บันทึกวิญญาณพู่กัน 七侯筆錄之筆靈 หม่าป๋อยง 马伯庸 หงลวี่เติง แปล ‘หลัวจงเซี่ย’ เพิ่งรู้ว่ายังมีความซวยที่เป็นขั้นกว่าของการที่อยู่ๆ ก็ถูกมีดแทงอก นั่นก็คือการถูกพู่กันแทงอก! แน่นอนว่าเขาไม่ตาย แต่เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเขาหลังจากนี้ ทำให้เขาสะบักสะบอมบอบช้ำทั้งกายใจจนแม้อยากตายก็ไม่ง่ายแล้ว . เด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยที่ขี้เกียจไปวันๆ อย่างเขา อยู่ๆ ก็ได้ครอบครอง ‘พู่กันบัวคราม’ มรดกตกทอดของหลี่ไป๋ เซียนกวีแห่งประวัติศาสตร์ท่านนั้น นี่ทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับเหล่าผู้คนแห่ง ‘สุสานพู่กัน’ และต้องเผชิญกับการต่อสู้เพื่อแย่งชิง พู่กันในตำนานมากมาย พร้อมผู้ครอบครองมาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาอย่างไม่ว่างเว้น สุนทรีย์แห่งถ้อยคำและตัวอักษรกลับกลายเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา . พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมหน้าที่ความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้นหรือ งั้นหลัวจงเซี่ยคนนี้ก็จะทำทุกวิธีเพื่อปลดพู่กันอัปมงคลนี่ออกไป พลังที่ยิ่งใหญ่อะไรนั่น เขาไม่ต้องการ! ต้นฉบับนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์ บทที่ 5 ใช้นกครามคาบสารไปบอก (1) “นี่คือสมุดบันทึกของฝางปินงั้นหรือ” ที่อยู่ตรงหน้าของหลัวจงเซี่ยคือสมุดบันทึกปกสีเหลืองอ่อนเล่มหนึ่ง มีประมาณสองร้อยหน้า “ถูกต้อง ฉันกับปีเตอร์หาตู้เก็บของนั่นเจอก็สถานีที่สอง และข้างในนั้นก็มีแค่สมุดเล่มนี้วางอยู่ ฉันก็นึกว่ามันจะเป็นของล้ำค่าอะไรเสียอีก!” เหยียนเจิ้งพูดระคนพร่ำบ่น เขาจินตนาการไปก่อนว่ามันจะเหมือนกับในหนังที่ตู้เก็บของในสถานีรถไฟมักจะวางสมบัติลี้ลับไว้ “พวกคุณอ่านแล้วรึยัง” “จะไปมีเวลาที่ไหนล่ะ! พอพวกเราเอามาได้ก็รีบมาหานายนี่แหละ” เหยียนเจิ้งเอ่ย […]
Category Archives: ทดลองอ่าน
生死谷 หุบเขาคร่าวิญญาณ 鄭丰เจิ้งฟง เขียน HUNZA แปล โปรย หุบเขาเร้นลับที่ปราศจากทางออก เหล่าเด็กน้อยถูกพาตัวมารับการฝึกฝนอันแสนโหดเหี้ยม เพื่อให้พวกเขาเติบใหญ่กลายเป็นนักฆ่า เป็นอาวุธสังหารที่กุมความเป็นไปของแว่นแคว้น ในยุคที่แผ่นดินระส่ำระส่ายนี้ เผยรั่วหลัน คุณหนูหกแห่งจวนขุนนาง เสี่ยวหูจื่อ บุตรชายเพียงคนเดียวของเสนาบดีอู่ แม้มีชาติกำเนิดสูงส่ง หากแต่เด็กทั้งสอง กลับถูกลักพามาได้อย่างง่ายดาย ไม่พ้นต้องตกลงสู่นรกไร้ปราณี ที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงพวกเขาไป พี่น้องสองร้อยคน ด่านทั้งสาม มีเพียงแปดคนเท่านั้นที่จะได้กลับบ้าน! ต้นฉบับนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์ บทที่ 3 หมู่เสือดาวสาม เสี่ยวหูจื่อถูกชายหัวโตหรือโต่วเส้าถูพาตัวมาถึงพื้นที่ราบแห่งหนึ่ง พื้นที่ราบแห่งนี้กว้างใหญ่ไพศาล กว้างขว้างเสียยิ่งกว่าเรือนด้านหน้าของจวนเสนาบดีสกุลอู่ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า สามารถแบ่งเป็นสนามเล่นเตะลูกหนังได้หลายสิบสนาม มีผู้คนจับกลุ่มกระจายอยู่เต็มไปหมด เมื่อเพ่งมองให้ดีจะพบว่าเป็นเด็ก ๆ ทั้งสิ้น เด็กเหล่านั้นดูแล้วอายุประมาณเจ็ดแปดขวบ เท่ากับเสี่ยวหูจื่อ พวกเขาสวมเสื้อผ้าสีดำทั้งชุดเช่นเดียวกับโต่วเส้าถู เพียงแต่ผ้าคาดเอวเป็นสีขาวไม่ใช่สีม่วง เสี่ยวหูจื่อเมื่อเห็นแวบแรกยังคิดว่าเด็กเหล่านั้นเป็นผู้ชาย แต่เมื่อตั้งใจดูให้ดี ๆ เห็นเด็ก ๆ ที่มีหน้าตาหมดจดจิ้มลิ้ม รูปร่างผอมบาง ดูคล้ายเป็นเด็กผู้หญิงอยู่ก็หลายคน แต่เขายังไม่แน่ใจนัก เพราะเด็ก […]
生死谷 หุบเขาคร่าวิญญาณ 鄭丰เจิ้งฟง เขียน HUNZA แปล โปรย หุบเขาเร้นลับที่ปราศจากทางออก เหล่าเด็กน้อยถูกพาตัวมารับการฝึกฝนอันแสนโหดเหี้ยม เพื่อให้พวกเขาเติบใหญ่กลายเป็นนักฆ่า เป็นอาวุธสังหารที่กุมความเป็นไปของแว่นแคว้น ในยุคที่แผ่นดินระส่ำระส่ายนี้ เผยรั่วหลัน คุณหนูหกแห่งจวนขุนนาง เสี่ยวหูจื่อ บุตรชายเพียงคนเดียวของเสนาบดีอู่ แม้มีชาติกำเนิดสูงส่ง หากแต่เด็กทั้งสอง กลับถูกลักพามาได้อย่างง่ายดาย ไม่พ้นต้องตกลงสู่นรกไร้ปราณี ที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงพวกเขาไป พี่น้องสองร้อยคน ด่านทั้งสาม มีเพียงแปดคนเท่านั้นที่จะได้กลับบ้าน! ต้นฉบับนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์ บทที่ 1 แข่งเตะลูกหนัง ปีเจินหยวนที่สิบแปดรัชสมัยถังเต๋อจงแห่งราชวงศ์ถัง ฤดูใบไม้ผลิอันอบอุ่น พื้นที่ว่างหลังถนนอันอี่เมืองฉางอัน มีเด็ก ๆ ยี่สิบกว่าคนกำลังสนุกสนานกับการเตะลูกหนังพร้อมกับส่งเสียงโห่ร้องตะโกนดังไม่ขาดสาย พื้นที่ว่างแห่งนี้ไม่ได้อยู่ในความครอบครองของตระกูลใด หลายปีก่อนที่ตรงนี้ปูด้วยแผ่นหินจนกลายเป็นพื้นเรียบสม่ำเสมอ มีเศษหินและวัชพืชขึ้นบ้างประปราย เนื่องจากที่ตรงนี้ถูกปล่อยร้างมาเป็นเวลานาน พอเวลาผ่านไปก็กลายเป็นสถานที่นัดพบเพื่อเล่นเตะลูกหนังของเด็ก ๆ บริเวณนั้น พื้นที่ว่างแห่งนี้ตั้งอยู่บนถนนอันอี่ทางทิศใต้ของเมืองเขตตะวันตก ละแวกนี้ล้วนเป็นเรือนพักของเหล่าขุนนางระดับสูง ทว่าลูกหลานขุนนางตระกูลใหญ่เหล่านี้ย่อมไม่ย่างเท้าออกจากประตูใหญ่ของจวนเพื่อมาเล่นสนุกข้างนอกเป็นแน่ ดังนั้นเด็กที่มาเล่นเตะลูกหนังที่นี่ส่วนใหญ่จึงเป็นลูกหลานของบ่าวไพร่คนรับใช้ที่ทำงานในจวนหรือไม่ก็เป็นลูกของพ่อค้าแม่ขายคนหาบของในละแวกใกล้ ๆ แต่ละคนสวมเสื้อผ้าเก่าขาดซอมซ่อ มีบางคนถึงขนาดเปลือยช่วงบน รองเท้าก็ไม่ได้สวม วันเวลาผ่านไป […]
