก จะอย่างไรที่นางนึกถึงเป็นคนแรกก็ไม่ใช่มู่จื่อเฟย มู่จื่อจิ้งไม่รู้ความสลับซับซ้อนของเรื่องราวทั้งหมด เมื่อเปรียบเทียบจากมุมมองของตัวเองคนเดียวย่อมรู้สึกว่าตัวเองพ่ายแพ้ เป็นเหตุให้ตอนที่มีคนถามถึงในงานเลี้ยง ไม่อาจข่มกลั้นความริษยาในใจ จึงไม่ได้ช่วยรักษาหน้ามู่หยวนอวี๋ กลับพูดโพล่งออกมา มู่หยวนอวี๋คิดแล้วก็หันไปสั่งความหมิงฉิน “เอาของที่นำมาฝากพี่หญิงหกออกมา ให้เตาซานไปส่ง บอกกับพี่หญิงหกว่า ข้ามาเมืองหลวงมีธุระมากมายต้องทำ ทีแรกก็ต้องจัดการเรื่องที่ญาติฝั่งแม่สามีของพี่หญิงสามมาอาศัยในจวน ต่อมา ด้วยว่าปรับตัวเข้ากับอากาศของเมืองหลวงไม่ได้จนล้มป่วยเพราะต้องลมหนาว […]
Author Archives: AMARINBOOKS TEAM
ยุคสมัยแห่งธิดาอ๋อง 王女韶华 溪畔茶 ซีพั่นฉา เขียน ภวิษย์พร แปล — โปรย — ใครว่าการเป็นซื่อจื่อน้อยแห่งนครอวิ๋นหนานนั้นแสนสบาย คงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเข้าใจ ว่าการจะรักษาตำแหน่ง “ซื่อจื่อ” ไว้ไม่ใช่เรื่องง่าย มู่หยวนอวี๋จำต้องเดินทางไกล จากบ้านเกิดเมืองนอนมาอยู่ในเมืองหลวง เพื่อรักษาความลับที่สำคัญและยื้อชีวิตของตน แต่ก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เมื่อบิดาเรียกตัวมู่หยวนอวี๋กลับอวิ๋นหนานบ้านเกิด การมาอยู่เมืองหลวงครั้งนี้จะเสียเปล่าหรือไม่ แผนการในชีวิตของมู่หยวนอวี๋จะเป็นอย่างไร ใครเล่าจะรู้ … _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) บทที่ 50 ตอนที่เข้าไปในจวนสืออ๋องและได้พบกับจูจิ่นเซินอีกครั้ง เขาเพิ่งจะเลิกเรียนกลับมาจากตำหนักหน้า ตำราบันทึกพิธีการเล่มหนึ่งถูกโยนไว้ตรงมุมโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจ เขานั่งตัวตรงอยู่ใต้หน้าต่าง มือซ้ายถือตำราหมากล้อมกลางเก่ากลางใหม่ดูเปื่อยยุ่ยเล่มหนึ่ง โถเก็บเม็ดหมากสีดำและสีขาวสองโถต่างก็วางอยู่ข้างมือ มืออีกข้างหนึ่งของเขาวางทาบไว้ด้านบนโถเก็บเม็ดหมาก เขาขยับมือเข้าไปคีบเม็ดหมากออกมาเป็นระยะเหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิด เมื่อเคลื่อนสายตาออกจากตำราในขณะที่จะวางเม็ดหมากลงไปบนกระดานก็เห็นว่าตัวเองคีบหมากผิดสี จึงโยนตัวหมากกลับคืนลงไปอย่างเบามือ เกิดเสียงดัง “ติ๊ง” เบาๆหนึ่งครั้งมาจากด้านในโถหยกสีเขียว และมู่หยวนอวี๋ก็เดินเข้ามาในขณะเกิดเสียงนั้น แล้วจึงคำนับทักทาย “คารวะองค์ชาย องค์ชายดื่มยาหรือยัง” หลินอันที่เดินนำนางเข้ามาและเลิกผ้าม่านให้รีบหันมามองด้วยสายตาซาบซึ้งใจทันที…เป็นคนดียิ่งนัก! เมื่อเทียบกันแล้ว […]
