ช่วงเวลาดีๆ ที่มีแต่รัก 造作时光 เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง 月下蝶影 เขียน Hanza แปล — โปรย — รัชทายาทรูปโฉมหล่อเหลาไร้ผู้ใดเทียม เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ แต่ถึงเขาหน้าตาดีเพียงใด้ก่งกาจเพียงใด ก็หักล้างกับนิสัยไม่ดีและปากร้ายไม่ได้ หญิงผู้ดีมีชาติตระกูล มีหรือจะอดทนกับความปากร้าย ที่สามารถฆ่าคนอย่างไร้รูปเช่นนั้น ว่ากันว่าแม้แต่สนมในวังหลวงทั้งหลายก็ยังมิอาจต่อกรกับรัชทายาท นับประสาอันใดกับพวกนางที่เป็นสาวน้อยที่มีพลังในการชิงดีชิงเด่นไม่เข้มแข็งพอ คิดดูอีกที เมื่อรัชทายาทถูกตาจ้องใจสตรีอ่อนแอขี้โรค นับว่านางเป็นเนื้อสมันที่เดินเข้าปากเสือ น่าจะโชคร้ายมากกว่าโชคดี แม้ภายนอก ฮวาหลิวหลี อ่อนแอขี้โรค ทว่าแท้จริงนางเป็นสตรีที่น่าครั่นคร้ามยิ่ง ไม่ว่าฝ่ายใดที่พยายามลอบสังหารนาง กลับต้องแพ้ภัยตัวเอง จีหยวนซู่ บุรุษรูปงาม สูงศักดิ์ เป็นถึงรัชทายาทแคว้นจิ้น เขาถูกตาต้องใจนาง คอยปกป้องเอาใจนางเสมอ ต่อให้นางเข้มแข็งเพียงใดก็ยังพ่ายต่อเขา และที่สำคัญคือพ่ายต่อรูปโฉมบุรุษที่เป็นจุดอ่อนของนาง _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) เวลาเดียวกันนั้นเองจดหมายข่าวลับสุดยอดเกี่ยวกับเรื่องที่หลินฮุยจือเกือบเสียชีวิตเพราะถูกลอบสังหารถูกนำมาวางบนโต๊ะหนังสือของฮ่องเต้ ฮ่องเต้ชางหลงมองจดหมายลับฉบับนั้นเงียบๆ สีหน้าเคร่งเครียด ขันทีรับใช้ก้มหน้ามิกล้าหายใจแรง ด้วยกลัวจะทำฮ่องเต้ไม่พอใจ ภายในห้องเงียบสนิทอย่างที่ไม่มีผู้ใดทำลายความเงียบนั้นลงได้ […]
Category Archives: ทดลองอ่าน
ช่วงเวลาดีๆ ที่มีแต่รัก 造作时光 เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง 月下蝶影 เขียน Hanza แปล — โปรย — รัชทายาทรูปโฉมหล่อเหลาไร้ผู้ใดเทียม เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ แต่ถึงเขาหน้าตาดีเพียงใด้ก่งกาจเพียงใด ก็หักล้างกับนิสัยไม่ดีและปากร้ายไม่ได้ หญิงผู้ดีมีชาติตระกูล มีหรือจะอดทนกับความปากร้าย ที่สามารถฆ่าคนอย่างไร้รูปเช่นนั้น ว่ากันว่าแม้แต่สนมในวังหลวงทั้งหลายก็ยังมิอาจต่อกรกับรัชทายาท นับประสาอันใดกับพวกนางที่เป็นสาวน้อยที่มีพลังในการชิงดีชิงเด่นไม่เข้มแข็งพอ คิดดูอีกที เมื่อรัชทายาทถูกตาจ้องใจสตรีอ่อนแอขี้โรค นับว่านางเป็นเนื้อสมันที่เดินเข้าปากเสือ น่าจะโชคร้ายมากกว่าโชคดี แม้ภายนอก ฮวาหลิวหลี อ่อนแอขี้โรค