Author Archives: AMARINBOOKS TEAM

[ทดลองอ่าน] พายุจารชนแห่งหล่งซี บทที่ 1 แฝงตัวกับจงรักภักดี

พายุจารชนแห่งหล่งซี 风起陇西   หม่าป๋อยง 马伯庸 เขียน เรืองชัย รักศรีอักษร แปล    ท่ามกลางไฟสงครามแห่งยุคสมัยสามก๊ก ยังมีสมรภูมิที่พงศาวดารไม่ได้บันทึกไว้ นั่นคือสงครามแห่งจารชนของเหล่าสายลับผู้เปี่ยมปฏิภาณ เมื่อการข่าวรายงานว่ามีจารชนของแคว้นเว่ยแทรกซึมเข้าสู่ฮั่นจง เพื่อขโมยอาวุธสงครามของแคว้นสู่ นั่นคือเครื่องยิงหน้าไม้ ‘สวินสวี่’ หัวหน้ากองสันติบาลจึงออกคำสั่งให้คุ้มกันแบบร่าง เครื่องยิงหน้าไม้ และช่างฝีมือ จากการบุกรุกของศัตรูอย่างเข้มงวด ทว่ากองทัพกับกองสันติบาลกลับเอาแต่ระแวงซึ่งกันและกัน ไหนจะศิษย์พรรคใต้ดินของลัทธิข้าวสารห้าโต่วคอยป่วนปั่น ยังมี ‘หนู’ ตัวหนึ่งที่แฝงเร้นอยู่ในหมู่ขุนนางชั้นสูงของฮั่นจง …สายลับแคว้นเว่ยที่ใช้รหัสนามว่า ‘จู๋หลง’ สงครามใต้ดินนอกสมรภูมิรบระหว่างการข่าวกรองของสองแคว้น ภารกิจช่วงชิงและภารกิจพิทักษ์อาวุธล้ำค่าของแคว้นสู่นี้ มีเวลาเพียงสิบเอ็ดวันเท่านั้น! ต้นฉบับนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์   ภาคหนึ่ง ฮั่นจงสิบสองวัน   แพ้แล้ว ถึงเขาจะยับยั้งแผนร้ายของข้าศึกต่อสำนักใหญ่สำเร็จ ถึงเขาจะสลายเครือข่ายของนิกายข้าวสารห้าโต่วในฮั่นจงสำเร็จ ถึงเขาจะจับช่างทำเครื่องยิงหน้าไม้ที่พยายามหนีสำเร็จ ถึงสุดท้ายเขาส่งผลทางอ้อมต่อความตายของหมีชง แต่ก็ยังพ่ายแพ้อย่างราบคาบ การที่แบบร่างถูกเผยออกไปนั้นทำให้ชัยชนะทั้งหมดไร้ความหมาย เขายังคงล้มลงในจุดที่ใกล้กับชัยชนะมากที่สุด     บทที่ 1 แฝงตัวกับจงรักภักดี   รัชศกไท่เหอปีที่สามแห่งเว่ย วันที่หกเดือนสอง เมืองซั่งกุยเขตเทียนสุ่ยในเว่ยก๊ก เฉินกงก้าวออกประตูบ้านพอดีกับที่เสียงเคาะบอกเวลายามเฉินสือ[1] ดังขึ้น […]