生死谷 หุบเขาคร่าวิญญาณ 鄭丰เจิ้งฟง เขียน HUNZA แปล โปรย หุบเขาเร้นลับที่ปราศจากทางออก เหล่าเด็กน้อยถูกพาตัวมารับการฝึกฝนอันแสนโหดเหี้ยม เพื่อให้พวกเขาเติบใหญ่กลายเป็นนักฆ่า เป็นอาวุธสังหารที่กุมความเป็นไปของแว่นแคว้น ในยุคที่แผ่นดินระส่ำระส่ายนี้ เผยรั่วหลัน คุณหนูหกแห่งจวนขุนนาง เสี่ยวหูจื่อ บุตรชายเพียงคนเดียวของเสนาบดีอู่ แม้มีชาติกำเนิดสูงส่ง หากแต่เด็กทั้งสอง กลับถูกลักพามาได้อย่างง่ายดาย ไม่พ้นต้องตกลงสู่นรกไร้ปราณี ที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงพวกเขาไป พี่น้องสองร้อยคน ด่านทั้งสาม มีเพียงแปดคนเท่านั้นที่จะได้กลับบ้าน! ต้นฉบับนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์ บทที่ 2 ถูกจับ หลังการแข่งขันเตะลูกหนังของค่ายมังกรเขียวกับพยัคฆ์ขาวเสี่ยวหูจื่อนั่งอยู่บนบ่าของเด็กตัวโตอย่างเลิ่งจื่อภายใต้การห้อมล้อมของพรรคพวกฝ่ายเดียวกัน มุ่งหน้าไปยังร้านขายขนมเปี๊ยะแห่งหนึ่งในตลาด เสี่ยวหูจื่อล้วงเงินจากอกเสื้อออกมากำหนึ่งเอ่ยอย่างใจกว้างว่า “วันนี้ข้าเลี้ยงขนมเปี๊ยะงาพวกเจ้าเอง ใครอยากจะกินเท่าไรก็กินตามสบาย กินให้อิ่มก็แล้วกัน” เสียงโห่ร้องของเด็ก ๆ ดังขึ้นเซ็งแซ่พร้อมกับยื่นมือไปหยิบขนมเปี๊ยะกันคนละชิ้นกินจนปากเลอะงาเต็มไปหมด เด็กน้อยทั้งหลายกินไปแล้วยังไม่หนำใจ ต่างคนต่างหยิบขนมกันอีกคนละหลายชิ้นถือเอาไว้ในมือ จากนั้นเดินกรูไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างตลาด คุยกันถึงเรื่องการแข่งขันวันนี้อย่างสนุกสนาน รวมถึงการแข่งขันที่ดุเดือดและกล้าหาญของเสี่ยวหูจื่อที่เอาชนะลิ่วเอ๋อได้ เสี่ยวหูจื่อคิดถึงตอนแข่งตัวต่อตัวกับลิ่วเอ๋อแล้วถูกเตะเข้าที่น่องอย่างแรง จึงเลิกขากางเกงขึ้นดู เห็นว่าตรงจุดที่ถูกเตะบัดนี้กลายเป็นรอยช้ำสีเขียวอมม่วงขนาดใหญ่ เมื่อลูบลงไปก็แสบร้อนเจ็บปวดไม่น้อย บังเกิดความเดือดดาลขึ้นในใจก่อนเอ่ยขึ้นว่า “พวกเจ้าดูสิ ตอนแข่งตัวต่อตัวข้าถูกลิ่วเอ๋อเตะเข้าให้” เด็ก […]
บันทึกวิญญาณพู่กัน 七侯筆錄之筆靈 หม่าป๋อยง 马伯庸 หงลวี่เติง แปล ‘หลัวจงเซี่ย’ เพิ่งรู้ว่ายังมีความซวยที่เป็นขั้นกว่าของการที่อยู่ๆ ก็ถูกมีดแทงอก นั่นก็คือการถูกพู่กันแทงอก! แน่นอนว่าเขาไม่ตาย แต่เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเขาหลังจากนี้ ทำให้เขาสะบักสะบอมบอบช้ำทั้งกายใจจนแม้อยากตายก็ไม่ง่ายแล้ว . เด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยที่ขี้เกียจไปวันๆ อย่างเขา อยู่ๆ ก็ได้ครอบครอง ‘พู่กันบัวคราม’ มรดกตกทอดของหลี่ไป๋ เซียนกวีแห่งประวัติศาสตร์ท่านนั้น นี่ทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับเหล่าผู้คนแห่ง ‘สุสานพู่กัน’ และต้องเผชิญกับการต่อสู้เพื่อแย่งชิง พู่กันในตำนานมากมาย พร้อมผู้ครอบครองมาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาอย่างไม่ว่างเว้น สุนทรีย์แห่งถ้อยคำและตัวอักษรกลับกลายเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา . พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมหน้าที่ความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้นหรือ งั้นหลัวจงเซี่ยคนนี้ก็จะทำทุกวิธีเพื่อปลดพู่กันอัปมงคลนี่ออกไป พลังที่ยิ่งใหญ่อะไรนั่น เขาไม่ต้องการ! ต้นฉบับนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์ บทที่ 3 ปัดกวาดที่ทางอย่างไร้ความหวาดระแวง (1) ตู้ฝากของในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินพบได้ทั่วไปในหนังสายลับหรือไม่ก็นิยายสืบสวนของเมืองนอก ในประเทศจีนถือได้ว่าเป็นสิ่งของที่แปลกใหม่ คนที่รู้จักยังมีไม่มากเท่าที่ควร ถึงแม้จะเป็นเมืองหลวงหนึ่งเดียวในประเทศก็ตาม ยังไม่ใช่ทุกสถานีที่จะมีบริการเช่นนี้ จะมีอยู่ก็แต่เพียงสถานีใหญ่ไม่กี่สถานีเท่านั้น พูดให้ถูกก็คือสถานีใหญ่ที่พวกคนต่างชาติมักจะสัญจรกัน การติดตั้งตู้ฝากสิ่งของกว่าร้อยช่องนี้ถือได้ว่าเป็นเครื่องพิสูจน์ความมานะที่จะสานสัมพันธ์ความโบราณของเมืองหลวงกับต่างประเทศ ไม่ว่าทางคณะบริหารเมืองจะคิดอย่างไร อย่างน้อยสำหรับหลวงจีนปีเตอร์และเหยียนเจิ้งแล้ว สถานการณ์เช่นนี้ก็ถือว่าดีเกินคาด พวกเขาไม่ต้องเร่งฝีเท้าโร่ไปทุกสถานี ขอเพียงสนใจแค่สถานีใหญ่ […]
ช่วงเวลาดีๆ ที่มีแต่รัก 造作时光 เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง 月下蝶影 เขียน Hanza แปล — โปรย — รัชทายาทรูปโฉมหล่อเหลาไร้ผู้ใดเทียม เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ แต่ถึงเขาหน้าตาดีเพียงใด้ก่งกาจเพียงใด ก็หักล้างกับนิสัยไม่ดีและปากร้ายไม่ได้ หญิงผู้ดีมีชาติตระกูล มีหรือจะอดทนกับความปากร้าย ที่สามารถฆ่าคนอย่างไร้รูปเช่นนั้น ว่ากันว่าแม้แต่สนมในวังหลวงทั้งหลายก็ยังมิอาจต่อกรกับรัชทายาท นับประสาอันใดกับพวกนางที่เป็นสาวน้อยที่มีพลังในการชิงดีชิงเด่นไม่เข้มแข็งพอ คิดดูอีกที เมื่อรัชทายาทถูกตาจ้องใจสตรีอ่อนแอขี้โรค นับว่านางเป็นเนื้อสมันที่เดินเข้าปากเสือ น่าจะโชคร้ายมากกว่าโชคดี แม้ภายนอก ฮวาหลิวหลี อ่อนแอขี้โรค ทว่าแท้จริงนางเป็นสตรีที่น่าครั่นคร้ามยิ่ง ไม่ว่าฝ่ายใดที่พยายามลอบสังหารนาง กลับต้องแพ้ภัยตัวเอง จีหยวนซู่ บุรุษรูปงาม สูงศักดิ์ เป็นถึงรัชทายาทแคว้นจิ้น เขาถูกตาต้องใจนาง คอยปกป้องเอาใจนางเสมอ ต่อให้นางเข้มแข็งเพียงใดก็ยังพ่ายต่อเขา และที่สำคัญคือพ่ายต่อรูปโฉมบุรุษที่เป็นจุดอ่อนของนาง _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) 37 มือปราบมีหรือจะกล้ารับตั๋วเงินปึกนี้ ตอนที่เห็นผู้ดูแลควักถุงเงินออกมา แผ่นหลังของเขาก็หลั่งเหงื่อเย็นแล้ว หากหัวหน้าเห็นเข้า […]