ทว่าแท้จริงนางเป็นสตรีที่น่าครั่นคร้ามยิ่ง ไม่ว่าฝ่ายใดที่พยายามลอบสังหารนาง กลับต้องแพ้ภัยตัวเอง จีหยวนซู่ บุรุษรูปงาม สูงศักดิ์ เป็นถึงรัชทายาทแคว้นจิ้น เขาถูกตาต้องใจนาง คอยปกป้องเอาใจนางเสมอ ต่อให้นางเข้มแข็งเพียงใดก็ยังพ่ายต่อเขา และที่สำคัญคือพ่ายต่อรูปโฉมบุรุษที่เป็นจุดอ่อนของนาง _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) เหล่าคุณชายเสเพลเห็นเหตุการณ์วุ่นวายตรงหน้าก็ตกใจไปตามๆ กัน มองทหารกุมดาบสีหน้าท่าทางดุดันก็บังเกิดความร้อนตัว ทยอยลงจากหลังอาชาอย่างว่าง่าย สกุลใหญ่ในเมืองหลวงมากมายที่มักติดสัญลักษณ์ของตระกูลไว้ที่รถม้า แต่พวกเขาสังเกตรถม้าคันนี้แล้วไม่เห็นสัญลักษณ์พิเศษใดๆ […]
ยุคสมัยแห่งธิดาอ๋อง 王女韶华 溪畔茶 ซีพั่นฉา เขียน ภวิษย์พร แปล — โปรย — มู่หยวนอวี๋ ซื่อจื่อน้อยแห่งนครอวิ๋นหนาน แม้อายุอย่างน้อย แต่กลับกุมความลับที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลเอาไว้ หากความลับที่ว่านี้แพร่งพรายออกไป ไม่เพียงจะนำภัยมาถึงตน คนรอบกายอย่างบิดาและมารดาย่อมไม่อาจรอดพ้น เมื่อวันเวลาผันผ่าน บิดาไม่คิดปกป้อง ซื่อจื่อน้อยย้อมต้องหาวิธีเอาตัวรอด ด้วยการเดินทางไปยังเมืองหลวง พึ่งใบบุญของโอรสสวรรค์ ดังคำกฃ่าวที่ว่า ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด การเดินทางไปยังเมืองหลวงของมู่หยวนอวี๋ในครั้งนี้ จะช่วยรักษาความลับ อีกทั้งชีวิตน้อยๆ ของตนเองและชีวิตของคนในครอบครัวไว้ได้หรือไม่ _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) มู่หยวนอวี๋ได้สติเป็นคนแรก โน้มตัวออกมาจากเก้าอี้เล็กน้อย “ใช่พี่ชายสามของบ้านท่านลุงรองหรือไม่” เตียนหนิงอ๋องมีพี่น้องทั้งหมดสามคน พี่ชายคนโตเสียชีวิตนานแล้ว คนที่เหลือก็คือคนรอง นายท่านรองมู่ เฟิ่งกั๋วเจียงจวิน[1] และคนที่สามก็คือเตียนหนิงอ๋อง พี่น้องสองคนต่างก็มีจวนเป็นของตัวเอง เนื่องจากในอดีตเคยมีความแค้นบางอย่าง เวลาปกติจึงไปมาหาสู่กันน้อยมาก ส่วนความแค้นนั้นคืออะไร ดูจากลำดับของเตียนหนิงอ๋องที่เป็นลูกคนสุดท้าย แต่กลับได้สืบทอดตำแหน่งอ๋องนี้ก็สามารถอธิบายเรื่องราวได้อย่างชัดเจนแล้ว มู่จื่อฟางก้มหน้าก้มตาผงกศีรษะรับ […]
