วิธีตั้งคำถาม เชิงสร้างสรรค์มีหลายวิธีด้วยกัน ที่จะทำให้ผู้ถูกถามคิดถึงสิ่งต่างๆ ที่ไปไกลจากความคุ้นเคย กระตุ้นความคิด ไอเดียใหม่ๆ พาไปยังอนาคต จินตนาการด้วยความทะเยอทะยานและคิดอย่างอิสระไม่มีกรอบใดๆ มาปิดกั้น คำถามเชิงสร้างสรรค์ยังทำให้ผู้ที่ถูกถามรู้สึกสนุกสนานในการพูดคุยมากขึ้น กล้าที่จะเปิดใจกับสิ่งใหม่ๆ และจะทำให้คนถามดูเป็นคนใจดี น่าไว้วางใจ คุยด้วยแล้วสนุก ถ้าอยากเป็นคนที่คุยสนุก ต้องเรียนรู้ วิธีตั้งคำถาม จากหัวข้อเหล่านี้ ความฝัน ความฝันของคุณคืออะไร นี่คือคำถามเบิกทางที่สามารถทำให้คนฟังปลดปล่อยจินตนาการ กำหนดเป้าหมายไว้ไกลๆ ตั้งเป้าให้สูงเข้าไว้ และลองทำสิ่งใหม่ๆ คำถามประเภทนี้จุดประกายให้คนคิดการใหญ่ ข้ามขอบฟ้าไปจินตนาการถึงวิถีทางใหม่ คำจำกัดความใหม่ เป็นคำถามที่สร้างคำท้า ตั้งมาตรฐาน และปล่อยปละกฎระเบียบ บทบาทสมมุติ ลองตั้งคำถามด้วยการใช้บทบาทสมมุติแล้วการพูดคุยจะสนุกขึ้นเยอะ เช่น ถ้าคุณเป็นซีอีโอบริษัทใหญ่ มีเงินในบัญชีสามหมื่นล้านบาท คุณจะทำอะไร ถ้าคุณเป็นผู้กำกับหนังเรื่องนี้ คุณจะให้ใครแสดงนำ คำถามนี้จะทำให้คนที่ถูกถามลองมองจากมุมอื่น มองจากมุมของคนตัดสินใจ ขอให้พวกเขาอนุมานถึงความรับผิดชอบ คำถามนี้จะพาพวกเขาไปยังอีกที่หนึ่ง เขาต้องคิดในบริบทที่ต่างกันและจินตนาการไปอีกระดับขั้น ท่องกาลเวลา ตอนนี้คุณประสบความสำเร็จแล้ว คุณอยู่ในโลกอนาคต คุณทำอะไรอยู่ มันเป็นอย่างไร คุณเห็นอะไร ให้คนที่ถูกถามก้าวผ่านเรื่องปลีกย่อย รายละเอียดระหว่างทาง ลืมความกลัวและเสียงรบกวนที่บอกว่าทำไม่ได้ แสร้งทำเป็นว่าเงินไม่มีอยู่จริง […]
Category Archives: How To
แต่ละคนมี ทักษะการอ่าน ไม่เท่ากัน บางคนเริ่มอ่านที่สารบัญก่อน บางคนมุ่งไปที่เนื้อหาเลย ซึ่งแต่ละเทคนิคที่ใช้จะส่งผลกับความจำแตกต่างกันด้วย การอ่านหนังสือของแต่ละคนมีจุดมุ่งหมายแตกต่างกัน บางคนอ่านเพื่อเรียนหนังสือ อ่านเพื่อสอบ อ่านเพื่อพัฒนาตนเอง หรืออ่านเพื่อความเพลิดเพลิน ซึ่งหากเป็นการอ่านเพื่อต้องการจดจำเนื้อหาได้เยอะๆ การจัดระเบียบความคิดในการอ่านนั้นสำคัญมาก บางครั้งเรื่องเล็กๆ ที่เรามองข้ามไปอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เราจำแม่นขึ้นเลยก็ได้ มาดูกันว่าเราสามารถพัฒนา ทักษะการอ่าน ด้วยวิธีไหนได้บ้าง การอ่านก่อนการอ่าน “การอ่านก่อนการอ่าน” เป็นการเตรียมตัวก่อนอ่านเนื้อหา จุดประสงค์ของขั้นตอนนี้คือการทำความเข้าใจเนื้อหาและค้นหาประเด็นสำคัญ โดยต้องอ่านทั้งหมด 3 ส่วน ได้แก่ 1.สารบัญ เพื่อจดจำส่วนประกอบสำคัญทั้งหมด 2.เนื้อหา เพื่อจับประเด็นหลักๆ ในเนื้อหานั้น 3.