บันทึกวิญญาณพู่กัน 七侯筆錄之筆靈 หม่าป๋อยง 马伯庸 หงลวี่เติง แปล ‘หลัวจงเซี่ย’ เพิ่งรู้ว่ายังมีความซวยที่เป็นขั้นกว่าของการที่อยู่ๆ ก็ถูกมีดแทงอก นั่นก็คือการถูกพู่กันแทงอก! แน่นอนว่าเขาไม่ตาย แต่เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเขาหลังจากนี้ ทำให้เขาสะบักสะบอมบอบช้ำทั้งกายใจจนแม้อยากตายก็ไม่ง่ายแล้ว . เด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยที่ขี้เกียจไปวันๆ อย่างเขา อยู่ๆ ก็ได้ครอบครอง ‘พู่กันบัวคราม’ มรดกตกทอดของหลี่ไป๋ เซียนกวีแห่งประวัติศาสตร์ท่านนั้น นี่ทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับเหล่าผู้คนแห่ง ‘สุสานพู่กัน’ และต้องเผชิญกับการต่อสู้เพื่อแย่งชิง พู่กันในตำนานมากมาย พร้อมผู้ครอบครองมาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาอย่างไม่ว่างเว้น สุนทรีย์แห่งถ้อยคำและตัวอักษรกลับกลายเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา . พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมหน้าที่ความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้นหรือ งั้นหลัวจงเซี่ยคนนี้ก็จะทำทุกวิธีเพื่อปลดพู่กันอัปมงคลนี่ออกไป พลังที่ยิ่งใหญ่อะไรนั่น เขาไม่ต้องการ! ต้นฉบับนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์ บทที่ 2 ข้าอ่านคัมภีร์เต๋าโดดเดี่ยว ณ หอคอยทิศใต้ (2) เสียงอ่านตำราภายในห้องค่อย ๆ เบาลง ลมพัดผ่านทุ่งหญ้าป่าไม้ เสียงเอะอะอย่างผ่อนคลายไร้กังวลจากวิทยาเขตมหาวิทยาลัยอันห่างไกลแล่นมาพร้อมกับสายลม ทำให้จิตใจของทั้งสองบรรเทาลงตามไปด้วย “ตอนนี้เหวยซื่อหรันเป็นปฏิปักษ์กับเราหรือไม่ก็ยากจะคาดเดา หมู่บ้านสกุลเหวยในตอนนี้ได้ถอนตัวออกจากเรื่องทั้งหมดแล้ว ตระกูลเหวยของพวกเราวุ่นวายอลหม่านไปหมด” หลวงจีนปีเตอร์มองออกไปยังตึกเรียนสีขาวเทาที่อยู่ไกล อยู่ […]
บันทึกวิญญาณพู่กัน 七侯筆錄之筆靈 หม่าป๋อยง 马伯庸 หงลวี่เติง แปล ‘หลัวจงเซี่ย’ เพิ่งรู้ว่ายังมีความซวยที่เป็นขั้นกว่าของการที่อยู่ๆ ก็ถูกมีดแทงอก นั่นก็คือการถูกพู่กันแทงอก! แน่นอนว่าเขาไม่ตาย แต่เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเขาหลังจากนี้ ทำให้เขาสะบักสะบอมบอบช้ำทั้งกายใจจนแม้อยากตายก็ไม่ง่ายแล้ว . เด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยที่ขี้เกียจไปวันๆ อย่างเขา อยู่ๆ ก็ได้ครอบครอง ‘พู่กันบัวคราม’ มรดกตกทอดของหลี่ไป๋ เซียนกวีแห่งประวัติศาสตร์ท่านนั้น นี่ทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับเหล่าผู้คนแห่ง ‘สุสานพู่กัน’ และต้องเผชิญกับการต่อสู้เพื่อแย่งชิง พู่กันในตำนานมากมาย พร้อมผู้ครอบครองมาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาอย่างไม่ว่างเว้น สุนทรีย์แห่งถ้อยคำและตัวอักษรกลับกลายเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา . พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมหน้าที่ความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้นหรือ งั้นหลัวจงเซี่ยคนนี้ก็จะทำทุกวิธีเพื่อปลดพู่กันอัปมงคลนี่ออกไป พลังที่ยิ่งใหญ่อะไรนั่น เขาไม่ต้องการ! ต้นฉบับนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์ บทที่ 1 ข้าอ่านคัมภีร์เต๋าโดดเดี่ยว ณ หอคอยทิศใต้ (1) ภายในสวน ป่าไผ่เงียบเหงา กลิ่นชาหอมคลุ้ง เสียงท่องตำราใสกระจ่าง เหิงซานใต้ฟ้ามืดยิ่งชอุ่ม มองทางใต้เห็นดาวอายุขัย ลมหิมะห้ายอดเขากำจรไป […]