ยุคสมัยแห่งธิดาอ๋อง 王女韶华 溪畔茶 ซีพั่นฉา เขียน ภวิษย์พร แปล — โปรย — มู่หยวนอวี๋ ซื่อจื่อน้อยแห่งนครอวิ๋นหนาน แม้อายุอย่างน้อย แต่กลับกุมความลับที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลเอาไว้ หากความลับที่ว่านี้แพร่งพรายออกไป ไม่เพียงจะนำภัยมาถึงตน คนรอบกายอย่างบิดาและมารดาย่อมไม่อาจรอดพ้น เมื่อวันเวลาผันผ่าน บิดาไม่คิดปกป้อง ซื่อจื่อน้อยย้อมต้องหาวิธีเอาตัวรอด ด้วยการเดินทางไปยังเมืองหลวง พึ่งใบบุญของโอรสสวรรค์ ดังคำกฃ่าวที่ว่า ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด การเดินทางไปยังเมืองหลวงของมู่หยวนอวี๋ในครั้งนี้ จะช่วยรักษาความลับ อีกทั้งชีวิตน้อยๆ ของตนเองและชีวิตของคนในครอบครัวไว้ได้หรือไม่ _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) เรือนหรงเจิ้งที่ตั้งอยู่บนเส้นแนวแกนกลางของจวนอ๋องเวลานี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะรื่นเริง แตกต่างไปจากบรรยากาศคลุมเครือในเรือนชิงหว่าน พระชายาเตียนหนิงอ๋องนั่งอยู่บนตำแหน่งประธาน หลังจากได้รู้ข่าวดีของบุตรสาว ริมฝีปากของนางก็หุบไม่ลงอีกเลย หมัวหมัว[1]ผู้ดูแลงาน สาวใช้ใหญ่ สาวใช้เล็กล้วนพากันดาหน้ามาเอ่ยแสดงความยินดีแถวแล้วแถวเล่า คำพูดมงคลถูกยกมากล่าวไม่หยุดปาก พระชายาเตียนหนิงอ๋องยิ่งฟังสีหน้าก็ยิ่งเปล่งปลั่งสดชื่น นางไม่ใช่ชาวฮั่น แต่เป็นสตรีชาวไป่อี๋ในท้องถิ่นซึ่งเตียนหนิงอ๋องแต่งเป็นภรรยาเอก นิสัยตรงไปตรงมา กล้าได้กล้าเสีย นางเพียงโบกมือและกล่าวว่า “เงินเดือนของคนในจวนเดือนนี้เพิ่มเป็นสองเท่า ในเรือนของพวกเราบวกเพิ่มขึ้นไปอีกหนึ่งเท่า” […]
แฟ้มคดีกรมปราบปีศาจ 步天纲 (Bu Tian Gang) 梦溪石 เมิ่งซีสือ เขียน ลลิตา ธ. แปล นิยาย 6 เล่มจบ วางจำหน่ายแยกเล่ม —.—.—.—.—.—.—.—.—.— ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ บทที่ 89 จิตใต้สำนึกสั่งให้เขาหันศีรษะไป แต่ด้วยขยับไม่ได้ เลยต้องตระหนักถึงความจริงที่ว่าตนไม่มีร่างกายแล้วอีกครั้งอย่างไม่มีทางเลือก นัยน์ตาสีแดงก่ำของยามาโมโตะ คิโยชิ กลอกไปมา ก่อนหยุดนิ่งที่หงรุ่ยและต่งเฉี่ยวหลาน “พวกนั้นเป็นร่างที่หามาให้ฉันใช้? ผู้หญิงอ้วนเกินไป ผู้ชายยังพอแก้ขัดได้ เอาผู้ชายมาให้ฉันใช้ก็แล้วกัน!” หงรุ่ยตัวสั่นเทิ้ม เขาพยายามสะกดกลั้นความตื่นตระหนก รักษาความนิ่งเงียบ หมอบตัวต่ำ ไม่กล้าขยับเขยื้อน จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงอ่อนโยนของสนพูดขึ้น “วิญญาณนายเกือบแตกสลาย ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ร่างกาย มีสังขารไปนายก็เป็นเหมือนคนปกติไม่ได้ ไม่มีประโยชน์ที่จะใช้พวกเขา” หงรุ่ยเผลอถอนหายใจอย่างโล่งอก ร่างกายแทบอ่อนยวบเพราะหมดแรง เขาไม่สนใจคำว่า ‘ไม่มีประโยชน์’ ซึ่งสำหรับเขาแล้วเท่ากับเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยาม สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้คือการรอดพ้นหายนะไปให้ได้ ไม่มีใครรู้จักวิธีการอันร้ายกาจของสนดีไปกว่าเขา และเขาก็ไม่ต้องการให้วิธีการเหล่านั้นถูกนำมาใช้กับตัวเองในวันใดวันหนึ่งด้วย ที่เขาได้รู้จักกับนักไสยศาสตร์ท่านนี้เป็นเรื่องบังเอิญล้วน ๆ ตอนนั้นเขากับหลินจี้ คู่แข่งทางธุรกิจแย่งชิงที่ดินผืนหนึ่งทางภาคใต้กัน พูดถึงเรื่องเส้นสายกับกำลังทรัพย์ ตระกูลหลินแห่งหลิ่งหนานเหนือกว่าเขาขุมหนึ่ง หงรุ่ยเตรียมการเพื่อที่ดินผืนนั้นมาช้านาน ถ้าต้องประสานมือคารวะยกมันให้ตระกูลหลินไปฟรี ๆ เขาย่อมไม่ยินยอมอยู่แล้ว ตอนนั้นต่งเฉี่ยวหลานแนะนำให้เขารู้จักอาจารย์สนพอดี อีกฝ่ายอ้างว่าตนทำให้ตระกูลหลินล่าถอยออกไปเองผ่านการทำพิธีได้ หงรุ่ยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ผ่านไปไม่นาน เขาก็ได้ยินว่าหลินจี้ป่วยหนัก ตระกูลหลินดิ้นรนสุดกำลังเพื่อหาวิธีรักษาหลินจี้ไปทั่ว จึงล้มเลิกการแย่งชิงที่ดินไปเองโดยปริยาย หงรุ่ยได้ที่ดินมาอย่างราบรื่น กิจการเจริญก้าวหน้าไปอีกขั้น ตั้งแต่ครั้งนั้นเป็นต้นมา เขาก็สยบแทบเท้าสน ให้ความเคารพดุจเทพเจ้า หลังจากนั้นมา ไม่ว่าเขาจะขออะไร สนก็ดำเนินการให้ทั้งหมด รับประกันว่าความปรารถนาของเขาจะเป็นจริงทุกเรื่อง เคยมีเพื่อนซึ่งเป็นคนไทยในท้องที่บอกหงรุ่ยว่าวิชาไสยศาสตร์ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แพร่หลายเป็นอย่างมาก สำนักไสยศาสตร์ เช่นในพม่า ไทย มาเลเซีย เวียดนาม และอื่น ๆ มีอยู่นับไม่ถ้วน และสนก็เป็นผู้มีฝีมืออยู่ในอันดับต้น ๆ ของบรรดานักไสยศาสตร์สายดำ วิธีการของเขาโหดเหี้ยม อาคมเหนือชั้น ใช้คุณไสยนานาชนิดตามอารมณ์ อย่าว่าแต่คนธรรมดา แม้แต่นักไสยศาสตร์ด้วยกันยังไม่อยากล่วงเกินเขา […]
ช่วงเวลาดีๆ ที่มีแต่รัก 造作时光 เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง 月下蝶影 เขียน Hanza แปล — โปรย — รัชทายาทรูปโฉมหล่อเหลาไร้ผู้ใดเทียม เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ แต่ถึงเขาหน้าตาดีเพียงใด้ก่งกาจเพียงใด ก็หักล้างกับนิสัยไม่ดีและปากร้ายไม่ได้ หญิงผู้ดีมีชาติตระกูล มีหรือจะอดทนกับความปากร้าย