ยุคสมัยแห่งธิดาอ๋อง 王女韶华 溪畔茶 ซีพั่นฉา เขียน ภวิษย์พร แปล — โปรย — ใครว่าการเป็นซื่อจื่อน้อยแห่งนครอวิ๋นหนานนั้นแสนสบาย คงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเข้าใจ ว่าการจะรักษาตำแหน่ง “ซื่อจื่อ” ไว้ไม่ใช่เรื่องง่าย มู่หยวนอวี๋จำต้องเดินทางไกล จากบ้านเกิดเมืองนอนมาอยู่ในเมืองหลวง เพื่อรักษาความลับที่สำคัญและยื้อชีวิตของตน แต่ก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เมื่อบิดาเรียกตัวมู่หยวนอวี๋กลับอวิ๋นหนานบ้านเกิด การมาอยู่เมืองหลวงครั้งนี้จะเสียเปล่าหรือไม่ แผนการในชีวิตของมู่หยวนอวี๋จะเป็นอย่างไร ใครเล่าจะรู้ … _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) บทที่ 49 หลังจากที่มู่หยวนอวี๋มาถึงเมืองหลวงก็ไปยังจวนเหวินกั๋วกง หลักๆก็เพื่อจัดการเรื่องที่ตระกูลเหวยมาพักอยู่ร่วมชายคา หากไม่มีเรื่องนี้ สิ่งแรกที่นางต้องทำควรเป็นการไปยื่นเรื่องที่ฝ่ายสารบรรณกลางถึงจะถูก จะอย่างไรที่นางนึกถึงเป็นคนแรกก็ไม่ใช่มู่จื่อเฟย มู่จื่อจิ้งไม่รู้ความสลับซับซ้อนของเรื่องราวทั้งหมด เมื่อเปรียบเทียบจากมุมมองของตัวเองคนเดียวย่อมรู้สึกว่าตัวเองพ่ายแพ้ เป็นเหตุให้ตอนที่มีคนถามถึงในงานเลี้ยง ไม่อาจข่มกลั้นความริษยาในใจ จึงไม่ได้ช่วยรักษาหน้ามู่หยวนอวี๋ กลับพูดโพล่งออกมา มู่หยวนอวี๋คิดแล้วก็หันไปสั่งความหมิงฉิน “เอาของที่นำมาฝากพี่หญิงหกออกมา ให้เตาซานไปส่ง บอกกับพี่หญิงหกว่า ข้ามาเมืองหลวงมีธุระมากมายต้องทำ ทีแรกก็ต้องจัดการเรื่องที่ญาติฝั่งแม่สามีของพี่หญิงสามมาอาศัยในจวน ต่อมา ด้วยว่าปรับตัวเข้ากับอากาศของเมืองหลวงไม่ได้จนล้มป่วยเพราะต้องลมหนาว […]
ยุคสมัยแห่งธิดาอ๋อง 王女韶华 溪畔茶 ซีพั่นฉา เขียน ภวิษย์พร แปล — โปรย — ใครว่าการเป็นซื่อจื่อน้อยแห่งนครอวิ๋นหนานนั้นแสนสบาย คงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเข้าใจ ว่าการจะรักษาตำแหน่ง “ซื่อจื่อ” ไว้ไม่ใช่เรื่องง่าย มู่หยวนอวี๋จำต้องเดินทางไกล จากบ้านเกิดเมืองนอนมาอยู่ในเมืองหลวง เพื่อรักษาความลับที่สำคัญและยื้อชีวิตของตน แต่ก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เมื่อบิดาเรียกตัวมู่หยวนอวี๋กลับอวิ๋นหนานบ้านเกิด การมาอยู่เมืองหลวงครั้งนี้จะเสียเปล่าหรือไม่ แผนการในชีวิตของมู่หยวนอวี๋จะเป็นอย่างไร ใครเล่าจะรู้ … _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) บทที่ 50 ตอนที่เข้าไปในจวนสืออ๋องและได้พบกับจูจิ่นเซินอีกครั้ง เขาเพิ่งจะเลิกเรียนกลับมาจากตำหนักหน้า ตำราบันทึกพิธีการเล่มหนึ่งถูกโยนไว้ตรงมุมโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจ เขานั่งตัวตรงอยู่ใต้หน้าต่าง มือซ้ายถือตำราหมากล้อมกลางเก่ากลางใหม่ดูเปื่อยยุ่ยเล่มหนึ่ง โถเก็บเม็ดหมากสีดำและสีขาวสองโถต่างก็วางอยู่ข้างมือ มืออีกข้างหนึ่งของเขาวางทาบไว้ด้านบนโถเก็บเม็ดหมาก เขาขยับมือเข้าไปคีบเม็ดหมากออกมาเป็นระยะเหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิด เมื่อเคลื่อนสายตาออกจากตำราในขณะที่จะวางเม็ดหมากลงไปบนกระดานก็เห็นว่าตัวเองคีบหมากผิดสี จึงโยนตัวหมากกลับคืนลงไปอย่างเบามือ เกิดเสียงดัง “ติ๊ง” เบาๆหนึ่งครั้งมาจากด้านในโถหยกสีเขียว และมู่หยวนอวี๋ก็เดินเข้ามาในขณะเกิดเสียงนั้น แล้วจึงคำนับทักทาย “คารวะองค์ชาย องค์ชายดื่มยาหรือยัง” หลินอันที่เดินนำนางเข้ามาและเลิกผ้าม่านให้รีบหันมามองด้วยสายตาซาบซึ้งใจทันที…เป็นคนดียิ่งนัก! เมื่อเทียบกันแล้ว […]
生死谷 หุบเขาคร่าวิญญาณ 鄭丰เจิ้งฟง เขียน HUNZA แปล โปรย หุบเขาเร้นลับที่ปราศจากทางออก เหล่าเด็กน้อยถูกพาตัวมารับการฝึกฝนอันแสนโหดเหี้ยม เพื่อให้พวกเขาเติบใหญ่กลายเป็นนักฆ่า เป็นอาวุธสังหารที่กุมความเป็นไปของแว่นแคว้น ในยุคที่แผ่นดินระส่ำระส่ายนี้ เผยรั่วหลัน คุณหนูหกแห่งจวนขุนนาง เสี่ยวหูจื่อ บุตรชายเพียงคนเดียวของเสนาบดีอู่ แม้มีชาติกำเนิดสูงส่ง หากแต่เด็กทั้งสอง กลับถูกลักพามาได้อย่างง่ายดาย ไม่พ้นต้องตกลงสู่นรกไร้ปราณี ที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงพวกเขาไป พี่น้องสองร้อยคน ด่านทั้งสาม มีเพียงแปดคนเท่านั้นที่จะได้กลับบ้าน! ต้นฉบับนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์ บทที่ 2 ถูกจับ หลังการแข่งขันเตะลูกหนังของค่ายมังกรเขียวกับพยัคฆ์ขาวเสี่ยวหูจื่อนั่งอยู่บนบ่าของเด็กตัวโตอย่างเลิ่งจื่อภายใต้การห้อมล้อมของพรรคพวกฝ่ายเดียวกัน มุ่งหน้าไปยังร้านขายขนมเปี๊ยะแห่งหนึ่งในตลาด เสี่ยวหูจื่อล้วงเงินจากอกเสื้อออกมากำหนึ่งเอ่ยอย่างใจกว้างว่า “วันนี้ข้าเลี้ยงขนมเปี๊ยะงาพวกเจ้าเอง ใครอยากจะกินเท่าไรก็กินตามสบาย กินให้อิ่มก็แล้วกัน” เสียงโห่ร้องของเด็ก ๆ ดังขึ้นเซ็งแซ่พร้อมกับยื่นมือไปหยิบขนมเปี๊ยะกันคนละชิ้นกินจนปากเลอะงาเต็มไปหมด เด็กน้อยทั้งหลายกินไปแล้วยังไม่หนำใจ ต่างคนต่างหยิบขนมกันอีกคนละหลายชิ้นถือเอาไว้ในมือ จากนั้นเดินกรูไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างตลาด คุยกันถึงเรื่องการแข่งขันวันนี้อย่างสนุกสนาน รวมถึงการแข่งขันที่ดุเดือดและกล้าหาญของเสี่ยวหูจื่อที่เอาชนะลิ่วเอ๋อได้ เสี่ยวหูจื่อคิดถึงตอนแข่งตัวต่อตัวกับลิ่วเอ๋อแล้วถูกเตะเข้าที่น่องอย่างแรง จึงเลิกขากางเกงขึ้นดู เห็นว่าตรงจุดที่ถูกเตะบัดนี้กลายเป็นรอยช้ำสีเขียวอมม่วงขนาดใหญ่ เมื่อลูบลงไปก็แสบร้อนเจ็บปวดไม่น้อย บังเกิดความเดือดดาลขึ้นในใจก่อนเอ่ยขึ้นว่า “พวกเจ้าดูสิ ตอนแข่งตัวต่อตัวข้าถูกลิ่วเอ๋อเตะเข้าให้” เด็ก […]
บันทึกวิญญาณพู่กัน 七侯筆錄之筆靈 หม่าป๋อยง 马伯庸 หงลวี่เติง แปล ‘หลัวจงเซี่ย’ เพิ่งรู้ว่ายังมีความซวยที่เป็นขั้นกว่าของการที่อยู่ๆ ก็ถูกมีดแทงอก นั่นก็คือการถูกพู่กันแทงอก! แน่นอนว่าเขาไม่ตาย แต่เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเขาหลังจากนี้ ทำให้เขาสะบักสะบอมบอบช้ำทั้งกายใจจนแม้อยากตายก็ไม่ง่ายแล้ว . เด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยที่ขี้เกียจไปวันๆ อย่างเขา อยู่ๆ ก็ได้ครอบครอง ‘พู่กันบัวคราม’ มรดกตกทอดของหลี่ไป๋ เซียนกวีแห่งประวัติศาสตร์ท่านนั้น นี่ทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับเหล่าผู้คนแห่ง ‘สุสานพู่กัน’ และต้องเผชิญกับการต่อสู้เพื่อแย่งชิง พู่กันในตำนานมากมาย พร้อมผู้ครอบครองมาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาอย่างไม่ว่างเว้น สุนทรีย์แห่งถ้อยคำและตัวอักษรกลับกลายเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา . พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมหน้าที่ความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้นหรือ งั้นหลัวจงเซี่ยคนนี้ก็จะทำทุกวิธีเพื่อปลดพู่กันอัปมงคลนี่ออกไป พลังที่ยิ่งใหญ่อะไรนั่น เขาไม่ต้องการ! ต้นฉบับนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์ บทที่ 3 ปัดกวาดที่ทางอย่างไร้ความหวาดระแวง (1) ตู้ฝากของในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินพบได้ทั่วไปในหนังสายลับหรือไม่ก็นิยายสืบสวนของเมืองนอก ในประเทศจีนถือได้ว่าเป็นสิ่งของที่แปลกใหม่ คนที่รู้จักยังมีไม่มากเท่าที่ควร ถึงแม้จะเป็นเมืองหลวงหนึ่งเดียวในประเทศก็ตาม ยังไม่ใช่ทุกสถานีที่จะมีบริการเช่นนี้ จะมีอยู่ก็แต่เพียงสถานีใหญ่ไม่กี่สถานีเท่านั้น พูดให้ถูกก็คือสถานีใหญ่ที่พวกคนต่างชาติมักจะสัญจรกัน การติดตั้งตู้ฝากสิ่งของกว่าร้อยช่องนี้ถือได้ว่าเป็นเครื่องพิสูจน์ความมานะที่จะสานสัมพันธ์ความโบราณของเมืองหลวงกับต่างประเทศ ไม่ว่าทางคณะบริหารเมืองจะคิดอย่างไร อย่างน้อยสำหรับหลวงจีนปีเตอร์และเหยียนเจิ้งแล้ว สถานการณ์เช่นนี้ก็ถือว่าดีเกินคาด พวกเขาไม่ต้องเร่งฝีเท้าโร่ไปทุกสถานี ขอเพียงสนใจแค่สถานีใหญ่ […]