ที่ว่าง จัดระเบียบความคิดของตัวเองตรงหน้ากระดาษที่ว่างอยู่ จดจำส่วนประกอบของสารบัญ สารบัญเป็นกรอบขนาดใหญ่ของเนื้อหา และยังเป็นเค้าโครงของหนังสือทั้งหมดด้วย ถ้าอยากจำเนื้อหาได้ ก็ต้องจำตั้งแต่สารบัญ ยิ่งถ้าเข้าใจหลักการสร้างสารบัญก็จะทำให้เราจำได้แม่นยิ่งขึ้น วิธีจำสารบัญคือ ลองสร้างเนื้อหาในสารบัญเป็นเรื่องราวดู เมื่อสารบัญเป็นเหมือนกรอบของหนังสือ ถ้าเชื่อมโยงหัวข้อใหญ่ๆ ตั้งแต่บทที่หนึ่งถึงบทสุดท้ายเข้าหากันได้ ก็สร้างเรื่องราวของหนังสือได้ไม่ยาก ถ้าเชื่อมโยงหัวข้อต่างๆ เข้าด้วยกันจนเป็นเรื่องราว สมองก็จะจำได้ดีและนานกว่าการจำหัวข้อต่างๆ แยกกันด้วย จับประเด็นหลักของเนื้อหา สิ่งสำคัญที่สุดคือการจับประเด็นหลักของเนื้อหา […]
ปัญหาจาก ลูกน้อง เป็นเรื่องสำคัญรองมาจากปัญหาเรื่องงาน ที่คนเป็นหัวหน้าต้องรู้จักวิธีรับมือเพื่อจะได้ทำงานกันได้อย่างราบรื่นไม่ติดขัด และไม่ทำให้เกิดการบาดหมางระหว่างกัน มาดูกันว่าหาก ลูกน้อง มีพฤติกรรมแบบนี้ เราควรรับมือด้วยวิธีแบบไหน ลูกน้องสมาธิสั้น ปัญหา : ลูกน้องคนหนึ่งทำงานผิดพลาดเพราะความไม่รอบคอบอยู่บ่อยๆ รู้สึกเหมือนเขาไม่มีความกระตือรือร้นเลย จำวันส่งงานผิดบ้าง สั่งออเดอร์ผิดบ้าง ควรจะดุเขาดีไหม หรือจัดการกับเขาอย่างไรดี ข้อเสียของคนเรานั้น บางเรื่องก็ปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ แต่บางเรื่องต่อให้ทำอย่างไรก็ไม่อาจแก้ไขได้ เช่น ความสามารถในการ “ระมัดระวัง” นั้นเป็นสิ่งที่มีมาตั้งแต่เกิด บางคนจดจ่ออยู่กับเรื่องที่ต้องระมัดระวังได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ในขณะที่เรื่องอื่นๆ จะหายเกลี้ยงไปจากสมองเรา หากดุด่าลูกน้องเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเป็นมาตั้งแต่กำเนิดต่อไปเรื่อยๆ นั่นหมายความว่า แม้เจ้าตัวพยายามแค่ไหนก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ อาจทำให้อีกฝ่ายเป็นโรคซึมเศร้าได้ คนประเภทที่แม้จะกระตือรือร้นแค่ไหนก็ยังทำผิดพลาดเพราะความไม่รอบคอบนั้นมีอยู่จริง เวลาหงุดหงิดเพราะคิดว่า “สั่งงานแล้วไม่ยอมทำ” หรือ “ตกลงกันแบบนี้แต่ทำออกมาอีกแบบนึง” ให้ลองคิดดูว่าเขาเป็น “โรคสมาธิสั้น” หรือเปล่า สิ่งที่ต้องทำคือ เขียนใส่กระดาษแปะไว้ให้ชัดเจนว่า “อะไรคืองานสำคัญต้องทำก่อน” “ต้องส่งงานชิ้นนี้วันไหน” บางคนคิดว่าทำไมต้องทำเหมือนเด็กๆ แต่การทำเช่นนี้ก็เปรียบเสมือนบล็อกปูพื้นแบบนูนที่ช่วยบอกทาง ซึ่งถือเป็นเรื่องจำเป็น ไม่ใช่เรื่องเสียมารยาทเลย ลูกน้องที่ไม่เชื่อใจใครเลย ปัญหา : ลูกน้องคนหนึ่งไม่เคยรายงาน ติดต่อ […]
