Category Archives: How To

ความสำเร็จในการทำงาน อยู่ใกล้แค่เอื้อมเพียงทำทุกอย่างให้ “เรียบง่าย” เข้าไว้

ความสำเร็จในการทำงาน มักต้องการเป้าหมายที่แน่ชัด บางคนเดินออกนอกเส้นทางเพราะมัวแต่สับสนและจดจ่อกับสิ่งที่ไม่ใช่เป้าหมาย วิธีที่จะพาสู่กลับเส้นทางหลักได้นั่นก็คือ “ความเรียบง่าย” ความเรียบง่ายประกอบด้วย 3 สิ่งหลักๆ คือ “ทิ้งรายละเอียดที่ไม่สำคัญ ตั้งอัตลักษณ์อย่างแข็งแกร่ง และรักษาไว้ไม่ให้ร่วงหล่น”  จึงจะก้าวสู่ความสำเร็จได้ มาดูกันว่าหากต้องการ ความสำเร็จในการทำงาน ต้องทำอย่างไร   ทิ้งคำว่า “มากขึ้นอีก” ชีวิตเราสิ้นเปลืองไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องหลายอย่าง จงเรียบง่ายเข้าไว้ เพราะเราต่างจะมีมากขึ้นอยู่ตลอดเวลา จนลืมเรียนรู้จะพอใจกับสิ่งเล็กน้อยอยู่เสมอ ถ้าทุกคนบนโลกใช้ชีวิตเดียวกับผู้คนในอเมริกาเหนือ ต้องมีโลกถึงสองใบจึงจะพอ และหากประชากรโลกเพิ่มเป็นสองเท่าจากปัจจุบัน ก็ต้องมีโลกสามใบถึงจะพอ คนส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องมีของมากมายสักอย่าไร แต่ระบบเศรษฐกิจซึ่งหมกมุ่นอยู่กับการเติบโตได้ล้างสมองผู้คนและตอกย้ำเรื่องวัตถุนักหนาจนเกิด “การจงใจออกแบบให้ตกรุ่น” แผนการคือบริษัทบางแห่งจงใจที่จะออกแบบสินค้าให้ตกรุ่น คือการย่นระยะเวลาการใช้งานของสินค้าชนิดนั้น “เพราะคุณสมบัติยั่งยืนคงทนของสินค้าคืออวสานแห่งการผลิต” ปัญหาของโลกเนื่องจากอุปทานส่วนเกินท่วมท้นไปด้วยสิ่งของและข้อมูล ถูกช่วงชิงเวลามากมายไปกับงานอันไร้ความหมาย จนเพิกเฉยการใส่ใจคุณภาพและความสมบูรณ์ที่แท้จริง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ยุคปัจจุบันต้องการความเรียบง่าย   ทิ้งความคิดฝังหัวและการเปรียบเทียบ ตัวอย่างเช่น ไฟรทาก แบรนด์กระเป๋าชื่อดังที่นำผ้าใบเก่าจากรถบรรทุกมาผลิตเป็นกระเป๋า แค่การน้ำผ้าใบของเก่ามาใช้ใหม่ก็นับว่าแสดงให้เห็นการทิ้งที่แท้จริงแล้ว จุดสูงสุดของการทิ้งคือการเน่าเสีย แต่ไฟรทากนำของเสียกลับมาใช้ใหม่และผลิตเป็นสินค้า เท่ากับเป็นการร่วมเดินทางกับกระบวนการเน่าเสีย โดยสร้างมูลค่าใหม่จากกระบวนการนั้น ไฟรทากทิ้งความคิดฝังหัวกับการเปรียบเทียบ พวกเขาสวนทางกฎเกณฑ์ของแบรนด์เนมอื่นด้วยการเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมที่ทำจากวัสดุเหลือทิ้ง ปกติแล้วภาพจำที่อยู่ขั้วตรงข้ามกับ “แบรนด์เนม” ก็คือ “ความสกปรก” ทว่ากระเป๋าของไฟรทากที่มีทั้งรอยเปื้อนและกลิ่นแรงกลับได้รับความรักจากผู้บริโภค รอยตำหนิบนสินค้าอื่นๆ […]

