การพูดของเราในบางครั้งอาจเป็น คำพูดทำร้ายจิตใจ ที่ส่งผลกระทบกับคนรอบข้างได้โดยไม่รู้ตัว แต่ถึงรู้ตัว บางคนก็ยังแก้นิสัยนั้นไม่ได้อยู่ดี คิมยุนนา นักจิตวิทยาชื่อดังของประเทศเกาหลีได้เปรียบคำพูดของคนเหมือนกับชามคำพูด ชามจะใหญ่หรือเล็กขึ้นอยู่กับนิสัยของคนนั้นๆ คนที่มีชามคำพูดเล็กคือคนที่มีคลังศัพท์น้อย มักใช้คำพูดทำร้ายจิตใจคนอื่น และหวั่นไหวกับคำพูดคนอื่นได้ง่าย ส่วนคนที่มีชามคำพูดใหญ่จะเป็นคนที่มีคลังศัพท์มาก โน้มน้าวให้คนคล้อยตามได้ และมีสติที่จะรู้จักวิเคราะห์อีกฝ่าย และคำพูดนั้นจะเป็นสิ่งที่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเราด้วย มาดูกันว่า คำพูดทำร้ายจิตใจ ที่เราเผลอพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว ส่งผลเสียกับคนรอบข้างและตัวเราเองอย่างไร ใจเปลี่ยน คำพูดก็เปลี่ยน การพูดของคนเรานั้นได้รับอิทธิพลมาจากสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะมาจากแผลใจในอดีตที่ไม่ได้รับการสมาน ปัจจุบัน และความคิดในอนาคต อย่าง เจ้านายที่มักโมโหเกินเหตุกับลูกน้องที่ทำผิดเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย เขาก็ตำหนิอย่างรุนแรง ในวัยเด็กนั้นเขาขาดการดป็นที่ยอมรับจึงพยายามทำให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับ แต่แผลใจนี้ยังคอยรบกวนอยู่ตลอด สิ่งที่ควรทำคือเราต้องยอมรับ และเข้าใจตัวเองให้ได้ก่อนถึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงชามคำพูดของเราที่แตกได้ และเราต้องหัดที่จะตรวจสอบและค้นหาสิ่งที่อยู่ในคำพูดเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ การหาความรู้สึกที่แท้จริง เรามักจะมีความรู้สึกเพราะเรามีความคาดหวังกับสิ่งนั้น และเมื่อเรากลับมาคิดอีกที ความรู้สึกในใจตั้งแต่แรกนั้นมันคืออะไรกันแน่นะ เพราะทุกครั้งเวลาที่ความรู้สึกชั่ววูบเข้ามานั้นกระบวนการความคิดจะไม่ทำงาน และจะทำให้เราพูดโดยไม่เห็นอกเห็นใจฝ่ายตรงข้ามได้เลย ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายมากและทำให้ความสัมพันธ์แย่ลงอีกด้วย ดังนั้นเราจำเป็นต้องฝึกที่จะรับรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองให้ได้เวลาที่ความรู้สึกชั่ววูบครอบงำ ถ้าเราไม่รู้ความรู้สึกที่แท้จริงจะทำให้เราหลงทางในความรู้สึกของตัวเอง เพราะถึงเราจะพูดออกไปจนสบายใจแต่จะสร้างความทรงจำแย่ๆ ที่เผลอทำใส่คนอื่นได้ เช่น เป็นเพื่อนที่พูดให้ร้ายเพราะอิจฉา ไม่อยากฟังเพราะพูดมาก […]