[ทดลองอ่าน] พายุจารชนแห่งหล่งซี บทที่ 2 จงรักภักดีกับเสียสละ

พายุจารชนแห่งหล่งซี 风起陇西   หม่าป๋อยง 马伯庸 เขียน เรืองชัย รักศรีอักษร แปล    ท่ามกลางไฟสงครามแห่งยุคสมัยสามก๊ก ยังมีสมรภูมิที่พงศาวดารไม่ได้บันทึกไว้ นั่นคือสงครามแห่งจารชนของเหล่าสายลับผู้เปี่ยมปฏิภาณ เมื่อการข่าวรายงานว่ามีจารชนของแคว้นเว่ยแทรกซึมเข้าสู่ฮั่นจง เพื่อขโมยอาวุธสงครามของแคว้นสู่ นั่นคือเครื่องยิงหน้าไม้ ‘สวินสวี่’ หัวหน้ากองสันติบาลจึงออกคำสั่งให้คุ้มกันแบบร่าง เครื่องยิงหน้าไม้ และช่างฝีมือ จากการบุกรุกของศัตรูอย่างเข้มงวด ทว่ากองทัพกับกองสันติบาลกลับเอาแต่ระแวงซึ่งกันและกัน ไหนจะศิษย์พรรคใต้ดินของลัทธิข้าวสารห้าโต่วคอยป่วนปั่น ยังมี ‘หนู’ ตัวหนึ่งที่แฝงเร้นอยู่ในหมู่ขุนนางชั้นสูงของฮั่นจง …สายลับแคว้นเว่ยที่ใช้รหัสนามว่า ‘จู๋หลง’ สงครามใต้ดินนอกสมรภูมิรบระหว่างการข่าวกรองของสองแคว้น ภารกิจช่วงชิงและภารกิจพิทักษ์อาวุธล้ำค่าของแคว้นสู่นี้ มีเวลาเพียงสิบเอ็ดวันเท่านั้น! ต้นฉบับนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์   บทที่ 2 จงรักภักดีกับเสียสละ   กัวหวายถูนิ้วไปมาช้า ๆ จ้องหน้าหม่าจุนเจ้าเมืองเทียนสุ่ยด้วยแววตาแข็งกร้าว ฝ่ายหลังใช้แขนเสื้อเช็ดเหงื่อบนหน้าผากตลอดเวลา ราวกับถูกถ่านไฟในเตาสัมฤทธิ์รูปตัวเซี่ย[1]ในห้องประชุมย่างจนละลาย ผ่านไปครู่ใหญ่ เขาจึงเงยหน้าขึ้น พูดตะกุกตะกัก “โป๋…โป๋จี้เข้าใจผิดหรือไม่ เมืองซั่งกุยจะมีสายสืบของกองทัพสู่ได้อย่างไร” “งั้นหรือ แต่คนของข้ามีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าในเมืองซั่งกุยอย่างน้อยมีหนึ่งคนที่ทำงานในเครือข่ายข่าวกรองของกองทัพสู่อย่างลับ ๆ” กัวหวายพูดไม่เร็วไม่ช้า เสียงหนักแน่นมีพลัง เขาเป็นคนปกครองเมืองซั่งกุยอย่างแท้จริง คนไร้ความสามารถอย่างหม่าจุนไม่เคยอยู่ในสายตาของเขา หม่าจุนเช็ดเหงื่อต่อ […]

[ทดลองอ่าน] บันทึกวิญญาณพู่กัน บทที่ 5 ทองได้มาและจากไปในเร็ววัน (2)

บันทึกวิญญาณพู่กัน 七侯筆錄之筆靈   หม่าป๋อยง 马伯庸 หงลวี่เติง แปล   ‘หลัวจงเซี่ย’ เพิ่งรู้ว่ายังมีความซวยที่เป็นขั้นกว่าของการที่อยู่ๆ ก็ถูกมีดแทงอก นั่นก็คือการถูกพู่กันแทงอก! แน่นอนว่าเขาไม่ตาย แต่เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเขาหลังจากนี้ ทำให้เขาสะบักสะบอมบอบช้ำทั้งกายใจจนแม้อยากตายก็ไม่ง่ายแล้ว . เด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยที่ขี้เกียจไปวันๆ อย่างเขา อยู่ๆ ก็ได้ครอบครอง ‘พู่กันบัวคราม’ มรดกตกทอดของหลี่ไป๋ เซียนกวีแห่งประวัติศาสตร์ท่านนั้น นี่ทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับเหล่าผู้คนแห่ง ‘สุสานพู่กัน’ และต้องเผชิญกับการต่อสู้เพื่อแย่งชิง พู่กันในตำนานมากมาย พร้อมผู้ครอบครองมาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาอย่างไม่ว่างเว้น สุนทรีย์แห่งถ้อยคำและตัวอักษรกลับกลายเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา . พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมหน้าที่ความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้นหรือ งั้นหลัวจงเซี่ยคนนี้ก็จะทำทุกวิธีเพื่อปลดพู่กันอัปมงคลนี่ออกไป พลังที่ยิ่งใหญ่อะไรนั่น เขาไม่ต้องการ!   ต้นฉบับนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์   บทที่ 5 ทองได้มาและจากไปในเร็ววัน (2)   คำพูดของหลัวจงเซี่ยยังไม่ทันสิ้นสุด ข้อมือก็ถูกเหวยซื่อหรันกดลงแน่น เวลาผ่านไปพักหนึ่งเขาจึงปลดมือออกจากข้อมือของหลัวจงเซี่ยและเอ่ยอย่างใจเย็น “ชีพจรของคุณอ่อนล้ามาก อาจเพราะสุขภาพร่างกายอ่อนแอจึงเป็นลมไป” “แต่ผมมั่นใจว่าเมื่อกี้นี้ผมเห็นเธอกับคนอีกคนทะเลาะกัน มีทั้งลมทั้งหิมะ…” หลัวจงเซี่ยชี้ไปที่เสี่ยวหรง ฉากเหตุการณ์เมื่อไม่นานนี้ยังคงติดตาตรึงใจ เหวยซื่อหรันยกหลังมือไปแตะที่หน้าผากของหลัวจงเซี่ย “ตอนที่คนเป็นลมไปอาจจะสร้างจินตนาการขึ้นมาได้ แต่ว่าทำไมในฝันนั่นมีหลานสาวผมอยู่ก็คงต้องถามตัวคุณเองแล้วล่ะ” หลังจากพูดจบเหวยซื่อหรันก็ชำเลืองมองเขา […]

