幼崽护养协会
ผมจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่อนุบาลสัตว์ เล่ม 3
酒矣 (Jiu Yi)
เขียน
ชาเย็น Lover
แปล
— โปรย —
ภารกิจหลักที่ทำให้เซี่ยหลวนมายังดาวไกอาก็ต้องดำเนินต่อไป
การเปลี่ยนแปลงจุดจบของดวงดาว
และอวกาศแห่งนี้ขึ้นอยู่กับเซี่ยหลวนจริงหรือ
เขาจะต้องทำอย่างไรเพื่อปกป้องเหล่าลูกสัตว์อันเป็นที่รัก
และอวกาศแห่งนี้เอาไว้ได้
—.—.—.—.—.—.—.—.—.—
ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing
…XOXO…
มาดามโรส
ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์
บทที่ 96 วันที่เก้าสิบหกในฐานะพี่เลี้ยง
การประเมินคุณสมบัติรอบนี้จะจัดขึ้นในปลายเดือนนี้ หลังจากผู้ปกครองสองคนจากไปแล้ว เซี่ยหลวนก็อุ้มลูกมายาที่อยู่ในอกสูงขึ้นเล็กน้อย สายตาสบเข้ากับลูกสัตว์ที่กระดิกหางให้เขาเบา ๆ พอดี จึงพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า “การทดสอบย่อยสิ้นเดือนนี้ เธอจะไปเข้าร่วมอีกครั้ง และนี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ”
ได้ยินผู้ปกครองบอกว่าลูกสัตว์ตัวนี้ไม่ค่อยเต็มใจที่จะเข้าร่วมการประเมิน เวลานี้เซี่ยหลวนจึงทำเสียงอ่อนโยนเป็นพิเศษ และยื่นนิ้วมือแตะหัวของลูกสัตว์ที่เงยหน้ามองมาทางเขาเบา ๆ
เมื่อได้ยินประโยคนี้ของเซี่ยหลวน เขาก็เห็นว่าหางเล็กแหลมของลูกมายาที่แกว่งไปมาหยุดลง ทว่าเพียงครู่เดียวก็กลับมาส่ายใหม่
เซี่ยหลวนได้ยินเสียงร้องอึง ๆ ของลูกสัตว์จึงยกลูกมายาในอกสูงขึ้นอีก ยามเซี่ยหลวนใช้สองมือยกตัวลูกสัตว์ให้สูงขึ้น เสียงร้องของลูกมายาก็ยิ่งชัดเจนขึ้น ขาเล็กสั้นทั้งสี่ตะกุยตะกายไปมากลางอากาศ
แม้จะไม่ชอบเข้าร่วมการประเมิน แต่พอได้ยินเสียงกล่อมของชายหนุ่มและถูกยกตัวขึ้นสูงแบบนี้ ลูกมายาจึงเลือกจะเป็นเด็กดีและเชื่อฟัง
เซี่ยหลวนให้ลูกมายาถีบขาไปมากลางอากาศอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะอุ้มมันกลับมาไว้ในอกตามเดิม แล้วพากลับไปที่สระน้ำในห้องตามที่รับปากไว้ก่อนหน้านั้น
ก่อนวางลูกมายาที่อุ้มอยู่ลงในสระน้ำ เซี่ยหลวนก้มลงพูดกับลูกสัตว์ว่า “เพื่อให้รับมือกับการทดสอบได้อย่างปกติ ตั้งแต่พรุ่งนี้ทอร์ตต้องเริ่มฝึกเดินที่ห้องโถงนะครับ”
เซี่ยหลวนไม่ได้ลืมเรื่องที่ลูกสัตว์เดินทรงตัวไม่ค่อยอยู่และยังรักษาสมดุลร่างกายไม่ค่อยได้
ด้วยผ่านการวางแผนบางส่วนมาแล้ว จุดบกพร่องเล็ก ๆ นี้จะดีขึ้นเองในระหว่างที่ลูกสัตว์เติบโตขึ้น ทีแรกเซี่ยหลวนไม่ได้อยากเร่งรัดให้ลูกสัตว์แก้ไข ทว่าตอนนี้จำเป็นต้องนับถอยหลังแล้ว
เนื้อหาการประเมินคุณสมบัติไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับการเดินทรงตัวของลูกสัตว์ว่ามั่นคงหรือไม่ สิ่งที่ต้องการทดสอบคือพรสวรรค์ แต่พอเซี่ยหลวนจินตนาการภาพที่ลูกมายาเดินๆอยู่ไม่ทันไรก็หงายท้องขึ้นมาในระหว่างการทดสอบ เขาจึงตัดสินใจทำแบบนี้อย่างรวดเร็ว
ลูกมายาส่งเสียงร้องประท้วงเบา ๆ ว่าไม่อยากทำ แต่พอเซี่ยหลวนลูบกระดองมันถึงสงบใจลงได้
วันถัดมาเซี่ยหลวนอุ้มลูกมายามายังห้องโถงตามที่พูดไว้กับลูกสัตว์ พร้อมอุ้มเงือกน้อยที่ขดในอกเขาพลางสะบัดหางเบา ๆ มาด้วย
เซี่ยหลวนหาของที่ให้เงือกน้อยนั่งพิงได้ แล้ววางลูกมายาลงใกล้ ๆ กัน ถัดมาเขาถึงเดินกลับไปข้าง ๆ เงือกน้อย
ลูกสัตว์ตัวอื่นในห้องโถงทยอยเข้ามา เพียงครู่เดียวก็มีลูกสัตว์มากมายล้อมอยู่รอบตัวเขา ส่วนลูกมายาที่ถูกวางอยู่ไม่ไกลกันในเวลานี้ก็ยังหยุดอยู่ที่เดิม
“จิ๊บ ๆ?”