Category Archives: How To
นักขายหลายคนคงเคยโดนลูกค้าเดินหนีหรือปฏิเสธมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน จริงๆ แล้วการขายนั้นจำเป็นต้องมีทักษะและอาศัย เทคนิคการขาย ที่เริ่มตั้งแต่การเตรียมตัวก่อนการขายไปจนถึงการปิดการขาย ซึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้การเจรจาขายก็คือการเตรียมตัวก่อนการขาย เพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้าตั้งแต่แรกเห็น มาดูกันว่า เทคนิคการขาย ที่สามารถพิชิตใจลูกค้าตั้งแต่แรกพบต้องทำอย่างไร การแต่งกาย การเตรียมพร้อม และมารยาท การแต่งกายคือสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งเวลาที่ต้องไปขายสินค้า เพื่อให้บุคลิคดูสะอาด น่าเชื่อถือ ควรแต่งกายสีโทนเรียบที่สะอาดไร้รอยเปื้อน รองเท้าขัดเป็นเงา ผมตัดเรียบร้อย ต่อมาคือ การเตรียมการพูด เราเตรียมไว้เพื่อให้ปฏิบัติกับลูกค้าได้อย่างเหมาะสม น้ำเสียงที่ส่งไปยังลูกค้าอย่างสุภาพน่าฟัง ใบหน้ายิ้มแย้ม และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ มารยาท ไม่ว่าอีกฝ่ายจะอยู่ไหนฐานะไหน เพศไหน อายุเท่าไหร่ ควรที่จะทำตัวให้สุภาพและให้เกียรติมากที่สุด มอบความสุขให้ทุกคนที่พบเจอ ต้องคิดอยู่เสมอว่าชีวิตเราเปรียบเสมือน “เสียงสะท้อน” คู่สนทนาเป็นดั่ง “กระจกสะท้อนตัวเรา” ทุกปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นคือภาพสะท้อนสิ่งที่ตนเองปฏิบัติ เราจึงควรทักทาย พูดคุย มอบความสุขให้ทุกคนที่พบเจอ สำหรับคนที่เพิ่งเคยเจอหน้ากันครั้งแรก ควรเริ่มจาก “เรื่องที่อีกฝ่ายสนใจ” “เรื่องที่คิดว่ามีความถนัด” แล้วต่อด้วยการถามเรื่องต่างๆ โดยให้คำถามนั้นออกมาจากใจจริง พูดให้ไหลลื่น นักขายที่ดีไม่จำเป็นต้องพูดช้าเพราะอยากให้อีกฝ่ายเข้าใจอย่างชัดเจน […]
การที่มีไอเดียเยอะๆ เป็นเรื่องที่ดี แต่การที่ไม่สามารถ จัดระเบียบความคิด ได้ต่างหากที่เป็นเรื่องแย่! ยิ่งเรามีเรื่องที่ต้องให้ทำมากเท่าไร เรายิ่งต้องจัดระเบียบมากขึ้นเท่านั้น หลายคนอาจคิดว่าเรื่องการ จัดระเบียบความคิด ยังไม่ใช่เรื่องจำเป็น แต่ไม่ว่าเราจะอยู่ในช่วงวัยเรียน หรือทำงานก็ต่างจำเป็นต้องใช้ทั้งนั้น แม้กระทั่งในชีวิตประจำวันยังเรายังจำเป็นที่ต้องใช้ทักษะนี้เหมือนกัน มาดูกันว่าการ จัดระเบียบความคิด จะช่วยให้คุณทำงานได้ง่ายขึ้นอย่างไร การจัดระเบียบความคิดจำเป็นสำหรับใคร แต่ละช่วงวัย และการทำงานแต่ละอาชีพนั้นก้ต้องใช้ทักษะนี้ เพียงแต่แตกต่างกันออกไป