[ทดลองอ่าน] บันทึกวิญญาณพู่กัน บทที่ 1 เฒ่าชราศึกษาดียังไม่วายถูกดูแคลน

บันทึกวิญญาณพู่กัน 七侯筆錄之筆靈   หม่าป๋อยง 马伯庸 หงลวี่เติง แปล   ‘หลัวจงเซี่ย’ เพิ่งรู้ว่ายังมีความซวยที่เป็นขั้นกว่าของการที่อยู่ๆ ก็ถูกมีดแทงอก นั่นก็คือการถูกพู่กันแทงอก! แน่นอนว่าเขาไม่ตาย แต่เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเขาหลังจากนี้ ทำให้เขาสะบักสะบอมบอบช้ำทั้งกายใจจนแม้อยากตายก็ไม่ง่ายแล้ว . เด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยที่ขี้เกียจไปวันๆ อย่างเขา อยู่ๆ ก็ได้ครอบครอง ‘พู่กันบัวคราม’ มรดกตกทอดของหลี่ไป๋ เซียนกวีแห่งประวัติศาสตร์ท่านนั้น นี่ทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับเหล่าผู้คนแห่ง ‘สุสานพู่กัน’ และต้องเผชิญกับการต่อสู้เพื่อแย่งชิง พู่กันในตำนานมากมาย พร้อมผู้ครอบครองมาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาอย่างไม่ว่างเว้น สุนทรีย์แห่งถ้อยคำและตัวอักษรกลับกลายเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา . พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมหน้าที่ความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้นหรือ งั้นหลัวจงเซี่ยคนนี้ก็จะทำทุกวิธีเพื่อปลดพู่กันอัปมงคลนี่ออกไป พลังที่ยิ่งใหญ่อะไรนั่น เขาไม่ต้องการ!   ต้นฉบับนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์   บทที่ 1 เฒ่าชราศึกษาดียังไม่วายถูกดูแคลน   เดือนเจ็ดอังคารจร เดือนเก้ามอบอาภรณ์ ประโยคนี้หมายถึงช่วงเดือนเจ็ดซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง อากาศเริ่มเปลี่ยนเป็นเย็นลง ยังไม่ทันเข้าเดือนเก้าก็ต้องสวมเสื้อผ้าเพิ่มขึ้น แม้มักจะมีผู้ถือดีอธิบายความหมายผิดอยู่บ่อยครั้ง แต่สภาพอากาศตามธรรมชาติไม่อาจเปลี่ยนแปลง ไม่นานก็ถึงเดือนเจ็ดตามปฏิทินจันทรคติ อากาศเย็นลงจริง ๆ และเป็นเวลาที่สถานศึกษาหลายแห่งในโลกเปิดเรียนพอดี มหาวิทยาลัยหวาเซี่ยแห่งนี้ก็เช่นกัน บรรดานักศึกษาที่หยุดพักผ่อนในหน้าร้อนอันแสนอบอ้าวมาหลายเดือนพากันกลับมายังมหาวิทยาลัย ในหอคอยงาช้างเต็มไปด้วยบรรยากาศอันสดใสเยือกเย็นของช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงและหนังสืออวลกลิ่นหมึกทั่วทุกแห่งหน […]