ลูกนกอ้วนสีแดงอ่อนตัวหนึ่งบินมาอยู่บนศีรษะของเซี่ยหลวน ใช้ดวงตาดำแป๋วแหววมองลูกมายาตัวนั้น ก่อนจะส่งเสียงจิ๊บใสกังวานสองครั้ง
เซี่ยหลวนรวบลูกนกอ้วนที่กรงเล็บเล็กๆสองข้างเหยียบผมเขาเบา ๆ ลงมา จากนั้นก้มหน้าประสานสายตากับลูกนกอ้วนสีแดงอ่อนที่เอียงหน้ามองอยู่ แล้วยกมือขึ้นลูบปีกเล็กของลูกเคิร์ดที่รวบไว้ด้านหลัง “ทอร์ตจะฝึกเดิน เหมือนก่อนหน้านี้ที่เปเป้หัดบินไงครับ”
“จิ๊บ!”
เมื่อตอบรับแล้ว ลูกนกอ้วนขนอุยหนาสีแดงอ่อนก็กระพือปีกไปทางลูกมายาที่อยู่ไม่ไกล แล้วไปยืนนิ่งอยู่ข้างลูกมายา
เพราะลูกเคิร์ดคิดถึงเวลาที่ตัวเองหัดบินจะมีคนคอยอยู่ข้าง ๆ ตอนนี้ลูกสัตว์เลยอยากอยู่เคียงข้างลูกมายาตัวนั้นบ้าง และผ่านไปไม่กี่วินาที ลูกนกอ้วนอีกสองตัวที่สนิทกับลูกเคิร์ดก็บินมาสมทบด้วย
เมื่อถูกดวงตาหลายคู่จับจ้องด้วยความสนใจ ลูกมายาที่คล้ายลูกเต่าซึ่งหยุดนิ่งอยู่ไม่ไกลก็มองคนที่มันสนิทที่สุดในห้องโถง มันอยากเข้าไปหาเซี่ยหลวน
เซี่ยหลวนเริ่มต้นด้วยการให้ลูกมายาเดินในระยะทางที่ไม่ไกลนัก เขานั่งขัดสมาธิยื่นมือสองข้างไปทางลูกมายา “เด็กน้อย ค่อย ๆ เดินมานะครับ”
การเดินจำเป็นต้องฝึกฝน ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร ตอนนี้ลูกมายาเดินทรงตัวได้ไม่ดีสักเท่าไหร่เลยหงายท้องง่ายเท่านั้น
แม้เซี่ยหลวนจะบอกว่าให้ค่อย ๆ เดิน ทว่าความเร็วในการเดินของลูกมายาก็ไม่ได้ช้าลงเลย ลูกสัตว์กระดิกหางเล็กแหลมด้านหลังของตัวเองให้ชายหนุ่มที่พูดกับมันก่อน แล้วถึงย่ำเท้าไปข้างหน้า
เวลานี้ลูกนกอ้วนขนอุยหนาสามตัวที่อยู่ข้าง ๆ ไม่ได้กระพือปีก แต่ใช้กรงเล็บเล็กสองข้างเหยียบลงบนพรมนุ่มในห้องโถง แล้วยกกรงเล็บก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับลูกมายา
เพราะลูกมายาเดินเร็วมาก ก่อนจะหงายท้องลูกสัตว์ก็จวนจะถึงตัวเซี่ยหลวนแล้ว ตอนนี้ขาสั้นเล็กสี่ข้างกำลังถีบชี้ขึ้นฟ้า
“จิ๊บ ๆ จิ๊บ…”
เห็นลูกมายาหงายท้อง ลูกนกอ้วนสามตัวที่เดินมาด้วยก็ร้องจิ๊บ ๆ ให้เซี่ยหลวนทันที
แต่เซี่ยหลวนไม่ได้เข้าไปช่วย เขาลูบผมสีทองอ่อนนุ่มของลูกเงือกข้าง ๆ แทน เงือกน้อยจึงรู้แล้วว่าตัวเองควรทำอะไร
“ทอร์ต” เงือกน้อยใช้เสียงอันไพเราะเรียกชื่อของลูกมายา จากนั้นยื่นมือไปช่วยคว่ำกระดองของลูกมายา
ขณะที่ลูกมายาหงายท้องเพราะเสียการทรงตัว รอบด้านไม่มีแม้กระทั่งเสียงหัวเราะเยาะหรือสายตาเย้ยหยันใด ๆ หลังจากคว่ำกระดองได้แล้ว ลูกมายาก็เดินเข้าไปใกล้เซี่ยหลวนตามเส้นทางเดิมอีกครั้ง
