[ทดลองอ่าน] โอตาคุวันสิ้นโลก เล่ม 6 บทที่ 218 : ประจันหน้า

โอตาคุวันสิ้นโลก
重生宅男的末世守则

 

暖荷 หน่วนเหอ เขียน
เมิ่งเหวิน เเปล

 

— โปรย —

การย้ายบ้านออกมานอกเขตกำแพงแกร่งกร้าวของฐานที่มั่น
ตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้ทีมโอตาคุต้องผจญกับโลกกว้างใหญ่
ที่ถึงจะมีอิสรภาพ แต่ก็มีอุปสรรค และบททดสอบมากมายรออยู่
ไหนจะสัตว์กลายพันธุ์แปลกๆ ที่สื่อสารกันไม่เข้าใจ
ไหนจะกลุ่มคนที่จ้องจะหาประโยชน์เอารัดเอาเปรียบ
ไหนจะความหลงระเริงส่วนตัว พากันเล่นสนุกกันอย่างเมามัน…
เอ๋ มันเกิดอะไรกันขึ้นกับทีมโอตาคุกันล่ะเนี่ย!

ชาติที่แล้วหลัวซวินใช้เวลาร่วมสิบปี เก็บเกี่ยวประสบการณ์
ในยุควันสิ้นโลกมาพลิกชะตาชีวิตของชาตินี้ได้ใหม่
แต่ความเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อๆไป ทำให้หลายเหตุการณ์
ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง แต่การฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกับทีมโอตาคุ
หลายต่อหลายครั้งได้พิสูจน์ให้เขามั่นใจแล้วว่า
อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร… ก็มาดิค้าบ~

 

ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์

 

บทที่ 218 ประจันหน้า

 

เจอการต่อสู้แบบซึ่งหน้ากลางทาง

 

“อะไรน่ะ เกิดอะไรขึ้น

คนทั้งกลุ่มกรูกลับไปเบียดกันอยู่ตรงประตู แล้วมองลอดช่องหน้าต่างเล็กๆ ออกไปข้างนอก ไม่ต้องให้พวกเขารอนานก็เห็นรถหลายคันวิ่งส่ายไปส่ายมาบนถนน เสียงเครื่องยนต์ดังสนั่น ตามด้วยเสียงล้อบดกับถนนจากการเบรกจนเกิดเสียงดังแสบแก้วหู เฉี่ยวผ่านรถที่จอดอยู่ริมถนนพุ่งมาทางที่พวกหลัวซวินอยู่

บนหลังคาของรถหลายคันในกลุ่มนั้นมีซอมบี้หลายตัวเกาะอยู่ รถสองคันที่มองเห็นทางไม่ชัดขับเฉียดรถของพวกหลัวซวินที่จอดอยู่ข้างทาง และมีคันหนึ่งพุ่งชน ‘รถคันหนึ่ง’ ของพวกเขาจังๆ

ทุกคนในร้านเหงื่อตก แต่แล้วก็กลับถอนหายใจโล่งอก เพราะรถคันที่ถูกชนเป็นรถปลอมที่เหยียนเฟยสร้างขึ้นจากโลหะตันๆ ทั้งคัน และจงใจจอดไว้ริมสุดเพื่อป้องกันความปลอดภัยโดยเฉพาะ จึงมีแค่รอยขีดข่วนเพียงเล็กน้อย ไม่มีส่วนใดบุบสลายเลยสักนิด กลับเป็นรถของฝ่ายตรงข้ามต่างหากที่หน้ารถพังยุบบู้บี้

ด้านหลังนั้นมีซอมบี้ยักษ์วิ่งไล่ตามมา แค่สองสามก้าวก็กระชากจนตัวรถฉีกแยกจากกัน แล้วจับคนที่อยู่ในรถนั้นขึ้นไปกัดคำหนึ่ง

พวกหลัวซวินที่อยู่ในร้านไม่ได้เห็นฉากเลือดสาดแบบจะจะคาตาแบบนี้มานาน หลายคนพอเห็นแล้วก็ถึงกับสะท้านเฮือก หลังจากซอมบี้ยักษ์ขย้ำไหล่ผู้โชคร้ายแหว่งหายไปครึ่งหนึ่งแล้ว ซอมบี้อีกหลายตัวก็ไล่หลังตามมาถึง พวกมันกระโจนไปที่รถ เสียงกรีดร้องของคนที่เหลืออยู่ด้านในดังลั่น ก่อนจะเงียบหายไปในเวลาอันรวดเร็ว