แต่คนที่จำเป็นต้องใช้การจัดระเบียบความคิดมีดังนี้ • วัยรุ่น ถ้ามีทักษะการจัดระเบียบความคิด จะช่วยในเรื่องความสามารถของการเข้าใจ การจดจำ และการคิดจะดีขึ้นจะทำให้มองเห็นประเด็นสำคัญและภาพรวมได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย • นักศึกษาปริญญาตรี โท และนักศึกษาที่เตรียมหางาน สำหรับนักศึกษาที่กำลังเรียนควรใช้ Bucket List หรือกราฟชีวิตเข้ามาช่วยจัดระเบียบ เวลามีรายงานกลุ่มให้ใช้กระบวนการจัดระเบียบความคิดการพูดต่อหน้าสาธารณชน 5 ขั้นตอนมาช่วย นักศึกษาปริญญาโทสามารถใช้ประโยชน์ของ Digital Map เวลาเขียนวิทยานิพนธ์ และสำหรับนักศึกษาที่หางาน ควรเตรียมข้อมูลและจัดระเบียบความคิดเกี่ยวกับบริษัทและวิสัยทัศน์ตัวเองให้ดี • พนักงานบริษัท ผู้ก่อตั้งบริษัท การวางแผนถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับบริษัท ดังนั้นต้องใช้ทักษะในการจัดระเบียบความคิดตอนทำแผนงาน รวมทั้งตอนขายสินค้า และถ้าอยากยกระดับผลงานให้ดีขึ้นต้องใช้การจัดระเบียบความคิด […]
ในปัจจุบันนี้เราอยู่ในยุคที่งานเข้ามาก้าวก่ายในชีวิตของเราได้อย่างง่ายดาย การ พักผ่อน ถูกรบกวนอย่างหนัก เพราะเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนอย่างโทรศัพท์ แท็บเล็ต ที่เราสามารถติดต่อ เช็กอีเมลกันได้ตลอดเวลา ทำให้แม้จะเป็นวันหยุดเรากลับรู้สึกว่า หยุดเหมือนไม่ได้หยุด พักผ่อน ได้ไม่เต็มที่ จนทำให้เป็นสาเหตุของโรคซึมเศร้าได้ ทำให้เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเพราะเป็นเรื่องที่สำคัญและส่งผลถึงเราโดยตรงอีกด้วย มาดูกันว่า ถ้าอยาก พักผ่อน แบบได้ประสิทธิภาพจริงๆ ต้องทำอย่างไร หลอกสมองให้ไม่ต้องคิด เคยรู้สึกไหมว่าเมื่อใกล้ถึงวันหยุดมักรู้สึกดีใจ แต่พอถึงวันหยุดจริงๆ เรากลับรู้สึกกังวลในเรื่องงานมากกว่าปกติ แสดงว่าเราอาจเสี่ยงกับ “ภาวะซึมเศร้าในวันหยุด” ได้ โดยจะมีอาการดังนี้ • ในวันธรรมดาตื่นนอนได้ตามปกติ แต่ในวันหยุดจะนอนนานเป็นพิเศษ • มักไม่สบายเมื่อถึงวันหยุด • หยุดงานทั้งทีแต่กลับไม่สดชื่น • กังวลเรื่องงานมากในวันหยุด ให้ลองสังเกตตัวเองดูว่ามีอาการแบบนี้หรือไม่ ถ้ามีแสดงว่าเรากำลังอยู่ในภาวะแนวโน้มที่จะเป็นได้ วิธีรับมือคือเราควรรักษาจังหวะเวลาการใช้ชีวิตให้เหมือนเดิม เช่น เวลาตื่นนอน เวลาเข้านอน การทำตัวให้รู้สึกสดชื่นก็สามารถช่วยได้เช่น อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ และเปลี่ยนการคิด ให้ลองมาคิดว่า […]