วิธีสร้างธุรกิจ ให้แตกต่าง จำเป็นมากในปัจจุบันนี้ ธุรกิจแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไปก็ยังทำแบบเดิมๆ ไม่ช้าธุรกิจนั้นก็จะตายลงในที่สุด การหมั่นพัฒนา ต่อยอด และสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก มาดูกันว่าเรามี วิธีสร้างธุรกิจ ให้โดดเด่นและแตกต่างอย่างไรบ้าง เลิกพยายามที่จะเป็นที่สุด จงมุ่งที่จะเป็นเพียงหนึ่ง บริษัทที่ประสบความสำเร็จที่สุด ไม่ใช่บริษัทที่ขายสินค้าและบริการได้มูลค่าสูงสุดอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นบริษัทที่ฟูมฟักไอเดียที่ธรรมดาที่สุดได้เจ๋งที่สุด และทำสิ่งที่บริษัทอื่นทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ ตัวอย่างเช่น การจัดงานเฉลิมฉลองธนาคารเมโทรแบงก์ที่เปิดสาขาแรกย่านใจกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งดีเจที่กำลังเปิดเพลงและโยกตัวตามจังหวะเพลงแด๊นซ์ใหม่ล่าสุด ตัวตลกบนไม้ต่อขากำลังเรียกเสียงหัวเราะจากคนดู มีร้านขายป๊อปคอร์นกับไอศกรีมและร้านรับเพ้นต์หน้า ซึ่งการเฉลิมฉลองของเขาล้วนได้รับเสียงตอบรับที่ฮือฮา นั่นเป็นเพราะไม่มีธนาคารไหนกล้าทำนั่นเอง หลายธนาคารยังคงมีลุคที่เคร่งขรึมเพื่อความน่าเชื่อถือกันอยู่ ธนาคารเมโทรแบงก์แห่งนี้ดูสดใส เป็นกันเอง อาคารกระจกแวบวับ ตกแต่งภายในด้วยสีดำแดง เพดานสูง และเสาเงินทำให้นึกถึงร้านแอปเปิลสโตร์ที่ดูเงางามมากว่าธนาคารสุดคร่ำครึ ป้ายที่ล็อบบี้และสโลแกนบนจอตู้เอทีเอ็มฟังดูไม่เหมือนข้อความจากธนาคาร แต่เป็นถ้อยคำปลุกใจ : ธนาคารที่คุณจะหลงรัก! พอกันทีกับกฎห่วยๆ ของธนาคารทั่วไป! ภาพแมสคอตของธนาคารซึ่งเป็นตัวอักษร M ตัวใหญ่โตชื่อเมโทรแมน ค่อยๆ ปรากฎใหญ่ขึ้น พนักงานธนาคารก็แต่งตัวสอดคล้องกับภาพลักษณ์และอารมณ์ของธนาคาร พนักงานหญิงใส่เดรสสีแดงกับเบลเซอร์สีดำหรือชุดเดรสสีดำกับเบลเซอร์สีแดง ส่วนพนักงานชายใส่สูทกับเชิ้ตสีขาวและผูกไทแดง เชอร์ลีย์ ฮิลล์ ภรรยาของเวอร์นอน ฮิลล์ ผู้ร่วมก่อตั้งธนาคาร ให้สัมภาษณ์ว่า […]
หลายคนอยาก ลาออกจากงานประจำ มาทำธุรกิจของตัวเองแบบเต็มตัว แต่ก็ยังมีหลายปัจจัยที่อยากให้ฉุกคิดขึ้นมาว่า เราพร้อมที่จะลงไปลุยสิ่งเหล่านั้นแบบเต็มตัวจริงหรือเปล่า การทำธุรกิจเสริมควบคู่ไปกับงานประจำเป็นเรื่องที่ดี หากคุณเป็นคนที่บริหารเวลาเป็น ไม่ทำให้ธุรกิจเสริมกระทบกับงานหลัก แต่เมื่อธุรกิจเสริมของคุณทำเงินได้มากขึ้นเรื่อยๆ ความคิดที่อยากลาออกจากงานประจำก็จะเข้ามาวนเวียนในสมองทันที แต่ช้าก่อน! มีผู้ประกอบการหลายรายที่สร้างธุรกิจได้ดีในช่วงแรก แต่หลังๆ ยอดกลับหล่นฮวบเพราะไม่รู้จักปรับปรุงธุรกิจจนโดนคนอื่นแซงหน้าไปไกลโข จะกลับไปซบงานประจำก็กลายเป็นคนว่างงานเพราะทุกวันนี้งานหายากเหลือเกิน ลองมาดูกันว่าทำไมเราถึงไม่ควร ลาออกจากงานประจำ ไปเป็นผู้ประกอบการเต็มตัว ไลฟ์สไตล์ไม่น่ารื่นรมย์ เวลาและความมุ่งมั่นที่ต้องใช้ในการสร้างบริษัทส่งผลแก่คุณและทุกคนในชีวิต