[ทดลองอ่าน] บทนำ บันทึกวิญญาณพู่กัน

บันทึกวิญญาณพู่กัน 七侯筆錄之筆靈   หม่าป๋อยง 马伯庸 หงลวี่เติง แปล   ‘หลัวจงเซี่ย’ เพิ่งรู้ว่ายังมีความซวยที่เป็นขั้นกว่าของการที่อยู่ๆ ก็ถูกมีดแทงอก นั่นก็คือการถูกพู่กันแทงอก! แน่นอนว่าเขาไม่ตาย แต่เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเขาหลังจากนี้ ทำให้เขาสะบักสะบอมบอบช้ำทั้งกายใจจนแม้อยากตายก็ไม่ง่ายแล้ว . เด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยที่ขี้เกียจไปวันๆ อย่างเขา อยู่ๆ ก็ได้ครอบครอง ‘พู่กันบัวคราม’ มรดกตกทอดของหลี่ไป๋ เซียนกวีแห่งประวัติศาสตร์ท่านนั้น นี่ทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับเหล่าผู้คนแห่ง ‘สุสานพู่กัน’ และต้องเผชิญกับการต่อสู้เพื่อแย่งชิง พู่กันในตำนานมากมาย พร้อมผู้ครอบครองมาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาอย่างไม่ว่างเว้น สุนทรีย์แห่งถ้อยคำและตัวอักษรกลับกลายเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา . พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมหน้าที่ความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้นหรือ งั้นหลัวจงเซี่ยคนนี้ก็จะทำทุกวิธีเพื่อปลดพู่กันอัปมงคลนี่ออกไป พลังที่ยิ่งใหญ่อะไรนั่น เขาไม่ต้องการ!   ต้นฉบับนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์   บทนำ ทิ้งกวางขาวไว้บนผาเขียวชอุ่ม   ราชวงศ์ถัง รัชศกเป่าอิ๋ง อำเภอตังถู ราตรีกาลมืดมิด ฝนในฤดูใบไม้ร่วงโปรยปราย ประตูหน้าต่างปิดสนิท ชายชราผู้หนึ่งนอนห่อเหี่ยวอยู่บนเตียงนอน หลับตาไม่เคลื่อนไหว บนสาบเสื้อคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นสุรา พลังกายที่เปี่ยมล้นในอดีตใกล้จะหมดลงในไม่ช้า ตอนนี้เขาคงเหลือเพียงร่างกายเหี่ยวเฉาไว้ในภพภูมินี้ ราวกับดาวฤกษ์ที่อับแสงลง “ผู้มีชีวิตคือผู้ผ่านทาง ผู้ล่วงลับคือผู้หวนกลับ โลกมนุษย์ดั่งที่พักพิง […]

[ทดลองอ่าน] บันทึกวิญญาณพู่กัน บทที่ 2 สายลมแห่งฤดูใบไม้ร่วงปลิดกล้วยไม้ม่วง (1)