ที่สามารถฆ่าคนอย่างไร้รูปเช่นนั้น ว่ากันว่าแม้แต่สนมในวังหลวงทั้งหลายก็ยังมิอาจต่อกรกับรัชทายาท นับประสาอันใดกับพวกนางที่เป็นสาวน้อยที่มีพลังในการชิงดีชิงเด่นไม่เข้มแข็งพอ คิดดูอีกที เมื่อรัชทายาทถูกตาจ้องใจสตรีอ่อนแอขี้โรค นับว่านางเป็นเนื้อสมันที่เดินเข้าปากเสือ น่าจะโชคร้ายมากกว่าโชคดี แม้ภายนอก ฮวาหลิวหลี อ่อนแอขี้โรค ทว่าแท้จริงนางเป็นสตรีที่น่าครั่นคร้ามยิ่ง ไม่ว่าฝ่ายใดที่พยายามลอบสังหารนาง กลับต้องแพ้ภัยตัวเอง จีหยวนซู่ บุรุษรูปงาม สูงศักดิ์ เป็นถึงรัชทายาทแคว้นจิ้น เขาถูกตาต้องใจนาง คอยปกป้องเอาใจนางเสมอ ต่อให้นางเข้มแข็งเพียงใดก็ยังพ่ายต่อเขา และที่สำคัญคือพ่ายต่อรูปโฉมบุรุษที่เป็นจุดอ่อนของนาง _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) เหมันตฤดู รัชศกชางหลงที่สามสิบ ราษฎรต้าจิ้นต่างยินดีปรีดา ด้วยเพราะแผ่นดินต้าจิ้นของพวกเขาขัดแย้งกับแคว้นข้างเคียงอย่างแคว้นจินพั่วมานานหลายปี ทว่าครานี้แม่ทัพใหญ่พิทักษ์แผ่นดินไม่เพียงจะจัดการกับแคว้นจินพั่วจนต้องตะโกนร้องหาบิดา ร่ำไห้หามารดา ยังจับองค์ชายรองที่องอาจชำนาญการรบไว้ได้ จนแคว้นจินพั่วต้องยอมยกดินแดนบางส่วนชดเชย มิหนำซ้ำยังยอมก้มหัวศิโรราบ พาให้ชาวต้าจิ้นไม่ว่าระดับใดได้เชิดหน้าชูตา เดินอย่างสง่าผ่าเผย […]
แฟ้มคดีกรมปราบปีศาจ 步天纲 (Bu Tian Gang) 梦溪石 เมิ่งซีสือ เขียน ลลิตา ธ. แปล นิยาย 6 เล่มจบ วางจำหน่ายแยกเล่ม —.—.—.—.—.—.—.—.—.— ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ บทที่ 88 ทางตำรวจตระหนักถึงความรุนแรงของเหตุการณ์ ผู้บังคับการเจิ้งมาที่นี่ด้วยตัวเอง มู่ตั่วกับจางชงก็ตามมาถึงในภายหลังด้วย ตอนนี้ตงจื้อเป็นผู้ดูแลกรมจัดการคดีพิเศษทางฝั่งลู่เฉิง แม้คำนำหน้าชื่อตำแหน่งจะมีคำว่า “ชั่วคราว” อยู่ด้วยก็เถอะ ถึงกระนั้น เขาสามารถกำหนดแผนการให้กับทุกเรื่องที่อยู่ภายใต้การจัดการของกรมจัดการคดีพิเศษในลู่เฉิงได้ จากการหารือของทั้งสองฝ่าย พวกเขาตัดสินใจร่วมมือกันในคดีนี้ สถานที่เกิดเหตุถูกปิดล้อม ก้อนเลือดที่เกิดจากการแท้งของหานฉี เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดธรรมดา กรมจัดการคดีพิเศษจึงนำกลับไปตรวจสอบ อีกด้านหนึ่ง ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องถูกนำตัวไปบันทึกปากคำ แน่นอนว่าประเด็นสำคัญคือหานฉี เพราะเรื่องทั้งหมดนี้ล้วนสัมพันธ์กับหล่อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ตอนนี้หล่อนบาดเจ็บสาหัสและหมดสติ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการช่วยเหลือแล้ว หากต้องการสอบถามรายละเอียดของคดีก็ต้องรอให้พ้นขีดอันตรายก่อนค่อยว่ากัน คนอื่น ๆ ในกองถ่าย รวมถึงผู้ช่วยหานฉี อาจเป็นบุคคลสำคัญที่เข้าใจรายละเอียดของคดี ทุกคนต้องถูกซักถามหนึ่งรอบ มู่ตั่ว จางชงกับตำรวจร่วมกันสอบสวน เฉินกั๋วเหลียงก็ถูกตำรวจพาตัวไปปรับทัศนคติด้วย ส่วนพวกจางหาน หลัวหนานฟาง เถ้าแก่เจ้า ฮุ่ยอี๋กวง ตงจื้อกับหลิวชิงปัวเป็นผู้สอบสวนด้วยตัวเอง ที่ทำการลู่เฉิงเก่าเกินไป ตงจื้อรู้สึกไม่ดีหากต้องพาใครไปที่นั่น เพื่อไม่ให้เป็นการทำลายภาพลักษณ์ของประเทศชาติ โชคดีที่ผู้บังคับการเจิ้งเข้าใจ จึงให้พวกเขายืมห้องประชุมห้องหนึ่งซึ่งมีหน้าต่างโปร่งใสและโต๊ะสะอาดสะอ้าน เถ้าแก่เจ้ามีทรัพย์สินเงินทองและบารมีล้นหลาม เปิดห้องพักให้พวกตงจื้อทันทีหนึ่งห้อง ให้ลูกน้องซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ตามไซซ์ของแต่ละคน เพื่อให้ทุกคนชะล้างคราบเลือดบนตัว สองชั่วโมงต่อมา ทุกคนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและมารวมตัวกันยังห้องประชุมในที่สุด เถ้าแก่เจ้ามีนิสัยขี้ใจร้อน สุดท้ายเก็บความสงสัยที่อัดอั้นมานานไม่ไหว “ท่านอาจารย์ ตกลงนี่มันเกิดอะไรขึ้น!” ตงจื้อย้อนถาม “ก่อนหน้านี้หานฉีเคยตั้งท้องมาแล้วครั้งหนึ่งใช่ไหม” เถ้าแก่เจ้าส่ายหัวงง ๆ ฮุ่ยอี๋กวงใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนบอก “สามปีก่อนเหมือนฉันจะเคยได้ยินข่าวลือทำนองนี้ ยังได้ยินมาด้วยว่าเหมือนเด็กคนนั้นจะเป็นลูกของจงห้วน” จงห้วนเป็นศิลปินชายที่มีชื่อเสียงมากอีกคน ไม่โด่งดังเท่าหานฉี แต่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ได้รับความนิยมล้นหลาม ดาราชายมีอายุการทำงานนาน จินตนาการได้เลยว่าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เวลาที่เขาจะอยู่ในวงการนับจากนี้ยังอีกยาวไกล ได้ยินชื่อนี้แล้ว เถ้าแก่เจ้าก็ร้องอ๋อเสียงยาวอย่างสอดรู้สอดเห็น เมื่อเห็นหลิวชิงปัวมองบนใส่ ก็รีบใช้มืออุดปาก บอกเป็นนัยว่าตนไม่ได้สร้างความรบกวน ฮุ่ยอี๋กวงกล่าว “แต่คุณก็รู้ ในวงการมีข่าวลือมากมาย บางเรื่องคือฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด จริงเท็จปนกัน หลายคนเลยไม่เห็นเป็นจริงเป็นจัง แต่ว่าผู้ช่วยหรือผู้จัดการของเธอคงรู้อะไรมากกว่านี้” […]