อีกไม่กี่ก้าวที่เหลือนั้นลูกมายาไม่หงายท้องอีกแล้ว มันเดินมาตรงหน้าเซี่ยหลวนสำเร็จ หางเล็กแหลมทางด้านหลังส่ายไปมาคล้ายกับต้องการคำชมจากชายหนุ่ม
เซี่ยหลวนอุ้มลูกมายาขึ้นมาวางบนตักแล้วแตะฝ่ามือขวาลงบนกระดองแข็งแรง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเนิบช้าใจเย็นว่า “ทอร์ตต้องเดินช้ากว่านี้อีกนิด ถ้าเดินช้า ๆ เธอจะรู้สึกได้ชัดเลยว่าเดินยังไงถึงจะไม่หงายท้อง”
การรักษาสมดุลไม่ใช่ปัญหาด้านร่างกาย หากลูกสัตว์ฝึกจนชำนาญแล้วก็จะทำได้สำเร็จ เซี่ยหลวนจึงไม่กังวลกับผลลัพธ์เท่าใดนัก
แต่พอเห็นลูกสัตว์ตัวอื่น ๆ โดยรอบมีท่าทางอยากช่วยเหลือทอร์ตขนาดนี้ โดยเฉพาะลูกนกอ้วนสามตัวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ สีหน้าของเซี่ยหลวนก็อ่อนโยนลงกว่าเดิม
“ช่วงนี้พวกเธออยู่เป็นเพื่อนทอร์ตได้นะ เขาต้องการความช่วยเหลือจากพวกเธอ” เซี่ยหลวนพูดกับลูกสัตว์ตัวอื่น ๆ
“จิ๊บ ๆ!”
เหล่าลูกสัตว์ต่างมีปฏิกิริยาตอบรับ ส่วนลูกนกอ้วนสามตัวที่ยืนอยู่ด้วยกันก็ทำท่ายืดอกแบบเดียวกันให้เซี่ยหลวน แล้วร้องจิ๊บเสียงใสกังวานสองครั้ง
ดังนั้นเวลาต่อมาจึงไม่ได้มีเพียงแค่พี่เลี้ยงในสาขาที่เวียนกันมาอยู่เป็นเพื่อนดูแลการฝึกซ้อมของลูกมายา ลูกสัตว์ตัวอื่นก็ช่วยด้วยเช่นกัน ทุกครั้งเวลาลูกมายาหงายท้องโดยไม่ทันระวัง ลูกสัตว์ที่อยู่ใกล้ ๆ จะคอยช่วยพลิกกระดองให้เสมอ
กระทั่งวันเข้าร่วมการประเมินคุณสมบัติมาถึงจริง ๆ เซี่ยหลวนก็พาลูกมายาออกไปเพียงคนเดียว เพราะการเดินทางครั้งนี้ไปกลับได้ภายในหนึ่งวัน รอบนี้น็อกซ์ที่มักทำตัวติดเขาและต้องออกไปข้างนอกด้วยกันทุกครั้งจึงต้องจำใจรอเขากลับมาอยู่ที่สาขาอวิ๋นเป่า
ดาวเคราะห์ที่เผ่ามายาอาศัยอยู่ไม่ไกลจากดาวไกอานัก ครั้นเซี่ยหลวนอุ้มลูกสัตว์มาถึงพื้นที่นั่งรอของสถานที่ทดสอบ คนมากมายในนั้นก็ทำเอาเซี่ยหลวนตกใจจนพูดอะไรไม่ค่อยออก
การทดสอบแบ่งเป็นชุด ในหนึ่งชุดมีคนเข้ารับการทดสอบจำนวนมาก
เซี่ยหลวนรู้เรื่องนี้จากทางสตาร์เน็ต เนื่องจากเผ่าพันธุ์มายากระตือรือร้นกับการพัฒนาด้านการทหาร ฉะนั้นหลังจากที่ลูกสัตว์เผ่ามายาโตขึ้นแล้วสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารได้ก็ราวกับเป็นเรื่องปกติธรรมดา นี่คืออิทธิพลจากสภาพแวดล้อมโดยรวมของเผ่า
อย่าว่าแต่หลังจากลูกสัตว์หลายตัวเติบโตขึ้นเลย แม้กระทั่งช่วงวัยเด็กก็มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นทหารที่โดดเด่นในอนาคตกันแล้ว เซี่ยหลวนเห็นลูกสัตว์ที่ผู้ปกครองอุ้มอยู่ในอกหลายตัวส่ายหางเล็กดุกดิกอยู่บริเวณพื้นที่นั่งรอ คล้ายตั้งตาคอยการประเมินคุณสมบัตินี้ด้วยความตื่นเต้นดีใจ