ราวกับว่าซอมบี้ยักษ์จะได้ยินเสียงหรือได้กลิ่นลมหายใจของมนุษย์ มันยืดตัวตรง ไม่สนใจว่าเหยื่อที่ตนเพิ่งล่าได้จะถูกซอมบี้ตัวอื่นพุ่งเข้ามาแย่งไป แต่กลับเบนสายตามองมายังร้านที่พวกหลัวซวินอยู่แทน

“มันจะโจมตีเรา ทุกคนเตรียมตัวตั้งรับศึก” หลัวซวินกวาดตาประเมินสถานการณ์บนถนนแวบหนึ่ง ซอมบี้ที่ตามหลังรถพวกนั้นมีไม่มากเท่าไร แต่ดูเหมือนจะเป็นพวกกลายพันธุ์ซ้ำสองกันแทบทุกตัว พลังทำลายล้างและพลังการสู้รบของพวกมันวิวัฒนาการมาไกลจนเอาไปเทียบกับซอมบี้สมัยก่อนไม่ได้เลย

ดังนั้นถึงแม้จะมีซอมบี้ตามหลังขบวนรถเมื่อครู่มาประมาณห้าสิบหกสิบตัว และตอนนี้เหลือค้างอยู่บริเวณนี้แค่ยี่สิบกว่าตัว ทว่าแต่ละตัวไม่ใช่จะฆ่าได้ง่ายๆ

เมื่อทุกคนได้ยินประโยคนี้ต่างก็ยกอาวุธโจมตีระยะไกลของตนเองขึ้นมาถือไว้ ตั้งท่าเตรียมพร้อมตอบโต้ได้ทุกเมื่อ ส่วนเรื่องที่จะให้พวกเขาออกไปช่วยผู้คน… ในยุควันสิ้นโลก เมื่อเจอสถานการณ์อย่างเช่นมีคนอยู่บนรถที่ตกอยู่ในวงล้อมของพวกซอมบี้ ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่คนพวกนั้นจะมีชีวิตรอดออกมาได้ ดังนั้นเมื่อพวกหลัวซวินได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวจากในรถคันนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าไม่มีใครรอดแน่นอน

ชีวิตจริงก็เป็นแบบนี้แหละ เมื่อก่อนอาจพูดได้ว่าคนที่ถูกซอมบี้กัดก็จะกลายเป็นซอมบี้ แต่ปัจจุบันถ้าซอมบี้เหล่านี้ล่าเหยื่อได้ก็จะฉีกร่างและแบ่งกันกินทันที ไหนเลยจะมีเวลาให้เหยื่อได้กลายร่างเป็นซอมบี้

ไม่ต้องรอให้พวกหลัวซวินได้เริ่มต้นโจมตี ซอมบี้ยักษ์ตัวนั้นก็คว้ารถปลอมคันที่ถูกชนขึ้นมาขยี้ขยำแล้วปามาทางพวกหลัวซวิน

“เชี่ย! แรงเยอะชะมัด!” หลี่เถี่ยสบถออกมา รถถูกขยำปั้นเป็นก้อนโลหะขนาดใหญ่ เมื่อถูกขว้างมาทางนี้จึงบดบังทัศนวิสัยของพวกเขา

“ไม่ได้การแล้ว นั่นไม่ใช่ซอมบี้พลังแข็งแกร่ง แต่เป็นซอมบี้ธาตุโลหะ!” เพิ่งสิ้นเสียงเหยียนเฟย ทุกคนก็เห็นก้อนโลหะที่ลอยมาเริ่มเปลี่ยนรูปร่างกลางอากาศ หนามโลหะจำนวนนับไม่ถ้วนโผล่ยื่นออกมา กำลังพุ่งใส่ทุกคน

ถ้าหนามแหลมพวกนั้นทิ่มแทงเข้ามาละก็ ต่อให้พวกเขายังมีผนังโลหะกั้นขวางอยู่ข้างหน้า แต่ก็คงมีหนามจำนวนไม่น้อยพุ่งผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาได้ ถ้าตอบสนองช้าแม้เพียงก้าวเดียวคงไม่รอดแน่

เหยียนเฟยมีปฏิกิริยาตอบสนองว่องไวมาก ทุกคนเห็นหนามแหลมเหล่านั้นบิดเป็น ‘ขนมเกลียว’ ในชั่วพริบตา จังหวะที่รถปลอมปะทะกับผนังโลหะ ก็ราวกับมีผ้ามาคลุมปิดไว้อีกชั้นหนึ่ง ทำให้ผนังโลหะหนาขึ้นมากในเวลาเดียวกัน

เวลานี้พวกซอมบี้ฝูงนั้นสังหารผู้คนที่อยู่บนรถจนตายเรียบแล้ว เนื่องจากร่วมมือกันมานาน ถึงแม้สติปัญญาของพวกมันจะไม่สูงนัก แต่กลับเข้าขากันอย่างดี

ดูเหมือนว่าพวกมันจะใช้วิธีนี้บ่อย เพราะเมื่อก้อนโลหะที่มีหนามแหลมถูกขว้างออกไป ซอมบี้ทั้งหมดก็วิ่งตามหลังก้อนโลหะมา แก่งแย่งกันเพื่อจะได้กินเนื้อมนุษย์สดๆ เป็นตัวแรก

ทว่าสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้แก่ซอมบี้พวกนั้นก็คือ หนามโลหะไม่เพียงทิ่มแทงเลือดเนื้อเหยื่อไม่ได้ ยังมีปราการขวางกั้นพวกมันอีกด้วย

ก่อนที่ซอมบี้พวกนี้จะตั้งตัวทัน และซอมบี้ยักษ์ธาตุโลหะตัวนั้นยังไม่ทันงัดกำแพงออก ของเหลวสีแดงสดก็พุ่งกระจายออกมา สาดใส่พวกมันตั้งแต่หัวจรดเท้าจนชุ่มโชกไปหมด!

กระสุนสอดไส้ระดมยิงใส่ร่างซอมบี้ตัวเล็กตัวน้อยพวกนั้นไม่ยั้ง ขณะที่สายลมประหลาดก็หอบพัดของเหลวสีแดงสดจำนวนมากออกมาอีกสองสายล้อมซอมบี้ยักษ์ธาตุโลหะตัวนั้นไว้ ห่อหุ้มจนแทบมิดไปทั้งตัว ไม่มีทางหนีรอดไปไหนได้

กระทั่งผ่านไปประมาณสิบนาที การเคลื่อนไหวด้านนอกก็เงียบสงบลง เหลือเพียงควันสีขาวลอยอยู่ในอากาศ แล้วค่อยๆ สลายหายไปอย่างช้าๆ

หลัวซวินเข้าไปตรวจดูใกล้ๆ อย่างละเอียดจึงค่อยวางใจ “เรียบร้อย ซินหรัน เก็บคริสตัลพวกนั้นมาให้หน่อยนะ แล้วก็ขุดหลุมฝังซากศพที่เหลือกับกลบพิษเห็ดให้หมดด้วยล่ะ”

การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้ให้หนูน้อยออกโรงเลยสักนิด แม้แต่สวีเหมยยังใช้แค่ปืนฉีดน้ำกับหน้าไม้เท่านั้น ผิดกับซ่งหลิงหลิงและจางซู่ที่ร่วมกันใช้พิษเห็ดโจมตีศัตรูจนสร้างผลงานชิ้นใหญ่

พลังพิเศษธาตุน้ำของซ่งหลิงหลิงในตอนนี้สามารถใช้ได้ตามใจคิด ส่วนพลังพิเศษธาตุลมของจางซู่ก็รวดเร็วทรงพลังจนโอบอุ้มของเหลวเคลื่อนย้ายได้อย่างว่องไว สามารถโยกเปลี่ยนมุมในการโจมตีได้ด้วย และสิ่งที่ทำให้ทุกคนต่อสู้ได้อย่างสบายใจเป็นพิเศษก็คือ… ออกมาข้างนอกคราวนี้พวกเขานำพิษเห็ดมาด้วยเยอะมาก

เห็ดที่ปลูกไว้ในบ้านนับวันก็มีแต่จะเติบโตเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ ครั้นจะเอาไปรดเถาปีศาจทั้งหมดก็กลัวว่าเถาปีศาจพวกนั้นจะเกิดการกลายพันธุ์ซ้ำสอง ดังนั้นอุตส่าห์ได้ออกมาข้างนอกทั้งที และนานๆ จะได้เข้ามาในเขตตัวเมืองอย่างนี้ พวกเขาจึงไม่ยอมปล่อยโอกาสดีๆ ให้หลุดมือไปแน่ เลยขนพิษเห็ดใส่ตู้คอนเทนเนอร์รถบรรทุกมาเกือบครึ่งตู้ ต่อให้ต้องเจอซอมบี้แบบนี้ทุกวันก็ไม่ต้องกังวล