ช่วงเวลาดีๆ ที่มีแต่รัก 造作时光 เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง 月下蝶影 เขียน Hanza แปล — โปรย — รัชทายาทรูปโฉมหล่อเหลาไร้ผู้ใดเทียม เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ แต่ถึงเขาหน้าตาดีเพียงใด้ก่งกาจเพียงใด ก็หักล้างกับนิสัยไม่ดีและปากร้ายไม่ได้ หญิงผู้ดีมีชาติตระกูล มีหรือจะอดทนกับความปากร้าย ที่สามารถฆ่าคนอย่างไร้รูปเช่นนั้น ว่ากันว่าแม้แต่สนมในวังหลวงทั้งหลายก็ยังมิอาจต่อกรกับรัชทายาท นับประสาอันใดกับพวกนางที่เป็นสาวน้อยที่มีพลังในการชิงดีชิงเด่นไม่เข้มแข็งพอ คิดดูอีกที เมื่อรัชทายาทถูกตาจ้องใจสตรีอ่อนแอขี้โรค นับว่านางเป็นเนื้อสมันที่เดินเข้าปากเสือ น่าจะโชคร้ายมากกว่าโชคดี แม้ภายนอก ฮวาหลิวหลี อ่อนแอขี้โรค ทว่าแท้จริงนางเป็นสตรีที่น่าครั่นคร้ามยิ่ง ไม่ว่าฝ่ายใดที่พยายามลอบสังหารนาง กลับต้องแพ้ภัยตัวเอง จีหยวนซู่ บุรุษรูปงาม สูงศักดิ์ เป็นถึงรัชทายาทแคว้นจิ้น เขาถูกตาต้องใจนาง คอยปกป้องเอาใจนางเสมอ ต่อให้นางเข้มแข็งเพียงใดก็ยังพ่ายต่อเขา และที่สำคัญคือพ่ายต่อรูปโฉมบุรุษที่เป็นจุดอ่อนของนาง _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) 38 “เสด็จพ่อ ลูกในพระทัยของเสด็จพ่อเป็นคนเช่นนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ” รัชทายาทมองฮ่องเต้ชางหลง สีหน้าแววตาตัดพ้อ […]
The Witcher II ช่วงเวลาแห่งการปรามาส Time of Contempt Andrzej Sapkowski เขียน ต้องตา สุธรรมรังษี และธนพร ภู่ทอง แปล ติดตามการวางจำหน่ายได้ที่เพจ แพรวสำนักพิมพ์ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) บทที่ 1 เวลาคุยกับผู้สมัครวัยหนุ่มสาว เอเพลแกตต์มักจะบอกว่าผู้ขี่ม้าส่งสาร จำเป็นต้องมีคุณสมบัติสองประการ ได้แก่สมองทองคำกับบั้นท้ายเหล็กสมองทองคำนั้นสำคัญมาก เอเพลแกตต์สอนว่ากระเป๋าหนังคาดหน้าอกที่ซ่อนอยู่ใต้อาภรณ์จะมีเพียงสารไม่สำคัญ ไม่ต้องกลัวว่ามันจะไปปรากฏบนเอกสารหรือจดหมายอันตรายที่ไหน สิ่งสำคัญจริง ๆ คือสารลับ สารที่เกี่ยวกับความเป็นความตาย ผู้ส่งสารต้องท่องจำให้ขึ้นใจและถ่ายทอดแก่ผู้รับด้วยคำพูดเท่านั้น คำต่อคำ และบางครั้งสารเหล่านั้นก็จำยาก อย่าว่าแต่จะจำให้ได้เลย แค่ออกเสียงยังลำบาก หากผู้ส่งสารต้องการท่องจำและถ่ายทอดโดยไม่มีข้อผิดพลาด เขาก็ต้องมีสมองทองคำ ส่วนประโยชน์ของบั้นท้ายเหล็กนั้น โอ เดี๋ยวผู้ส่งสารก็จะได้เรียนรู้เอง เมื่อเขาต้องนั่งบนหลังม้าสามวันสามคืน ควบตะบึงไปตามถนนไกลเป็นร้อยหรือสองร้อยไมล์ บางช่วงอาจไม่มีถนนด้วยซ้ำ เมื่อนั้นแหละบั้นท้ายเหล็กคือสิ่งจำเป็น ไม่อยู่แล้ว แน่นอนว่าไม่มีใครตะบี้ตะบันนั่งบนหลังม้าได้โดยไม่หยุดพัก […]