เซี่ยหลวนก้มลงมองหางเล็กที่ไม่ได้ส่ายไปมาของลูกมายาในอก เขายกมือลูบกระดองแข็งของลูกสัตว์ “ในอนาคตทอร์ตไม่อยากเป็นทหารที่เก่งกาจเหรอ”
ยุคแห่งความสงบสุขในปัจจุบัน การเป็นทหารที่โดดเด่นไม่ได้แปลว่าจะต้องอยู่ในสนามรบ ทว่าลูกสัตว์ของเผ่ามายาหลายตัวเมื่อเติบโตขึ้นก็ยังรู้สึกว่าเท่านั้นก็นับเป็นเกียรติอยู่ดี
พอเซี่ยหลวนถามออกไป ลูกมายาจึงเงยหน้าขึ้นร้องอึง ๆ ออกมาเบา ๆ ระหว่างที่ร้องนั้นหางเล็กแหลมด้านหลังก็กระดิกเล็กน้อยก่อนจะหยุดนิ่งลงอย่างรวดเร็ว
ความจริงลูกมายาตัวนี้ยังอยากเป็นทหาร แต่มันจำได้ว่าตัวเองไม่ผ่านการประเมินคุณสมบัติทั้งสองครั้ง เลยไม่อยากคิดแล้ว
การประเมินคุณสมบัติเป็นการประเมินพรสวรรค์ เซี่ยหลวนไม่มีสูตรสำเร็จที่จะทำให้ลูกมายาผ่านการประเมินได้ ในเวลานี้เองเขาจึงได้แต่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ถ้าอยากเป็น ครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่พวกเรามาที่นี่ ทอร์ตยังมีโอกาสอีกสองครั้ง รออีกสองสามปีค่อยมาใหม่ก็ได้นะ”
โดยทั่วไปลูกสัตว์เผ่ามายาจะผ่านการประเมินคุณสมบัติได้สำเร็จภายในอายุสามขวบ แต่ก็ไม่มีกฎตายตัวในเรื่องนี้
ตอนนี้ลูกสัตว์ในอกของเซี่ยหลวนอายุประมาณสองขวบ หากครั้งนี้ล้มเหลว รอให้โตอีกสักหน่อยพรสวรรค์อาจจะถูกกระตุ้นขึ้นมา แล้วค่อยมาใหม่ภายหลังก็ไม่ถือว่าเป็นการผิดกฎอะไร
“อีกอย่าง…” เมื่อเห็นว่าลูกสัตว์ในอกกระดิกหางเล็กอีกครั้ง ดวงตาของเซี่ยหลวนก็ประดับรอยยิ้ม “ถ้าอยากจะเป็นทหารเก่ง ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นทหารกองหน้าเสมอไปหรอกนะ มันยังมีอีกหลายวิธี”
เสียงร้องอึง ๆ ของลูกมายาแจ่มชัดขึ้น มันฝังหัวลงในอกของเซี่ยหลวน ส่วนหางเล็กแหลมด้านหลังก็สั่นดุกดิกเหมือนลูกสัตว์เผ่าเดียวกันตัวอื่นๆตรงนี้แล้ว
พวกเขากำลังรอตามหมายเลข ป้ายลำดับที่เซี่ยหลวนหยิบได้อยู่ลำดับกลาง ๆ
การประเมินคุณสมบัติใช้เวลาสั้น ๆ ฉะนั้นผ่านไปไม่นานก็ถึงหมายเลขของเซี่ยหลวนแล้ว
“ไปเถอะ” ผู้ใหญ่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้วย เซี่ยหลวนจึงวางลูกมายาที่อุ้มไว้ลงตรงทางเข้าประตูห้องเบา ๆ
ลูกมายาส่ายหางเล็กเร็วขึ้นนิดหน่อย มันรอเซี่ยหลวนลูบกระดองของมันก่อนถึงเดินเข้าไปด้านในอย่างเชื่อฟัง
ส่วนเซี่ยหลวนก็เดินอ้อมมารออยู่ตรงทางออก ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร อีกเดี๋ยวเขาจะเป็นคนชื่นชมลูกสัตว์ตัวนี้เอง