สิ่งที่ทำให้พวกหลัวซวินเบิกบานใจยิ่งกว่าก็คือ…เนื่องจากมีซ่งหลิงหลิงอยู่ เธอควบคุมพิษเห็ดเกือบทั้งหมดสาดใส่ซอมบี้ได้ ถ้ามีซอมบี้ตัวไหนยังไม่โดนพิษเห็ด เธอก็สามารถดึงเอาพิษเห็ดที่เหลือค้างอยู่ก้นถังก้นกระบอกปืนออกมาใช้ได้ทั้งหมด ไม่ปล่อยให้สูญเปล่าเลยสักหยด

อวี๋ซินหรันใช้ทรายเก็บคริสตัลกลับมาทางหน้าต่าง หลังจากเหยียนเฟยรับคริสตัลพลังโลหะไปแล้วก็อึ้งไปสักพัก ก่อนบอกกับทุกคนว่า “นี่มันคริสตัลขั้นห้าเลยนะ”

หลังจากคลื่นซอมบี้เคลื่อนผ่านไปไม่นาน พวกเขาได้เข้าไปบริเวณใกล้กับดงเถาปีศาจที่จับซอมบี้บางส่วนกินไปเพื่อเก็บคริสตัลกลับมา แต่ถึงแม้จะเจอคริสตัลพลังน้ำขั้นห้าหนึ่งก้อน ทำให้ซ่งหลิงหลิงมีพลังแข็งแกร่งขึ้นอีกระดับก็จริง แต่กลับไม่เจอคริสตัลขั้นห้าพลังธาตุอื่นๆอีกเลย ทว่าออกมาข้างนอกครั้งนี้กลับได้เจอซอมบี้ขั้นห้า แถมยังเป็นซอมบี้ธาตุโลหะเสียด้วย ช่างโชคดีอะไรขนาดนี้

ทุกคนในร้านต่างอึ้งไปตามๆ กัน จากนั้นก็หลุดขำและถอนหายใจออกมา “ดวงดีชะมัด…”

“จะว่าไป เจ้าซอมบี้ตัวนี้ดวงซวยสุดๆ เลย ยังไม่ทันได้ใช้พลังพิเศษขั้นห้าเลยด้วยซ้ำก็ถูกพิษเห็ดของเราฆ่าตายซะแล้ว”

ถูกต้อง ถ้าปล่อยให้ซอมบี้ตัวนี้มีเวลาตั้งตัวจนตอบโต้กลับมาละก็ การต่อสู้คราวนี้คงไม่จบลงง่ายๆ แบบนี้แน่ แต่ถ้าพูดอีกแง่หนึ่งก็คือ พลังพิเศษต่างๆ ล้วนมีสิ่งที่ส่งเสริมและสิ่งที่หักล้างพลังกันได้ เพียงแค่รู้จักพลิกแพลงวิธีก็สามารถโค่นศัตรูที่แข็งแกร่งทรงพลังได้อย่างง่ายดายแล้ว

 

หลังจากตรวจดูจนแน่ใจว่าข้างนอกไม่มีซอมบี้ตัวอื่นอยู่แล้ว พวกหลัวซวินจึงค่อยเปิดประตูโลหะอย่างระมัดระวัง และเดินมายังข้างรถของทีมอื่นที่ถูกฉีกจนไม่เหลือเค้าเดิม

ในรถไม่มีใครรอดชีวิตเลยสักคน แม้แต่ศพที่จะกลายร่างเป็นซอมบี้ก็ไม่เหลือให้เห็น ทุกคนถูกพวกซอมบี้สังหารเกลี้ยง… หรือพูดอีกอย่างก็คือ ถูกแยกร่างกัดกินไปหมดแล้ว

สภาพภายในรถเละเทะ พวกหลัวซวินตรวจดูเพียงเล็กน้อยก็ย้ายรถไปไว้ตรงที่ว่างข้างถนน เห็นได้ชัดว่าคนที่อยู่บนรถคันนี้เป็นพวกเดียวกับคนที่เผ่นหนีไปก่อนหน้า แม้จะมีซอมบี้ไล่ตามคนพวกนั้น แต่ก็อาจมีหลายคันที่หลบหนีรอดไปได้ ถ้าพวกเขากลับมาหาศพและข้าวของของคนตาย ก็คงย้อนกลับมาที่นี่แน่ พวกหลัวซวินจึงเพียงย้ายหลบให้พ้นทางสัญจรเท่านั้น