ช่วงเวลาดีๆ ที่มีแต่รัก 造作时光 เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง 月下蝶影 เขียน Hanza แปล — โปรย — รัชทายาทรูปโฉมหล่อเหลาไร้ผู้ใดเทียม เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ แต่ถึงเขาหน้าตาดีเพียงใด้ก่งกาจเพียงใด ก็หักล้างกับนิสัยไม่ดีและปากร้ายไม่ได้ หญิงผู้ดีมีชาติตระกูล มีหรือจะอดทนกับความปากร้าย ที่สามารถฆ่าคนอย่างไร้รูปเช่นนั้น ว่ากันว่าแม้แต่สนมในวังหลวงทั้งหลายก็ยังมิอาจต่อกรกับรัชทายาท นับประสาอันใดกับพวกนางที่เป็นสาวน้อยที่มีพลังในการชิงดีชิงเด่นไม่เข้มแข็งพอ คิดดูอีกที เมื่อรัชทายาทถูกตาจ้องใจสตรีอ่อนแอขี้โรค นับว่านางเป็นเนื้อสมันที่เดินเข้าปากเสือ น่าจะโชคร้ายมากกว่าโชคดี แม้ภายนอก ฮวาหลิวหลี อ่อนแอขี้โรค ทว่าแท้จริงนางเป็นสตรีที่น่าครั่นคร้ามยิ่ง ไม่ว่าฝ่ายใดที่พยายามลอบสังหารนาง กลับต้องแพ้ภัยตัวเอง จีหยวนซู่ บุรุษรูปงาม สูงศักดิ์ เป็นถึงรัชทายาทแคว้นจิ้น เขาถูกตาต้องใจนาง คอยปกป้องเอาใจนางเสมอ ต่อให้นางเข้มแข็งเพียงใดก็ยังพ่ายต่อเขา และที่สำคัญคือพ่ายต่อรูปโฉมบุรุษที่เป็นจุดอ่อนของนาง _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) 37 มือปราบมีหรือจะกล้ารับตั๋วเงินปึกนี้ ตอนที่เห็นผู้ดูแลควักถุงเงินออกมา แผ่นหลังของเขาก็หลั่งเหงื่อเย็นแล้ว หากหัวหน้าเห็นเข้า […]
บันทึกวิญญาณพู่กัน 七侯筆錄之筆靈 หม่าป๋อยง 马伯庸 หงลวี่เติง แปล ‘หลัวจงเซี่ย’ เพิ่งรู้ว่ายังมีความซวยที่เป็นขั้นกว่าของการที่อยู่ๆ ก็ถูกมีดแทงอก นั่นก็คือการถูกพู่กันแทงอก! แน่นอนว่าเขาไม่ตาย แต่เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเขาหลังจากนี้ ทำให้เขาสะบักสะบอมบอบช้ำทั้งกายใจจนแม้อยากตายก็ไม่ง่ายแล้ว . เด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยที่ขี้เกียจไปวันๆ อย่างเขา อยู่ๆ ก็ได้ครอบครอง ‘พู่กันบัวคราม’ มรดกตกทอดของหลี่ไป๋ เซียนกวีแห่งประวัติศาสตร์ท่านนั้น นี่ทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับเหล่าผู้คนแห่ง ‘สุสานพู่กัน’ และต้องเผชิญกับการต่อสู้เพื่อแย่งชิง พู่กันในตำนานมากมาย พร้อมผู้ครอบครองมาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาอย่างไม่ว่างเว้น