คุณต้องคิดเกี่ยวกับเป้าหมายทางการเงิน ไลฟ์สไตล์ และความหมายของคำว่าความสำเร็จอีกครั้ง อัตราการหย่าร้างระหว่างผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพนั้นสูงที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดาอาชีพอื่นๆ เป็นผลมาจากการทำงานเป็นเวลานานและความเครียด แม้ว่าบริษัทจะโตขึ้น แต่ไลฟ์สไตล์ของคุณอาจไม่ได้หรูหรานัก ถ้าคุณลาออกจากบริษัทกฎหมายชื่อดังมาเปิดร้านเบเกอรี่ แล้วสุดท้ายก็สร้างธุรกิจจากคุกกี้ตำรับของคุณย่า นั่นคือคุณอาจทำงานยาวนานขึ้นเพื่อแลกกับเงิน แน่นอนว่าคุณมี ‘อิสรภาพ’ แต่ก็มีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน มีลูกค้าที่ต้องการนู่นนี่จุกจิก และมีความเครียดที่อาจทำเงินได้น้อยลง หลังจากได้ทำงานและทุ่มเทอย่างหนัก คุณจะรู้สึกแย่แค่ไหนถ้าเปิดร้านเบเกอรี่เพียงเพื่อจะพบว่าคุณควรจะทำงานในบริษัทกฎหมายที่เดิม คุณต้องทุ่มตัวหมดหน้าตักกว่าจะรู้ซึ้งว่าคุณสนุกกับการอบคุกกี้ให้เพื่อนชิม 2 ถาด แต่คุณเกลียดการอบขนม 12 ชั่วโมงต่อวัน คุณอาจทำการเงินพังได้ การศึกษาไม่นานมานี้เกี่ยวกับผู้ก่อตั้งธุรกิจมากกว่าหมื่นคนเปิดเผยว่า 73% จ่ายเงินเดือนให้ตัวเองน้อยมากเมื่อเทียบกับรายจ่ายที่ต้องจ่ายในการบริหารธุรกิจตลอดปี อาจไม่ค่อยเป็นธรรมนัก แต่ข้อตกลงก็เป็นเช่นนั้นละ นักลงทุนคาดหวังให้เจ้าของธุรกิจสตาร์ทอัพลงทุนลงแรงทั้งหมดไปกับธุรกิจเพราะมูลค่าหุ้นจะได้สูงขึ้น โจนาธาน ออลเซน ผู้ประกอบการธุรกิจกล่าวว่า […]
หลายคนต้องการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่รู้วิธีที่ถูกต้อง โคโนะ เก็นโตะ ได้อธิบายวิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนของเขา ในหนังสือว่า ถ้าอยากเรียนรู้เร็ว ต้องเริ่มจัดการที่ความเครียดก่อน โคโนะ เก็นโตะ มีวิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนอย่างไร มาดูกัน ลดความเครียด เทคนิคแรกคือ “ระลึกอยู่เสมอว่าเราต้องลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเครียดต่อการเรียน เพื่อทำให้การเรียนของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น” ต้องสนุกกับการเรียน และอย่ากดดันตัวเองมากเกินไป จะช่วยลดความเครียดได้เช่นกัน หากเรากำลังอ่านหนังสืออยู่แล้วคิดถึงเรื่องอื่นขึ้นมา ย่อมทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนลดลง โดยเฉพาะเรื่องที่ทำให้เกิดความเครียด ซึ่งสลัดออกจากหัวได้ยาก และยังส่งผลเสียต่อการเรียนด้วย ใครๆ ก็ต้องเคยเครียดกับการต่อสู่กับความง่วง สิ่งล่อตาล่อใจจากโทรศัพท์มือถือ เรื่องรบกวนเหล่านี้มักวนเวียนอยู่ในหัวไม่ยอมออกไปสักที เราคงเคยฝืนที่จะอ่านหนังสือในสภาวะแบบนี้แล้วผิดพลาดมานักต่อนัก