เมื่อกลับเข้ามาในร้านที่ใช้พักแรมชั่วคราว หลัวซวินมองไปทางฐานที่มั่นด้วยความเสียดายเล็กน้อย “ต้องมีซอมบี้ขั้นห้าอยู่ในคลื่นซอมบี้ระลอกนั้นอีกแน่ๆ ถ้าทางฐานที่มั่นไม่มีเรื่องพวกนั้น บางทีพวกเราอาจยังกลับไปหาคนแลกคริสตัลขั้นห้าได้อยู่” แม้ตอนนี้พวกเขาจะสร้างชีวิตที่ปลอดภัยขึ้นเองได้ แต่ในทางกลับกันพวกเขาก็ขาดช่องทางที่จะแลกเปลี่ยนสิ่งของกับผู้คนในฐานที่มั่นไป

“ต่อให้เรายังอยู่ในฐาน แต่ของพวกนั้นต้องอยู่ในกำมือของกองทัพแน่ ถึงเราอยากแลกก็ใช่ว่าจะขอแลกได้” เหยียนเฟยพูดปลอบใจคนรัก

นั่นสินะ ตั้งแต่ปีใหม่มา เวลาพวกเขาอยากแลกเปลี่ยนสิ่งของอะไรก็หาช่องทางแลกยากขึ้นมาก ช่องทางที่เคยแลกได้ก็กลับกลายเป็นแลกไม่ได้ แถมจุดแลกของในฐานที่มั่นก็ไม่มีคริสตัลขั้นสูงให้พวกเขาแลกอยู่แล้ว ถ้าต้องการแลกจริงๆ คงต้องไปหาคนที่อยากแลกคริสตัลขั้นสูงๆ เหมือนกันในตลาด

ประกอบกับตอนนี้ฐานที่มั่นโกลาหลวุ่นวาย ต่อให้พวกเขากลับไปก็คงไม่มีที่ไหนให้แลกของพวกนี้หรอก และถ้าโชคร้ายเกิดบังเอิญไปเจอช่วงที่บังคับให้ทุกคนออกไปทำงานและยึดทรัพย์สินส่วนตัวตามกฎใหม่ แบบนั้นก็คงรับประกันไม่ได้ว่าพวกเขาจะรักษาของที่เตรียมนำไปแลกไว้ได้ด้วยหรือเปล่า

คนที่หูไวรีบพูดขึ้นทันที “ตอนที่เรากำลังสู้กับพวกซอมบี้ เหมือนผมจะได้ยินเสียงระเบิดดังจากไกลๆ ด้วย บางทีอาจเกิดเรื่องขึ้นกับรถที่ถูกซอมบี้ปีนขึ้นไปบนหลังคาพวกนั้นก็ได้”

“หัวหน้าคิดว่าพวกเขาไปหาเรื่องซอมบี้พวกนั้นมาจากไหนกันครับ”

เมื่อมีคนถามเรื่องนี้ขึ้นมา หลัวซวินก็ทำหน้าจนปัญญา เขาไม่ได้มีตาทิพย์มองเห็นสิ่งที่อยู่ไกลหรือพลังล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าสักหน่อย “ก็อาจจะบังเอิญไปเจอละมั้ง บางทีสถานที่ที่พวกเขาไปอาจมีฝูงซอมบี้อยู่แถวนั้น เลยถูกพวกมันเจอเข้า”

แม้ว่าเส้นทางที่ตนเลือกใช้สายนี้ดูแล้วค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็แค่ ‘ค่อนข้าง’ เท่านั้น เมื่อดูจากภาพถ่ายดาวเทียม จะเห็นเพียงแค่สถานการณ์บนท้องถนนของเขตตัวเมือง คงมีแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่ามีซอมบี้หรือตัวอะไรหลบซ่อนอยู่ในอาคารบ้างหรือเปล่า พวกหลัวซวินจึงไม่กล้ารับประกันเหมือนกันว่าถนนสายนี้ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะเมื่อเพิ่งเจอเหตุการณ์เมื่อครู่ไป ก็ยิ่งไม่อาจรับประกันอะไรได้เลย

Leave a Reply

แจ้งเตือนการใช้งานคุกกี้ เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีที่สุด ได้แก่ คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ และคุกกี้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ศึกษารายละเอียดและการตั้งค่าคุกกี้เพิ่มเติมเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่านได้ใน นโยบายคุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า