ถึงแม้จะพยายามหลีกเลี่ยง ‘คนเฮงซวย’ มากแค่ไหนแต่คุณก็ต้องเจอพวกเขาอยู่วันยังค่ำ พฤติกรรมของคนพวกนี้จะสร้างสภาพแวดล้อมที่แย่ให้กับองค์กรมีความมุ่งร้าย เสแสร้ง ปลุกปั่น จนทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ น้อยลงรวมถึงคุณด้วย ในเมื่อหลีกเลี่ยงพวกเขาไม่ได้ ก็ต้องหาทางอยู่ด้วยให้ได้ มาดูกันว่าเราจะสามารถอยู่ร่วมกับ คนเฮงซวย ได้อย่างไรบ้าง ไม่พูดอะไรเลย วิธีรับมือง่ายๆ อันดับแรกคือการไม่พูดอะไรเลย หรือ การนิ่งเฉย แม้คนเฮงซวยเหล่านั้นจะพูดจาแข็งกร้าว หรือชอบพูดจาตะคอก เหน็บแนมคนอื่นก็ตาม เมื่อคุณได้ยิน จงนิ่งเฉย และเดินออกมาจากบริเวณนั้นเสีย หากหลายๆ คนทำแบบคุณ คือการนิ่งและเดินออกมาแบบเงียบๆ คนเฮงซวยเหล่านั้นก็จะรู้ตัวเอง หรืออาจจะทำทองไม่รู้ร้อนต่อไปนั่นก็เป็นเรื่องของเขา ก็ถือว่าคุณได้พยายามออกห่างจากเขาอย่างเต็มที่แล้ว ให้คำปรึกษา บางครั้งคนเฮงซวย อาจไม่ได้เป็นคนเฮงซวยแบบ full time แต่เป็นคนเฮงซวย part time ซึ่งก็คือใครบางคนที่โดยปกติแล้วจะปฏิบัติกับคนอื่นอย่างอ่อนโยนและให้เกียรติ แต่จะมีบางครั้งที่เขามีพฤติกรรมไม่เป็นมิตร ซึ่งหากเป็นคนรู้จักและปกติแล้วชอบพอกันดี คุณอาจจะมองได้ว่า ความไม่เป็นมิตรของเขานั้นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขากำลังมีเรื่องแย่ๆ และต้องการกำลังใจ ให้ลองหาจังหวะแล้วสอบถามดู เผลอๆ คุณอาจเป็นคนที่ช่วยเยียวยาเขาให้กลับมาเป็นคนปกติอีกครั้ง ระวังการแพร่เชื้อ จะพูดว่าเชื้อของคนเฮงซวยร้ายแรงเหมือนไข้หวัดใหญ่เลยก็ว่าได้ ปัญหาการแพร่เชื้อของคนเฮงซวยไปสู่คนอื่นๆ เกิดขึ้นได้เพราะ ‘อารมณ์’ […]
เคล็ดลับการทำงาน แบบคนโคตรเก่งจาก Netflix ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นองค์กรยักษ์ใหญ่ที่สร้างแต่ทีมที่เก่ง หรือเรียกได้ว่าถ้าไม่เก่งจริง ไม่ได้ทำงานที่นี่แน่นอน Netflix บริหารองค์กรด้วยการจ้างพนักงานที่เก่งที่สุด และบริหารคนแบบเฉียบขาด แหวกแนว สุดโต่ง ที่ไม่ใช่องค์กรไหนๆ ก็ทำได้ เคล็ดลับการทำงาน แบบคนโคตรเก่งจาก Netflix เป็นอย่างไรตามมาดูกันเลย สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแรง เน็ตฟลิกซ์มีหลักปฏิบัติพื้นฐานที่เรียกว่าวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งเป็นแกนกลางอยู่หลักๆ 5 ข้อคือ 1.สื่อสารกันอย่างเปิดเผย ชัดเจน และทันทีในเรื่องงานและปัญหาที่เผชิญอยู่ 2.ซื่อสัตย์ จริงใจ พูดความจริงต่อกัน พูดความจริงกับเรา ในเวลาที่ถูกที่ควรและจะดีที่สุดคือพูดกันต่อหน้า 3.