วิธีลงทุนง่ายๆ เห็นผลชัวร์ฉบับมนุษย์เงินเดือน โดยฟลุค-เกริกพล

คุณฟลุค-เกริกพล ได้อธิบายถึง วิธีลงทุน ง่ายๆ ที่ทำให้เงินงอกเงยและสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตวัยเกษียณ ไว้ในหนังสือเล่มใหม่ของเขา “Money Genius อัจฉริยะใช้เงินเป็น” เคล็ดลับที่ฟลุค ใช้มาเกือบทั้งชีวิตของเขาก็คือ “เห็นคุณค่าของเงินที่หามา รู้จักเพิ่มมูลค่าของเงินที่จะใช้ และรู้วิธีลงทุนให้เงินเติบโต” ในอนาคตคุณไม่มีทางจนอย่างแน่นอน ยิ่งเรียนรู้การลงทุนเร็วเมื่อไหร่ คุณก็มีเงินเก็บเยอะกว่าคนอื่นมากขึ้นเท่านั้น มาดูกันว่า วิธีลงทุน ที่ฟลุค-เกริกพล แนะนำจะมีวิธีไหนบ้าง   เริ่มต้นอย่างไรดี สมมติว่าคุณอายุ 30 ปี เป็นมนุษย์เงินเดือน ได้เงินเดือนเดือนละ 30,000 บาท หากออมเงินตามกฎขั้นต่ำนั่นคือเดือนละ 10% ของรายได้ คุณจะมีเงินเก็บเดือนละ 3,000 บาท ภายในระยะเวลา 1 ปี คุณจะสามารถเก็บเงินได้ปีละ 36,000 บาท ทำงานเก็บเงินไปยาวๆ อีก 30 ปี เมื่อถึงวัยเกษียณ คุณจะมีเงินสำหรับใช้ในอนาคตเป็นจำนวน 1,080,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนเท่านั้นยังไม่เพียงพอสำหรับชีวิตในบั้นปลายแน่นอน หลายคนมักเลือกวิธีออมเงินที่ง่ายที่สุด นั่นคือการนำไปฝากธนาคารในรูปแบบบัญชีออมทรัพย์ รับดอกเบี้ยต่อปีในอัตรา 1.5% […]

หมดไฟในการทำงาน (Burnout Syndrome) โรคยอดฮิตของเหล่ามนุษย์เงินเดือน

ภาวะ หมดไฟในการทำงาน หรือ Burnout Syndrome เกิดขึ้นได้ทุกคน ภาวะนี้เกิดจากความเครียด ความกดดันในการทำงาน ทำให้รู้สึกเบื่องาน ไม่อยากไปทำงาน และเฉื่อยชา เมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศรวม Burnout ไว้ในบัญชีจำแนกโรคระหว่างชาติขององค์การอนามัยโลก ฉบับที่ 11 เป็นปรากฏการณ์ด้านการทำงานอาชีพ และไม่ใช่โรคทางการแพทย์ อธิบายเพิ่มเติมว่าเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสุขภาวะและการไปใช้บริการทางสุขภาพ แต่ไม่ใช่ความเจ็บป่วย มาดูกันว่าภาวะ หมดไฟในการทำงานคืออะไร และมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง   คุณมีโอกาสเข่าข่าย Burnout หรือ หมดไฟในการทำงานหรือไม่ บนเว็บไซต์ของเมโยคลินิกเผยแพร่เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2561 ได้ให้คำถามไว้ 10 ข้อเพื่อใช้ตรวจดูว่าตนเองเข้าข่ายมีภาวะหมดไฟในการทำงานหรือไม่ ชอบค่อนแคะถากถาง หรือชอบติและวิจารณ์ในการทำงานหรือไม่ ต้องใช้ความพยายามในการลากตัวเองไปทำงานหรือไม่ รู้สึกหงุดหงิดและไม่มีความอดทนต่อเพื่อนร่วมงาน หรือลูกค้าหรือไม่ รู้สึกไม่มีพลังในการทำงานหรือไม่ ยากที่จะตั้งใจจดจ่อทำงานหรือไม่ ไม่รู้สึกพอใจ หรือแฮปปี้ เมื่องานสำเร็จหรือไม่ รู้สึกว่างานมีลักษณะที่ไม่เหมือนเดิม และเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ ใช้อาหาร ยา และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อให้ตนเองรู้สึกดีขึ้นหรือไม่ มีอาการนอนไม่หลับหรือไม่ มีอาการปวดหัว ไม่สบายท้อง […]