ช่วงเวลาดีๆ ที่มีแต่รัก 造作时光 เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง 月下蝶影 เขียน Hanza แปล — โปรย — รัชทายาทรูปโฉมหล่อเหลาไร้ผู้ใดเทียม เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ แต่ถึงเขาหน้าตาดีเพียงใด้ก่งกาจเพียงใด ก็หักล้างกับนิสัยไม่ดีและปากร้ายไม่ได้ หญิงผู้ดีมีชาติตระกูล มีหรือจะอดทนกับความปากร้าย ที่สามารถฆ่าคนอย่างไร้รูปเช่นนั้น ว่ากันว่าแม้แต่สนมในวังหลวงทั้งหลายก็ยังมิอาจต่อกรกับรัชทายาท นับประสาอันใดกับพวกนางที่เป็นสาวน้อยที่มีพลังในการชิงดีชิงเด่นไม่เข้มแข็งพอ คิดดูอีกที เมื่อรัชทายาทถูกตาจ้องใจสตรีอ่อนแอขี้โรค นับว่านางเป็นเนื้อสมันที่เดินเข้าปากเสือ น่าจะโชคร้ายมากกว่าโชคดี แม้ภายนอก ฮวาหลิวหลี อ่อนแอขี้โรค ทว่าแท้จริงนางเป็นสตรีที่น่าครั่นคร้ามยิ่ง ไม่ว่าฝ่ายใดที่พยายามลอบสังหารนาง กลับต้องแพ้ภัยตัวเอง จีหยวนซู่ บุรุษรูปงาม สูงศักดิ์ เป็นถึงรัชทายาทแคว้นจิ้น เขาถูกตาต้องใจนาง คอยปกป้องเอาใจนางเสมอ ต่อให้นางเข้มแข็งเพียงใดก็ยังพ่ายต่อเขา และที่สำคัญคือพ่ายต่อรูปโฉมบุรุษที่เป็นจุดอ่อนของนาง _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) หลังความเงียบงันชั่วขณะผันผ่าน ผู้ที่ลอบวางยาพิษในห้องครัวกล่าวอย่างขลาดกลัวว่า “สตรีสกุลฮวานางนั้นถูกเลี้ยงดูจนกลายเป็นคนดื้อรั้น เอาแต่ใจ ใจไม่กว้าง ไม่ตรงไปตรงมาอย่างที่คนในตระกูลนักรบสมควรมีแม้แต่น้อย […]
ยุคสมัยแห่งธิดาอ๋อง 王女韶华 溪畔茶 ซีพั่นฉา เขียน ภวิษย์พร แปล — โปรย — มู่หยวนอวี๋ ซื่อจื่อน้อยแห่งนครอวิ๋นหนาน แม้อายุอย่างน้อย แต่กลับกุมความลับที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลเอาไว้ หากความลับที่ว่านี้แพร่งพรายออกไป ไม่เพียงจะนำภัยมาถึงตน คนรอบกายอย่างบิดาและมารดาย่อมไม่อาจรอดพ้น เมื่อวันเวลาผันผ่าน บิดาไม่คิดปกป้อง ซื่อจื่อน้อยย้อมต้องหาวิธีเอาตัวรอด ด้วยการเดินทางไปยังเมืองหลวง พึ่งใบบุญของโอรสสวรรค์ ดังคำกฃ่าวที่ว่า ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด การเดินทางไปยังเมืองหลวงของมู่หยวนอวี๋ในครั้งนี้ จะช่วยรักษาความลับ อีกทั้งชีวิตน้อยๆ ของตนเองและชีวิตของคนในครอบครัวไว้ได้หรือไม่ _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) บทที่ 2 เรือนชิงหว่าน ในห้องปีกข้างฝั่งตะวันตก