การกำหนดสิ่งที่อยากทำตอนเย็นหลังเลิกงาน แล้วลงมือทำตามแผนที่วางไว้ทีละขั้น ทำสิ่งที่ตัวเองชอบแล้วสร้างผลสำเร็จขึ้นมา ทั้งหมดนี้จะทำให้ชีวิตมีสีสัน ก่อนเข้านอนก็เฝ้ารอให้วันพรุ่งนี้มาถึง และทำให้ตอนเช้าตื่นขึ้นมาอย่างมีความสุข เราไปดูกันว่าเมื่อตอนเย็นเปลี่ยนไปจะทำให้เช้าวันใหม่ดีขึ้นได้อย่างไรในบทความนี้ “เช้าเปลี่ยนไปทันทีที่เย็นเปลี่ยน เทคนิคออกแบบชีวิตด้วยการทำกิจวัตรยามเย็น” “ความภูมิใจในตัวเอง” หลักฐานที่บอกว่าฉันเป็นคนมีค่า การที่เราท้อใจง่ายกับเรื่องเล็ก ๆ น้อยๆ การที่ชีวิตเราดูซอมซ่อ และการที่เราผูกสัมพันธ์กับคนอื่นได้ยาก ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะไม่มีความภูมิใจในตัวเอง จึงดูเหมือนว่าถ้าสามารถเรียกคืนความภูมิใจในตัวเองให้กลับมาได้ทุกปัญหาก็จะได้รับการแก้ไข หลายคนจึงตามหาเทคนิคหรือเข้าคอร์สต่าง ๆ เช่น การเข้าโปรแกรมให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาที่บอกว่าช่วยให้มีความภูมิใจในตัวเองเพิ่มขึ้น การฝึกเขียนบันทึกเรื่องราวดี ๆ หรือการทำสมาธิ หากวิธีเหล่านั้นช่วยฟื้นฟูความพึงพอใจในตัวเองให้กับคุณได้ก็ถือเป็นเรื่องดี ทว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่ความภาคภูมิใจจะเพิ่มขึ้นจากการเข้าคอร์สเพียงแค่ 2-3 ครั้ง บางคนมีความภูมิใจในตัวเองต่ำมากจนโทษว่าทุกอย่างเป็นความผิดของตัวเอง หลังเลิกงานจึงไม่ควรจมอยู่กับความเครียดจากที่ทำงาน แต่จะจดจ่อกับตัวเองเท่านั้น ขยับเขยื้อนร่างกายตามกิจวัตรที่วางแผนไว้ ค้นหาสิ่งที่ทำได้ดี เริ่มต้นทำโปรเจ็กต์เสริม ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีค่าและมีความพิเศษแม้จะไม่ได้ท่องคาถาว่า “ฉันเป็นคนมีค่า ฉันเป็นคนพิเศษ” ก็ตาม เมื่อไม่จำกัดบทบาทตัวเองอยู่แค่ที่ทำงานและค้นพบประโยชน์ของตัวเองตอนอยู่นอกที่ทำงาน งานจึงไม่ใช่ทั้งหมดในชีวิตอีกต่อไป การทำสิ่งที่ชอบตอนเย็นหลังเลิกงานช่วยให้หลุดพ้นจากชีวิตที่ทำงานเป็นหนูถีบจักรเพื่อหาเลี้ยงชีพ แล้วมองว่าที่ทำงานคือหนึ่งในเครื่องมือที่ง่ายและสะดวกในการเรียนรู้และเข้าใจตัวเอง ซึ่งจะทำให้มีความสุขกับการทำงานมากขึ้นและทำงานได้ดีขึ้นด้วย เป็นการมุ่งมั่นทำงานเพื่อความสุขที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่ทำงานเพื่อไม่ให้ถูกต่อว่า และหลุดพ้นจากชีวิตที่เฝ้ารอแค่เวลาเลิกงานหรือวันหยุด มาค้นพบชีวิตอีกด้านหนึ่งของเราในยามเย็น ตั้งเป้าหมายแล้วลงมือทำให้เห็นด้วยตาคุณเองว่าหากตั้งใจแล้วย่อมทำได้อย่างแน่นอน แม้บางครั้งจะถูกหัวหน้าต่อว่าเพราะทำงานผิดพลาด แต่คุณที่รู้ว่าตัวตนเวลาอยู่ที่ทำงานเป็นแค่เสี้ยวหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมดของความเป็นตัวเอง โลกทั้งใบของคุณก็จะไม่แตกสลาย เมื่อฉันเป็นพนักงานออฟฟิศที่มีความฝันอีกอย่าง […]