บันทึกวิญญาณพู่กัน 七侯筆錄之筆靈   หม่าป๋อยง 马伯庸 หงลวี่เติง แปล   ‘หลัวจงเซี่ย’ เพิ่งรู้ว่ายังมีความซวยที่เป็นขั้นกว่าของการที่อยู่ๆ ก็ถูกมีดแทงอก นั่นก็คือการถูกพู่กันแทงอก! แน่นอนว่าเขาไม่ตาย แต่เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเขาหลังจากนี้ ทำให้เขาสะบักสะบอมบอบช้ำทั้งกายใจจนแม้อยากตายก็ไม่ง่ายแล้ว . เด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยที่ขี้เกียจไปวันๆ อย่างเขา อยู่ๆ ก็ได้ครอบครอง ‘พู่กันบัวคราม’ มรดกตกทอดของหลี่ไป๋ เซียนกวีแห่งประวัติศาสตร์ท่านนั้น นี่ทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับเหล่าผู้คนแห่ง ‘สุสานพู่กัน’ และต้องเผชิญกับการต่อสู้เพื่อแย่งชิง พู่กันในตำนานมากมาย พร้อมผู้ครอบครองมาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาอย่างไม่ว่างเว้น สุนทรีย์แห่งถ้อยคำและตัวอักษรกลับกลายเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา . พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมหน้าที่ความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้นหรือ งั้นหลัวจงเซี่ยคนนี้ก็จะทำทุกวิธีเพื่อปลดพู่กันอัปมงคลนี่ออกไป พลังที่ยิ่งใหญ่อะไรนั่น เขาไม่ต้องการ!   ต้นฉบับนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์   บทที่ 2 สายลมแห่งฤดูใบไม้ร่วงปลิดกล้วยไม้ม่วง (1)   ปกติแล้วคนที่มาค้นหาของที่ตลาดขายของเก่านั้น หนึ่งต้องกวาดสายตา สองต้องหยุดฝีเท้า และสามต้องมองพินิจ กวาดตามองดูตามแผงที่วางขายของถือเป็นสิ่งแรกที่ควรทำ พอหาเจอสิ่งที่ต้องการแล้วจึงจะหยุดเดินและมองอย่างละเอียด ถ้ารู้สึกถูกตาต้องใจแล้วค่อยคุกเข่าลงหยิบขึ้นมาพิจารณาบนมือ ความเร็วในการก้าวเดินของนักค้นหานั้นจะค่อนข้างช้า ต้องใช้ความพยายามอดทนอย่างสูง หากคลาดสายตาไปเพียงเสี้ยววินาทีก็อาจทำให้พลาดของดีไป แต่เจิ้งเหอกับผู้คนเหล่านั้นต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่ชำเลืองหันไปไหนราวกับไม่ได้มองสิ่งของทั้งสองฝั่งเลยด้วยซ้ำ แต่มุ่งเดินตรงไปข้างหน้า […]

[ทดลองอ่าน] บันทึกวิญญาณพู่กัน บทที่ 3 สายลมแห่งฤดูใบไม้ร่วงปลิดกล้วยไม้ม่วง (2)

บันทึกวิญญาณพู่กัน 七侯筆錄之筆靈   หม่าป๋อยง 马伯庸 หงลวี่เติง แปล   ‘หลัวจงเซี่ย’ เพิ่งรู้ว่ายังมีความซวยที่เป็นขั้นกว่าของการที่อยู่ๆ ก็ถูกมีดแทงอก นั่นก็คือการถูกพู่กันแทงอก! แน่นอนว่าเขาไม่ตาย แต่เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเขาหลังจากนี้ ทำให้เขาสะบักสะบอมบอบช้ำทั้งกายใจจนแม้อยากตายก็ไม่ง่ายแล้ว . เด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยที่ขี้เกียจไปวันๆ อย่างเขา อยู่ๆ ก็ได้ครอบครอง ‘พู่กันบัวคราม’ มรดกตกทอดของหลี่ไป๋ เซียนกวีแห่งประวัติศาสตร์ท่านนั้น นี่ทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับเหล่าผู้คนแห่ง ‘สุสานพู่กัน’ และต้องเผชิญกับการต่อสู้เพื่อแย่งชิง พู่กันในตำนานมากมาย พร้อมผู้ครอบครองมาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาอย่างไม่ว่างเว้น สุนทรีย์แห่งถ้อยคำและตัวอักษรกลับกลายเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา . พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมหน้าที่ความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้นหรือ งั้นหลัวจงเซี่ยคนนี้ก็จะทำทุกวิธีเพื่อปลดพู่กันอัปมงคลนี่ออกไป พลังที่ยิ่งใหญ่อะไรนั่น เขาไม่ต้องการ!   ต้นฉบับนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์   บทที่ 3 สายลมแห่งฤดูใบไม้ร่วงปลิดกล้วยไม้ม่วง (2)   สิ้นเสียงจูเก่อฉางชิงก็ยื่นมือออกไปโดยไม่มีการบอกล่วงหน้า หลัวจงเซี่ยและเหวยเสี่ยวหรงไม่ทันได้ตั้งตัวเขาก็หยิบกล่องผ้าไหมนั้นไปไว้ในมือเป็นที่เรียบร้อย เอาไปชมเชยหน้าตาเฉย “ที่แท้ก็แค่พู่กันขนสุนัขป่าต่ำต้อยเล่มนี้” จูเก่อฉางชิงเปิดกล่องผ้าไหมดู แล้วก็ทิ้งมันลงกับพื้นอย่างไม่แยแส “ฉันรู้ว่าพวกแกเอาไปซ่อนไว้ เอาออกมาซะ” แม้หลัวจงเซี่ยจะเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจอะไรเท่าไรนัก แต่ก็ไม่สามารถทนเห็นผู้อื่นถูกรังแกได้ จึงพูดแทรกออกมา “เฮ้ย นายจะรุนแรงไปหน่อยมั้ง” […]