บนเตียงหลัวฮั่นที่ทำจากไม้จื่อถานแกะสลักลวดลายตัวชือ[1]ซึ่งตั้งอยู่ใต้หน้าต่างปูพรมผ้าปักดิ้นสีแดงสดเอาไว้ เตียนหนิงอ๋องที่สวมชุดลำลองซึ่งเป็นชุดคลุมนักพรตเต๋าสีดำกำลังนั่งเอนหลังอยู่บนเตียง หรี่ตาลงน้อยๆด้วยท่าทางผ่อนคลาย มือข้างหนึ่งวางไว้บนโต๊ะตัวเล็กที่ตั้งอยู่ตรงกลาง ข้างเตียงมีสาวงามคนหนึ่งยืนอยู่ นางสวมชุดอ่าวตัวยาวสีแดงอ่อนสาบเสื้อเปิดอ้า รวบผมเป็นมวยเรียบง่าย ปักปิ่นไข่มุกหนึ่งอัน นางกำลังทุบไหล่ให้เตียนหนิงอ๋องเบาๆ ทุกครั้งที่มือของนางขยับ ไข่มุกบนปิ่นก็จะส่ายไหวเบาๆตามไปด้วย ด้านล่างเตียงวางโคมวังหลวง[2]ไว้หนึ่งดวง […]
ยุคสมัยแห่งธิดาอ๋อง 王女韶华 溪畔茶 ซีพั่นฉา เขียน ภวิษย์พร แปล — โปรย — มู่หยวนอวี๋ ซื่อจื่อน้อยแห่งนครอวิ๋นหนาน แม้อายุอย่างน้อย แต่กลับกุมความลับที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลเอาไว้ หากความลับที่ว่านี้แพร่งพรายออกไป ไม่เพียงจะนำภัยมาถึงตน คนรอบกายอย่างบิดาและมารดาย่อมไม่อาจรอดพ้น เมื่อวันเวลาผันผ่าน บิดาไม่คิดปกป้อง ซื่อจื่อน้อยย้อมต้องหาวิธีเอาตัวรอด ด้วยการเดินทางไปยังเมืองหลวง พึ่งใบบุญของโอรสสวรรค์ ดังคำกฃ่าวที่ว่า ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด การเดินทางไปยังเมืองหลวงของมู่หยวนอวี๋ในครั้งนี้ จะช่วยรักษาความลับ อีกทั้งชีวิตน้อยๆ ของตนเองและชีวิตของคนในครอบครัวไว้ได้หรือไม่ _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) บทที่ 1 พลบค่ำ ท่ามกลางแสงสายัณห์ เกล็ดหิมะเกล็ดแล้วเกล็ดเล่าลอยล่องหมุนคว้างอยู่กลางอากาศ ก่อนค่อยๆร่วงลงมาบนพื้นดิน บนต้นไม้ บนศีรษะของคนเดินถนน หรือไม่ก็บนหลังคามุงแฝก หลังคากระเบื้อง แม้แต่หลังคากระจกก็ล้วนถูกอาบย้อมด้วยความงดงามในเวลาเพียงไม่นาน ความงดงามเหล่านั้นทับซ้อนกันเป็นชั้นๆจนกระทั่งสีขาวเริ่มห่มคลุมไปทั่วบริเวณ จวนเตียนหนิงอ๋องที่โอ่อ่าเคร่งขรึมตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางหิมะแรกของต้นเหมันต์อย่างเงียบสงบ โคมไฟที่ห้อยอยู่ด้านหน้าทับหลังประตูส่องแสงเรืองรองอบอุ่นท่ามกลางหิมะที่โปรยปราย ประตูหลักสีชาดซึ่งฝังมือจับรูปหัวสัตว์ยังคงปิดสนิท มีเพียงประตูข้างฝั่งตะวันตกเท่านั้นที่เปิดแง้มไว้ เหล่าข้ารับใช้ชายที่สวมชุดดำและหมวกใบเล็กห่อตัวอยู่ในมุมข้างบันได กำลังกระทืบเท้า เป่าลมใส่มือเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น ท้องฟ้ามืดแล้ว อีกทั้งยังมีหิมะตกลงมา […]