เมื่อตั้งใจจะอ่านหนังสือแล้ว เราก็ต้องใช้เวลานั้นให้คุ้มค่าที่สุด ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ เราต้องคิดอยู่เสมอว่าจะเรียนอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำให้ตัวเองเครียด เวลาเครียดให้รีบนอน ถ้าบอกว่าความง่วง กับ ความกังวล คือศัตรูตัวฉกาจที่ทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนก็คงไม่ผิดนัก การทนอ่านหนังสือเป็นสิบชั่วโมงทั้งที่ง่วงจนเบลอไปหมดนั้นไม่มีประโยชน์เลย สิ่งสำคัญสำหรับการเรียนคือ การลดความเครียดจากการเรียนให้ได้มากที่สุด สภาพ “ความอ่อนล้าของร่างกาย” เช่น หิวข้าว ปวดไหล่ หรือง่วงนอนนั้นส่งผลต่อความเครียดไม่น้อยเลย ความเครียดจากการเรียนของคนส่วนใหญ่เกิดจากความง่วง คงเพราะคิดกันว่า ต้องอ่านหนังสืออย่างคร่ำเคร่งตั้งแต่เช้าจรดค่ำ แต่ถ้าเราง่วงจนเบลอ สมองจะไม่ทำงาน […]
การ จัดระเบียบความคิด เป็นพื้นฐานในชีวิตของทุกเพศทุกวัย ถ้าอยากเป็นคนที่จัดเบียบความคิดเก่ง ต้องนึกถึงเหตุผลที่ทำให้จัดระเบียบความคิดไม่ได้เสียก่อน แล้วค่อยหาทางแก้ไข อะไรที่ทำให้คุณ จัดระเบียบความคิด ไม่ได้บ้าง • มีเรื่องให้คิดมากเกินไป • ไม่เคยคิดจะจัดระเบียบความคิดเลย • รำคาญการจัดระเบียบความคิด • ไม่รู้วิธีจัดระเบียบความคิดที่เหมาะกับตัวเอง • จดบันทึกไว้ตลอด แต่ก็ไร้ผล • ไม่ชอบการจัดระเบียบความคิด • ไม่เคยเรียนการใช้เครื่องมืออย่าง Mind Map มาก่อน • ปัญหาซับซ้อนมาก • สมองช้ากว่าคนอื่น คำตอบที่ได้ยินมากที่สุดก็คือ “รำคาญการจัดระเบียบความคิด” หมายความว่า พวกเขาจัดระเบียบความคิดได้ แต่รำคาญ เลยไม่ทำ แต่เหตุผลจริงๆ ที่ทำให้คุณจัดระเบียบความคิดไม่ได้ มี 3 ข้อดังนี้ มองไม่เห็นความคิดอย่างเป็นรูปธรรม สิ่งที่มองเห็นได้ด้วยตัว เช่น โต๊ะหนังสือ ตู้เสื้อผ้า หรือเอกสารจะจัดระเบียบได้ง่ายกว่า แต่ความคิดเป็นกระบวนการทำงานของสมองที่มองไม่เห็น คุณจึงต้องทำความเข้าใจสิ่งนี้ก่อนจะเข้าใจความคิดของตัวเอง สมองส่วนหน้าของคนเรา มีหน้าที่วินิจฉัยความคิด เราใช้สมองส่วนหน้ามากที่สุดเวลาทำงานหรือเรียนหนังสือ จึงมีอีกชื่อว่า “สมองทำงาน” […]
เป็นผู้หญิง ต้องไม่สวยแค่รูปลักษณ์ภายนอก แต่ต้องสวยจากความคิด ทัศนคติ และการแสดงออก เพื่อประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งด้านการเงิน การงานและความรัก มาดูกันว่ากฎของการ เป็นผู้หญิง ต้องมีอะไรบ้าง ก้าวพ้นความไร้เดียงสาให้เร็วที่สุด! คนที่หลุดจากสังคมมหาวิทยาลัยใหม่ๆ มักจะคิดและทำอะไรอย่างไม่ประสีประสา คนแบบนี้ไม่อาจก้าวหน้าได้ไกลหรือเร็ว ถ้าถามนักศึกษาว่าเรียนจบแล้วอยากทำงานอะไร ส่วนใหญ่จะตอบว่าสอบเข้ารับราขการ คนที่เรียนสูงหน่อยก็อยากเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เรียนต่อต่างประเทศ ทำงานวิจัย คำตอบแบบนี้แสดงว่าไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง พวกเขาอาจไม่ต้องการชีวิตแบบนี้ แต่นึกไม่ออกว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร จึงใช้ชีวิตอย่างเฉื่อยชา ไม่รู้สึกรู้สา ไม่กระตือรือร้น สนใจเรียนรู้อยู่บ้างแต่ไม่รักความก้าวหน้า ชีวิตวัยรุ่นจึงผ่านไปอย่างเลือนราง ถ้าเอาแต่หลบอยู่ในบ้านก็ไม่อาจค้นพบตัวเองได้ ลองก้าวออกไปดูโลกภายนอก พูดคุยกับคนอื่น เข้าหาสังคม รู้จักผู้คนหลากหลายประเภท แล้วคุณจะได้อะไรเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย พัฒนาอีคิวให้สูงเข้าไว้ ผู้หญิงอีคิวต่ำมักไม่มองปัญหาในแง่มุมของคนอื่น แต่ยึดถือความเข้าใจอันน้อยนิดน่าเวทนาของตัวเอง แล้วแสดงความเห็นที่ทำให้คนฟังหัวเราะไม่ได้ ร่ำไห้ไม่ออก ที่แย่กว่านั้นคือ อีคิวต่ำแล้วยังภูมิใจในตัวเอง คิดว่าตัวเองรู้ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก ตรงกันข้าม ผู้หญิงอีคิวสูงย่อมตอบโต้สิ่งต่างๆ ด้วยความอ่อนโยน ไม่ใช่ความโกรธ เข้าใจผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้นหลังจากการกระทำนั้นๆ จึงรู้จักควบคุมตนเองและมีวินัย รู้ว่าถ้าตนทำอย่างหนึ่งผลจะเป็นอย่างไร คนอีคิวสูงจะเข้าใจจุดอ่อนของผู้คนและมักให้ความช่วยเหลือเหมือนยื่นร่มให้คนอื่นเวลาฝนตก มอบพลังที่อบอุ่นและมั่นคง เข้าใจความซับซ้อนของคน ใจกว้าง รู้จักให้อภัย สะกดความโกรธได้ทันที […]
การตั้งคำถาม ที่ใช่ด้วยวิธีที่เหมาะสม สามารถนำพาเราไปสู่คำตอบที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งคำถามเพื่อสัมภาษณ์ ตั้งคำถามในชีวิตประจำวัน หรือคำถามวัดใจต่างๆ หากต้องการคำตอบที่ชัดเจนจากอีกฝ่าย เราควรรู้วิธีที่จะถาม ไม่ใช่ถามแบบกว้างๆ ถามด้วยคำถามกำกวมจนทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดพลาด การทำแบบนี้เรียกว่า “ถามไม่เป็น” “สื่อสารไม่ดี” ลองมาดูเทคนิค การตั้งคำถาม กันว่า ต้องถามแบบไหนถึงจะได้คำตอบ คำถามวินิจฉัย หากเกิดเหตุเครื่องบินโดยสารลำหนึ่งหายไป ผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศขาดการติดต่อ เครื่องบินหายไปจากจอเรดาร์ หากเราเป็นนักข่าวคำถามต่างๆ ก็จะตามมาอย่างเป็นแพทเทิร์น สายการบินและเที่ยวบินหมายเลขอะไร มีคนบนเครื่องกี่คน มันหายไปเมื่อไหร่และที่ไหน นี่คือคำถามที่โผล่ขึ้นมาเป็นอันดับแรกๆ ที่เรามักจะถามในช่วงเวลาเกิดเหตุชุลมุน เป็นคำถาม ใคร อะไร เมื่อไหร่ และที่ไหน เป็นปัญหาจากเครื่องยนต์หรือเปล่า มีใครอยู่ในรายชื่อผู้ต้องสงสัยบ้าง พยานเห็นอะไรบ้าง