มีความคิดเห็นที่หนักแน่น ยึดหลักความจริง และกล้าถกเถียงอย่างตรงไปตรงมา 4.ทำสิ่งต่างๆ โดยเห็นแก่ประโยชน์สูงสุดจากลูกค้าและบริษัท ไม่ใช่เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองคิดถูก 5.ผู้จัดการที่ร่วมคัดสรรพนักงานเป็นผู้นำในการตระเตรียมทีมสู่อนาคต ทำทุกอย่างเพื่อให้คนในทีมทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยทักษะที่เหมาะสมในทุกๆ ตำแหน่ง การสร้างวัฒนธรรมคือกระบวนการพัฒนา ที่เริ่มจากตรงไหนไม่สำคัญ สำคัญที่ขอให้ได้เริ่ม ชอบความท้าทายและการแก้ปัญหา การทำงานแบบเน็ตฟลิกซ์ คือต้องมีการสร้างทีมที่ดีและแข็งแรง ทีมที่ดีคือเมื่อเจอปัญหาหนักๆ ให้ชนและมีเพื่อนร่วมงานเก่งๆ ให้ร่วมชนไปด้วยกันคือสิ่งดึงดูดใจที่ยอดเยี่ยมที่สุด และคนในทีมต้องไม่ได้เก่งแค่การค้นพบปัญหาเท่านั้น จะต้องเป็นคนที่ชอบแก้ปัญหาด้วย การสื่อสารต้องเกิดขึ้นสองทิศทาง การสื่อสารสองทิศทางเป็นสิ่งสำคัญมาก พนักงานจะต้องถามคำถามหรือเสนอข้อวิจารณ์และความคิดเห็นได้ […]
แต่ละคนมี เทคนิคการจดโน้ต ที่แตกต่างกันไป บางคนจดโน้ตเพื่อบันทึกความทรงจำ เช่น แม่ฝากซื้อไข่ไก่ น้ำมันพืช ผักคะน้า ฯลฯ หรือบางคนใช้การจดโน้ตเพื่อต่อยอดไอเดียสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ แต่ก็มีอยู่หลายครั้งที่การจดโน้ตของเราใช้ไม่ได้จริง จดไว้เมื่อเดือนที่แล้ว มาดูเดือนนี้กลับจำไม่ได้ว่าสิ่งนี้ฉันจดมาเพื่ออะไร แล้วมันเชื่อมโยงอย่างไรกัน เทคนิคการจดโน้ต ให้นำไปใช้ได้จริง มีอะไรบ้างมาดูกันเลย เขียน “วันที่” “สรุป” “ชื่อเรื่อง” สิ่งที่ทำเป็นอันดับแรกก็คือการเขียนวันที่ที่ฝั่งซ้ายบนของหน้าซ้าย เพราะข้อมูลเวลาว่าจดไปเมื่อไรสำคัญมากตอนย้อนกลับมาดู จากนั้นให้เขียนออกมาว่าการประชุมนี้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องอะไรด้วยหัวข้อสั้นๆ และให้ทำ “ช่องสรุป” ไว้ตรงข้างล่างหัวข้อประชุม ตรงนี้ควรเขียนให้เสร็จทันทีหลังจากประชุมเสร็จ โดยเลือกเฉพาะหัวข้อสำคัญของการประชุมครั้งนั้นว่าใจความสำคัญที่สุดคืออะไร และเขียนสรุปด้วยประโยคเดียวที่เมื่อกลับมาดูทีหลังแล้วสามารถนึกความคิดที่มีในตอนนั้นได้ทุกที ในส่วนของเนื้อหา ให้เขียน “ข้อเท็จจริง” ที่สมองจับใจความได้ด้วยการใช้คีย์เวิร์ด เมื่อลองบันทึกไปสักระยะเราจะเริ่มใช้คีย์เวิร์ดต่างๆ ได้คล่องมากขึ้นและเชื่อมโยงประเด็นที่คุยกันได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น ใช้ปากกา 4 สี สีของปากกาที่แนะนำให้ใช้มีทั้งหมด 4 สี ดังนี้ “สีดำ” “สีเขียว” “สีน้ำเงิน” และ “สีแดง” เกณฑ์ในการแบ่งสีมีอยู่สองอย่างคือ “เป็นความเห็นส่วนตัวหรือการมองอย่างเป็นกลาง” และ “ระดับความสำคัญ” สีเขียว […]