[ทดลองอ่าน] บันทึกวิญญาณพู่กัน บทที่ 4 ทองได้มาและจากไปในเร็ววัน (1)

บันทึกวิญญาณพู่กัน 七侯筆錄之筆靈   หม่าป๋อยง 马伯庸 หงลวี่เติง แปล   ‘หลัวจงเซี่ย’ เพิ่งรู้ว่ายังมีความซวยที่เป็นขั้นกว่าของการที่อยู่ๆ ก็ถูกมีดแทงอก นั่นก็คือการถูกพู่กันแทงอก! แน่นอนว่าเขาไม่ตาย แต่เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเขาหลังจากนี้ ทำให้เขาสะบักสะบอมบอบช้ำทั้งกายใจจนแม้อยากตายก็ไม่ง่ายแล้ว . เด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยที่ขี้เกียจไปวันๆ อย่างเขา อยู่ๆ ก็ได้ครอบครอง ‘พู่กันบัวคราม’ มรดกตกทอดของหลี่ไป๋ เซียนกวีแห่งประวัติศาสตร์ท่านนั้น นี่ทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับเหล่าผู้คนแห่ง ‘สุสานพู่กัน’ และต้องเผชิญกับการต่อสู้เพื่อแย่งชิง พู่กันในตำนานมากมาย พร้อมผู้ครอบครองมาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาอย่างไม่ว่างเว้น สุนทรีย์แห่งถ้อยคำและตัวอักษรกลับกลายเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา . พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมหน้าที่ความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้นหรือ งั้นหลัวจงเซี่ยคนนี้ก็จะทำทุกวิธีเพื่อปลดพู่กันอัปมงคลนี่ออกไป พลังที่ยิ่งใหญ่อะไรนั่น เขาไม่ต้องการ!   ต้นฉบับนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์   บทที่ 4 ทองได้มาและจากไปในเร็ววัน (1)   สำหรับหลัวจงเซี่ยแล้ว นี่คงเป็นหายนะที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝันมาก่อน ตอนที่พู่กันกำลังแทงทะลุเข้ามาในอกของเขานั้น หัวเขาพลันว่างเปล่า คิดแค่ว่า ตายแล้วตายแล้วตายแล้วตายแล้ว ครั้งนี้เราตายแน่ ความรู้สึกแรกที่โถมเข้ามาคือความหวิวบางเบา ทั้งร่างคล้ายยางของจักรยานที่ถูกดึงจุกลมออก พลังรั่วไหลออกตามช่องโหว่ขนาดใหญ่บนหน้าอก ร่างพลันอ่อนเปลี้ยพับลงไปบนพื้นโดยไม่สามารถขยับได้อีก ที่เกินคาดกว่านั้นคือหน้าอกกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บ และนี่ก็คงเป็นสิ่งที่เรียกว่า […]