สิ่งสำคัญ 10 ประการที่ได้จากหนังสือ Into The Magic Shop

ดร.เจมส์ อาร์. โดตี ผู้เขียน Into The Magic Shop กล่าวว่า สิ่งที่เขาได้รับจากรูธที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งนอกเหนือจากมายากลที่รูธสอน นั่นคือสิ่งสำคัญ 10 ประการที่ช่วยให้เขาจดจำสิ่งต่างๆ ได้ขึ้นใจ ดร.เจมส์ ยังทบทวนทักษะที่รูธสอนอยู๋เรื่อยๆ และพัฒนามันให้สะท้อนถึงบทเรียนที่เขาได้เรียนรู้ออกมาเป็นรหัสช่วยจำว่า CDEFGHIJKL นี่เป็นวิธีที่จะช่วยให้เขาจดจำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาแต่ละแง่มุม เขาท่องอักษรเหล่านี้ทุกเช้า และเลือกข้อหนึ่งจากสิบข้อมาเป็นความตั้งใจประจำวัน มันทำให้เขาเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความตั้งใจที่เต็มเปี่ยม สิ่งสำคัญ 10 ประการที่ดร.เจมส์ เขียนไว้ใน Into The Magic Shop มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย   C : Compassion คือความเมตตา การรับรู้ถึงความทุกข์ของผู้อื่นและอยากให้ความทุกข์นั้นบรรเทาลง แต่การจะมีเมตตาได้นั้นต้องมีความเมตตากับตัวเองก่อน หลายคนตำหนิตัวเอง ไม่ยอมให้ตัวเองได้รับความสุขแบบที่เวลามอบความสุขให้ผู้อื่น การให้ความรักแก่ผู้อื่นจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าคุณไม่ได้ให้กับตัวคุณเองก่อน   D : Dignity ความภาคภูมิใจเป็นสิ่งที่มีอยู่ในตัวทุกคน เป็นความต้องการการยอมรับและรับรู้ว่ามีตัวตน บ่อยครั้งที่เราตัดสินใครบางคนด้วยลักษณะท่าทาง การพูด หรือความประพฤติ และการตัดสินใจเหล่านั้นส่วนมากเป็นทางลบและผิดไปจากความจริง เราต้องมองผู้อื่นด้วยสายตาเดียวกับที่มองตัวเอง เขาเหมือนเรา และเขาก็ต้องการสิ่งที่เราต้องการนั่นก็คือความสุข […]

สุดยอดเทคนิคการขาย เพิ่มความมั่นใจและความช่ำชองในการนำเสนอสินค้า

สิ่งสำคัญที่สุดของ เทคนิคการขาย นั่นก็คือความมั่นใจในตัวเอง และความช่ำชองในการนำเสนอสินค้า ยิ่งมีประสบการณ์มากยิ่งเก่งมาก แต่ถ้าคุณฝึกกับตัวเองด้วยก็จะยิ่งเก่งเร็วขึ้น ความมั่นใจที่ว่านี้ ไม่ใช่การพบเจอผู้คนหลากหลายโดยไม่รู้สึกประหม่า แต่คือการเข้าหาผู้คนได้อย่างลื่นไหล เป็นธรรมชาติ และมีเสน่ห์ ส่วนความช่ำชอง ที่ว่านี้ก็ไม่ใช่แค่เก่ง แต่คือการทำซ้ำหลายครั้งจนเจนจัดด้วยประสบการณ์ และกลายเป็นมืออาชีพในที่สุด มาดูกันว่า เทคนิคการขาย เพื่อเพิ่มความมั่นใจและช่ำชองมีอะไรบ้าง   ฝึกพูดกับตัวเองหน้ากระจก การจะเป็นนักขายมืออาชีพได้นั้น ความมั่นใจต้องมาเป็นอันดับ 1 คุณต้องมั่นใจในตัวเองสุดๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และแสดงความมั่นใจนั้นออกมาให้คนอื่นเห็น สิ่งที่ช่วยได้ดีก็คือการยืนหน้ากระจกแล้วพูดกับตัวเองดังๆ ว่า “ฉันดูดี” “ฉันมั่นใจ” “ฉันมีเสน่ห์” “ฉันเก่ง” “ฉันมืออาชีพ” พูดตามนี้ให้ครบทุกคำ และถ้าคุณอยากรู้สึกตื่นเต้นกับตัวเองมากขึ้น ให้แต่งตัวดูดีที่สุดเวลาไปยืนอยู่หน้ากระจก   ฝึกพูดและจินตนาการว่ามีคนกำลังฟังอยู่ การขายคือการพูด ถ้าคุณอยากเป็นนักขายที่ดี คุณก็ต้องเป็นนักพูดที่ดีด้วย การฝึกความมั่นใจและความสามารถในการพูดไม่ว่าต่อหน้าคนเยอะๆ หรือต่อหน้าลูกค้า 1 คนก็ใช้การฝึกเหมือนๆ กัน นั่นก็คือ การสมมติว่าคุณยืนอยู่ต่อหน้าผู้คน หรือคุณเป็นผู้พูดและมีผู้ฟัง แล้วฝึกพูดอย่างมั่นใจ มีพลัง สื่อสารเนื้อหาให้ผู้ฟังเข้าใจ และถ่ายทอดอารมณ์ให้ผู้ฟังเข้าถึงได้ ยิ่งกว่านั้นคือสร้างความประทับใจได้ดี หรือนำเทคนิคเด่นๆ […]