เราต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและอะไรพลาดไป ตราบใดที่คำถามเหล่านี้ยังไม่ได้รับคำตอบ เรื่องราวที่เหลือก็ยังคงเป็นปริศนา ไม่ว่าอย่างไรก็ตามจะต้องหาคำตอบของคำถามเบื้องต้นเหล่านี้ให้ได้ คำถามวินิจฉัย คือพื้นฐานของการซักถาม มันคือรากฐานที่คำถามอื่นๆ จะถูกสร้างขึ้น มันจี้จุดปัญหาและมอบแนวทางสำหรับการตอบสนอง และชี้ให้เห็นปัญหา จากนั้นก็ขุดลึกลงไปที่ต้นตอ โดยเฉพาะเมื่อต้นตอที่ว่ามองไม่เห็นในทันที เช่น คุณปวดฟัน […]
เทคนิคการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ที่จะมาแนะนำนี้ เป็นเทคนิคจากโชบยองฮัก อดีตทีมพัฒนาบุคลากรในฝ่ายปรับโครงสร้างองค์กรของฮุนได บริษัทชื่อดังในประเทศเกาหลี การที่เราล้มเหลวในการเรียนรู้สาเหตุหนึ่งมาจากการเรียนรู้แบบผิดวิธี อยากเรียนรู้ไปเสียทุกอย่างจนทำให้จับจุดไม่ได้ว่าตัวเองอยากรู้เรื่องอะไรกันแน่ โชบยองฮัก ให้คำแนะนำไว้คร่าวๆ ว่า หากต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ต้องเรียนรู้ทุกเรื่อง แต่ต้องเรียนรู้สิ่งที่จำเป็น มาดูกันว่า เทคนิคการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ที่เขาแนะนำ มีอะไรบ้าง ปฏิเสธสิ่งที่ร่างกายต้องการ เรียนรู้สิ่งที่สมองต้องการ องค์ประกอบในการคิดวิเคราะห์ไม่ได้มาจากโลกภายนอกเพียงอย่างเดียว ยังมีความรู้สึกและความต้องการจากภายในที่ถูกส่งไปยังสมองอย่างไม่หยุดหย่อน เช่น ความหิว ความง่วง ความรู้สึกร้อนหรือหนาว ซึ่งเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ เช่น ความรู้สึกไม่อยากออกไปเที่ยวข้างนอก หรือไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความต้องการของร่างกาย นอกจากนี้ยังมีความต้องการอื่นๆ ที่มาจากภายใน ซึ่งอยู่ลึกลงไปกว่านั้น เช่น ความต้องการอ่านหนังสือสอบจนอดหลับอดนอน หรือความต้องการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อเอาตัวรอดจากสังคม สิ่งเหล่านี้เป็นความต้องการจากภายในสมองที่ขัดแย้งกับความต้องการของร่างกาย เราควรพิจารณาอยู่เสมอว่าความต้องการมาจากอะไร ร่างกายมองหาความสุขในปัจจุบัน แต่สมองมองไกลไปถึงความสุขในอนาคต นี่เป็นปัญหาที่สมองถึงถกเถียงกับร่างกายอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร เราควรฟังความต้องการของสมองเป็นหลัก ผู้ฟังความต้องการจากสมอง ย่อมได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอ อย่าให้ความขี้เกียจของร่างกายมาฉุดรั้งเราได้ จงคบเพื่อนที่ให้ความเห็นได้ ไม่ใช่เพื่อนที่เอาแต่เล่นสนุก ไม่มีใครประเสริฐเท่าเพื่อนที่กล้าแสดงความเห็นออกมาตรงๆ อย่างจริงใจ แม้จะกระทบกระทั่งกันบ้างก็ตาม แต่การมองในมุมที่ต่างออกไปก็ช่วยป้องกันความล้มเหลวและผิดพลาดได้ […]