อะกิริ กะคะตะ เทพแห่งการขายจากประเทศญี่ปุ่นได้เผย เทคนิคปิดการขาย ที่เขาใช้มาอย่างยาวนานในหนังสือเล่มใหม่ “โลกนี้ไม่มีอะไรที่คุณขายไม่ได้” หากคุณเคยได้อ่านหนังสือเรื่อง “ขาย 100 คน ซื้อ 99 คน” หนังสือการขายที่ขายดีเป็นประวัติการณ์ของ Amarin How-to ที่พิมพ์ซ้ำไปกว่า 13 ครั้งมาก่อน คุณก็ไม่ควรปล่อยหนังสือเล่มนี้ให้หลุดลอยไป เพราะคุณอะกิระ ได้เผยกลเม็ดเคล็ดลับพิชิตยอดขายไว้ในเล่มนี้อีกเพียบ เทคนิคปิดการขาย ที่คุณควรนำไปปรับใช้เพื่อให้ยอดในปีนี้ของคุณทะลุเป้าต้องทำอย่างไรบ้าง มาดูกันเลย กำจัด “ความเขินอาย” ให้ราบคาบ อันดับแรกสุดที่นักขายทุกคนควรทำคือการ “กำจัดความเขินอาย” ที่เป็นศัตรูตัวร้ายของนักขายให้ราบคาบ ด้วยการพูดคุยกับทุกคนที่พบเจอให้เป็นนิสัย เมื่อทำได้ ความกระปรี้กระเปร่าจะเพิ่มมากขึ้น ลดความประหม่าลง และเป็นคนที่เปิดใจเข้ากับอีกฝ่ายได้ทันที บทสนทนาเริ่มต้นที่นักขายควรนำไปทักทายผู้คนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคนแปลกหน้าที่เดินสวนกัน เพื่อนร่วมงาน คนข้างบ้าน ฯลฯ มีอะไรบ้าง มาดูกัน “อรุณสวัสดิ์ครับ ออกมาเดินเล่นหรือครับ ปกติชอบเดินเล่นแถวไหนครับ” “โอ้โห สุนัขน่ารักจังครับ ตัวผู้หรือตัวเมีย น้องชื่ออะไรครับ” “หลานหรือครับ น่ารักจริงเชียว กี่ขวบแล้วครับเนี่ย” “แว่นกันแดดทรงนี้สวยดีนะครับ […]
ทุกคนต้องมี ศิลปะการพูด เพราะการพูดไม่ใช่การสื่อสารเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ทั้งเรื่องครอบครัว เพื่อนฝูง รวมไปถึงการงานด้วย ยิ่งมีชามคำพูดที่ใหญ่มากเท่าไร การพูดของคุณก็จะดีขึ้นเท่านั้น คิมยุนนา ผู้เขียนหนังสือเล่ม ศิลปะการพูดให้เหมือนนั่งในใจคน ที่มียอดขายถล่มทลายกว่า 300,000 เล่มในประเทศเกาหลี แบ่งคนออกเป็น 2 ประเภท คือคนที่มี ชามคำพูดเล็ก และคนที่มี ชามคำพูดใหญ่ ซึ่งการพูดของแต่ละคนจะส่งผลกระทบต่อคนฟังไปคนละทิศคนละทาง คนที่มีชามคำพูดเล็ก จะมีคำพูดที่ไม่จำเป็นอยู่มาก พูดทำร้ายจิตใจคนฟัง โดยไม่คิดว่าสิ่งนั้นผิด และทำให้การสื่อสารไม่ราบรื่นเท่าที่ควร บางครั้งยังอาจสร้างความบาดหมางขึ้นมาด้วย ส่วนคนที่มีชามคำพูดใหญ่ จะไม่ใช้คำพูดเพื่อทำให้คนอื่นคล้อยตาม หรือเพื่อให้ตัวเองดูโดดเด่นกว่าคนอื่น แต่จะพูดเพื่อการสื่อสาร เพื่อเอาชนะความขัดแย้ง และเพื่อเข้าใจคนอื่น