สุนทรีย์แห่งถ้อยคำและตัวอักษรกลับกลายเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา . พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมหน้าที่ความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้นหรือ งั้นหลัวจงเซี่ยคนนี้ก็จะทำทุกวิธีเพื่อปลดพู่กันอัปมงคลนี่ออกไป พลังที่ยิ่งใหญ่อะไรนั่น เขาไม่ต้องการ! ต้นฉบับนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์ บทที่ 2 ข้าอ่านคัมภีร์เต๋าโดดเดี่ยว ณ หอคอยทิศใต้ (2) เสียงอ่านตำราภายในห้องค่อย ๆ เบาลง ลมพัดผ่านทุ่งหญ้าป่าไม้ เสียงเอะอะอย่างผ่อนคลายไร้กังวลจากวิทยาเขตมหาวิทยาลัยอันห่างไกลแล่นมาพร้อมกับสายลม ทำให้จิตใจของทั้งสองบรรเทาลงตามไปด้วย “ตอนนี้เหวยซื่อหรันเป็นปฏิปักษ์กับเราหรือไม่ก็ยากจะคาดเดา หมู่บ้านสกุลเหวยในตอนนี้ได้ถอนตัวออกจากเรื่องทั้งหมดแล้ว ตระกูลเหวยของพวกเราวุ่นวายอลหม่านไปหมด” หลวงจีนปีเตอร์มองออกไปยังตึกเรียนสีขาวเทาที่อยู่ไกล อยู่ […]
บันทึกวิญญาณพู่กัน 七侯筆錄之筆靈 หม่าป๋อยง 马伯庸 หงลวี่เติง แปล ‘หลัวจงเซี่ย’ เพิ่งรู้ว่ายังมีความซวยที่เป็นขั้นกว่าของการที่อยู่ๆ ก็ถูกมีดแทงอก นั่นก็คือการถูกพู่กันแทงอก! แน่นอนว่าเขาไม่ตาย แต่เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเขาหลังจากนี้ ทำให้เขาสะบักสะบอมบอบช้ำทั้งกายใจจนแม้อยากตายก็ไม่ง่ายแล้ว . เด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยที่ขี้เกียจไปวันๆ อย่างเขา อยู่ๆ ก็ได้ครอบครอง ‘พู่กันบัวคราม’ มรดกตกทอดของหลี่ไป๋ เซียนกวีแห่งประวัติศาสตร์ท่านนั้น นี่ทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับเหล่าผู้คนแห่ง ‘สุสานพู่กัน’ และต้องเผชิญกับการต่อสู้เพื่อแย่งชิง พู่กันในตำนานมากมาย พร้อมผู้ครอบครองมาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาอย่างไม่ว่างเว้น สุนทรีย์แห่งถ้อยคำและตัวอักษรกลับกลายเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา . พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมหน้าที่ความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้นหรือ งั้นหลัวจงเซี่ยคนนี้ก็จะทำทุกวิธีเพื่อปลดพู่กันอัปมงคลนี่ออกไป พลังที่ยิ่งใหญ่อะไรนั่น เขาไม่ต้องการ! ต้นฉบับนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์ บทที่ 1 ข้าอ่านคัมภีร์เต๋าโดดเดี่ยว ณ หอคอยทิศใต้ (1) ภายในสวน ป่าไผ่เงียบเหงา กลิ่นชาหอมคลุ้ง เสียงท่องตำราใสกระจ่าง เหิงซานใต้ฟ้ามืดยิ่งชอุ่ม มองทางใต้เห็นดาวอายุขัย ลมหิมะห้ายอดเขากำจรไป […]