[ทดลองอ่าน] เชิญร่ำสุรา 將進酒 ตอนที่ 4

​ เชิญร่ำสุรา 將進酒   ถังจิ่วชิง 唐酒卿 กอหญ้า แปล   สุนัขชั่ว ปะทะ สุนัขบ้า จงปั๋วหกโจวถูกประเคนยกให้แก่ศัตรูต่างแคว้น เสิ่นเจ๋อชวนถูกคุมตัวมายังเมืองหลวง ถูกประนามหยามเหยียดจากทุกคน เมื่อเซียวฉือเหย่ได้ข่าว ก็มิร้องขอให้ผู้ใดลงมือแทน เขาหมายมั่นจะเตะเสิ่นเจ๋อชวนให้พิการด้วยตนเอง ทว่าใครจะรู้เล่าว่าเจ้าคนอ่อนแอขี้โรคนี่จะแว้งกัดเขาเสียจนเลือดสาด และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความบาดหมางระหว่างชายหนุ่มทั้งสอง ที่จำต้องฉีกทึ้งกันทุกครายามเผชิญหน้ากัน “โชคชะตาต้องการให้ข้าเฝ้าอยู่ที่นี่ชั่วชีวิต แต่นี่หาใช่เส้นทางที่ข้าเลือกไม่… ทรายเหลืองกลบฝังพี่น้องข้า ข้าไม่อยากยอมจำนนให้กับชีวิตอันว่างเปล่าอีกแล้ว ราชโองการมิอาจช่วยเหลือทหารของข้าได้ ราชสำนักมิอาจเลี้ยงดูม้าของข้าให้อิ่มได้… ข้าไม่อยากทุ่มเทรับใช้พวกเขาด้วยชีวิตอีกแล้ว… ข้าจะข้ามเขาลูกนั้นไป… ข้าจะต่อสู้เพื่อตัวเองสักครั้ง”   —.—.—.—.—.—.—.—.—.—   ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์   บทที่ 4 ทายาทคนโฉด   รองเท้าศึกย่ำเหยียบหิมะที่ทับถม เดินอ้อมข้างกายเสิ่นเจ๋อชวน ผู้มาใช้ปลายเท้าเขี่ยใบหน้าเสิ่นเจ๋อชวน ด้านหน้าของรองเท้าเปื้อนคราบเลือดเล็กน้อย เสียงที่ลอดออกมาจากหมวกเกราะทุ้มหนัก “เสิ่นเว่ยคือบิดาของเจ้ารึ” เสิ่นเจ๋อชวนมิอาจห้ามเลือดที่ไหลออกจากปากได้ ใช้มือปิดก็ปิดไม่อยู่ จึงมิได้ตอบ คนผู้นี้มองพินิจเขาจากมุมสูง “ข้าถามเจ้าอยู่” […]

[ทดลองอ่าน] เชิญร่ำสุรา 將進酒 ตอนที่ 5

​ เชิญร่ำสุรา 將進酒   ถังจิ่วชิง 唐酒卿 กอหญ้า แปล   สุนัขชั่ว ปะทะ สุนัขบ้า จงปั๋วหกโจวถูกประเคนยกให้แก่ศัตรูต่างแคว้น เสิ่นเจ๋อชวนถูกคุมตัวมายังเมืองหลวง ถูกประนามหยามเหยียดจากทุกคน เมื่อเซียวฉือเหย่ได้ข่าว ก็มิร้องขอให้ผู้ใดลงมือแทน เขาหมายมั่นจะเตะเสิ่นเจ๋อชวนให้พิการด้วยตนเอง ทว่าใครจะรู้เล่าว่าเจ้าคนอ่อนแอขี้โรคนี่จะแว้งกัดเขาเสียจนเลือดสาด และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความบาดหมางระหว่างชายหนุ่มทั้งสอง ที่จำต้องฉีกทึ้งกันทุกครายามเผชิญหน้ากัน “โชคชะตาต้องการให้ข้าเฝ้าอยู่ที่นี่ชั่วชีวิต แต่นี่หาใช่เส้นทางที่ข้าเลือกไม่… ทรายเหลืองกลบฝังพี่น้องข้า ข้าไม่อยากยอมจำนนให้กับชีวิตอันว่างเปล่าอีกแล้ว ราชโองการมิอาจช่วยเหลือทหารของข้าได้ ราชสำนักมิอาจเลี้ยงดูม้าของข้าให้อิ่มได้… ข้าไม่อยากทุ่มเทรับใช้พวกเขาด้วยชีวิตอีกแล้ว… ข้าจะข้ามเขาลูกนั้นไป… ข้าจะต่อสู้เพื่อตัวเองสักครั้ง”   —.—.—.—.—.—.—.—.—.—   ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์   บทที่ 5 โอกาส   น้ำแกงยาเปียกเสื้อด้านหน้าของเสิ่นเจ๋อชวน ไหลลงมาจากมุมปากของเขาจนหมด หมอร้อนใจจนเหงื่อแตกพลั่ก เช็ดขมับและหน้าผากตัวเองไม่หยุด “ป้อนยาไม่ได้แบบนี้” หมอพูด “คนต้องไม่ไหวแน่” เก่อชิงชิงยืนถือดาบมองเสิ่นเจ๋อชวนครู่ใหญ่ “ไม่มีหนทางแล้วหรือ” มือหมอที่ประคองชามยาสั่นเทา ทำเอาช้อนกระทบชามเกิดเสียงดัง […]

แจ้งเตือนการใช้งานคุกกี้ เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีที่สุด ได้แก่ คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ และคุกกี้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ศึกษารายละเอียดและการตั้งค่าคุกกี้เพิ่มเติมเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่านได้ใน นโยบายคุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า