แม้ในสถานการณ์ที่สื่อสารกันลำบาก พวกเขาก็จะหาวิธีทำให้การสนทนาดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น มาดูกันว่า ศิลปะการพูด ที่ต้องเรียนรู้ หากอยากเป็นคนที่มีชามคำพูดใหญ่ ต้องทำอย่างไรบ้าง ปล่อยให้อีกฝ่ายพูดสิ่งที่อยู่ในใจ หากมีคนถามคุณว่า “กำลังคิดว่าจะมีลูกคนที่สองดีไหม” คุณจะให้คำปรึกษาเขาอย่างไร บางคนอาจตอบไปว่า “เอาสิ ยังสาวอยู่ อยากมีก็มีได้เลย” และเขาก็บอกมาว่า ไม่แน่ใจว่าจะทำงานไปด้วย เลี้ยงลูกไปด้วยไหวหรือเปล่า พอบอกไปว่า […]
หลายคนชอบ ทำงานตอนกลางคืน มากกว่าตอนกลางวัน เพราะความเงียบทำให้มีสมาธิดีกว่า หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องใช้สมาธิ เช่นการอ่านหนังสือ คิดงานโปรเจ็กต์ใหญ่ๆ หรือการออกแบบต่างๆ การเป็นมนุษย์กลางคืนไม่ใช่เรื่องผิด หากเราสามารถทำงานออกมาได้ดีกว่าตอนกลางวัน เพราะคนเรามักมี “ช่วงเวลาทอง” ที่แตกต่างกัน มาดูกันว่าวิธี ทำงานตอนกลางคืน ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดต้องทำอย่างไร เลือกโซนที่มีสมาธิจดจ่อ สมัยเรียน เวลาอ่านหนังสือส่วนใหญ่จะเป็นช่วงกลางคืน แม้ว่าการอ่านหนังสือในตอนเช้าจะได้รับการยอมรับมากกว่า เพราะเชื่อว่าการอ่านหนังสือในตอนเช้าที่สมองปลอดโปร่งนั้น จะทำให้ซึมซับความรู้ได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าช่วงเวลาอื่น แต่จริงๆ แล้วก็ยังมีคนที่อ่านหนังสือตอนเช้าแล้วไม่ได้ผลจำนวนมาก จุดอ่อนของการอ่านหนังสือตอนเช้าคือมีช่วงเวลาที่จำกัด เพราะต้องรีบไปโรงเรียนต่อ ในทางตรงข้าม การอ่านหนังสือตอนกลางคืนมีการจำกัดเวลาน้อย พอเริ่มมีสมาธิก็อ่านได้เรื่อยๆ จนกว่าจะง่วงมาก ซึ่งนับเป็นวิธีอ่านหนังสืออย่างคุ้มค่า สิ่งสำคัญไม่ใช่การเลือกว่าจะอ่านหนังสือตอนเช้าหรือกลางคืน แต่เป็นการเข้าสู่ “โซน” เพื่อให้มีสมาธิจดจ่อต่างหาก ถ้าเพิ่มเวลาจดจ่อได้ เราจะเห็นผลของการอ่านหนังสือได้ว่าเราเหมาะกับการอ่านหนังสือในช่วงเช้าหรือช่วงกลางคืนมากกว่ากัน ความจำจะแม่นยำตอนกลางคืน ก่อนนอนก็จำสิ่งต่างๆ จำนวนมาก แล้วปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นประมวลผลเองเวลานอนหลับ ตอนกลางคืนจะต้องจำสิ่งที่ต้องใช้งานให้มากที่สุด เช่น จำรายละเอียดต่างๆ ของงาน หรือจำเนื้อหาในหนังสือให้มากที่สุดจนหมดแรง หลังหลับเป็นตาย ตื่นเช้ามาก็จะพบว่าสมองจัดระเบียบเนื้อหาที่จำไว้เมื่อคืนไว้เรียบร้อยแล้วอย่างน่าประหลาดใจ ถ้าจำสิ่งต่างๆ ในช่วงกลางคืน บางทีก็นึกออกมาในรูปแบบความฝัน เช่น […]