Becoming มิเชลล์ โอบามา อัตชีวประวัติของสตรีหมายเลข 1 ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลก

มิเชลล์ โอบาม่า สตรีหมายเลข 1 ผิวสีคนแรกที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลกด้วยเรื่องราวของเธอ จน Becoming หนังสือของเธอได้กลายเป็น หนังสือแนวอัตชีวประวัติที่ทุบสถิติขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์! มิเชลล์ มาจากครอบครัวชนชั้นแรงงาน ในอพาร์ตเมนต์แคบๆ ในย่านที่ค่อนข้างเสื่อมโทรมของชิคาโก้ รัฐอิลลินอยส์ สิ่งเดียวอันมีค่าที่เธอมีคือ พ่อ แม่ และพี่ชายที่ทำให้เธอมั่นใจเสมอว่า “เธอคือคนสำคัญ” และนั่นคือสิ่งที่เธออยากส่งต่อให้คนทั้งโลก เส้นทางของมิเชลล์ ตั้งแต่ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย จนได้เข้าไปเป็นนักศึกษาผิวสีหนึ่งในไม่กี่คนของ มหาวิทยาลัยพรินซตัน (ซึ่งอยู่ในกลุ่ม Ivy League มหาวิทยาลัยอันดับท็อปของอเมริกา ซึ่งมีฮาวาร์ดรวมอยู่ด้วย) ต่อด้วยการทำงานในบริษัทกฎหมายชั้นนำบนตึกระฟ้า จนได้พบเจอกับบารัค โอบาม่า เด็กฝึกงานของเธอ ผู้ทำให้ชีวิตของเธอต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล นั้นสอนอะไรมากมายเรื่องความหมายที่แท้จริงของ “การเติบโต” และต่อไปนี้คือ จุดหักเลี้ยวที่ไม่ธรรมดาในชีวิตของ มิเชลล์ โอบาม่า จากหนังสือสร้างปรากฏการณ์ชื่อว่า Becoming   เรียนต่อที่ Ivy League ช่วงต้นปีสุดท้ายโรงเรียนวิทนีย์ ยัง (โรงเรียนมัธยมของมิเชลล์) มิเชลล์ได้ไปพบครูแนะแนวด้านศึกษาต่อเป็นครั้งแรก เธอเข้าไปในห้องแนะแนวด้วยท่าทางภูมิใจเต็มเปี่ยมกับข้อเท็จจริงที่ว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มนักเรียนร้อยละ 10 ที่มีคะแนนสูงสุดในชั้นที่จะเรียนจบในปีนี้ และได้รับคัดเลือกเข้าสมาคมเกียรติยศแห่งชาติ (National […]

10 สัญชาตญาณจอมลวง ที่ทำให้คุณเข้าใจโลกผิดมาตลอด!

เมื่อคิดถึงโลก สิ่งที่ตามมาคือสงคราม ความโหดร้าย ภัยธรรมชาติ วินาศภัยที่มนุษย์ก่อขึ้น สิ่งต่างๆ ดูเลวร้าย และดูเหมือนทุกอย่างจะแย่ลง เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นเพราะ สัญชาตญาณ จอมลวงในตัวเราเป็นคนบอก มันเป็นค่านิยมที่ถูกปลูกฝังมารุ่นต่อรุ่น คนรวยก็รวยเอารวยเอา ส่วนคนจนก็จนลงเรื่อยๆ และอีกไม่ช้าก็คงจะไม่มีทรัพยากรหลงเหลือหากเราไม่ทำอะไรจริงจัง นั่นคือภาพคร่าวๆ ที่คนมองเห็นในสื่อและจำฝังไว้ในหัว ลองมาดูกันว่า 10 สัญชาตญาณ ที่ทำให้เราคิดลบต่อโลก มีอะไรบ้าง   สัญชาตญาณแห่งการแบ่งแยก ภาพในหัวคือประชากรในโลกนั้นแบ่งแยกเป็นประเทศและผู้คนสองแบบคือ ร่ำรวยและยากจน หนักไปกว่านั้นคือการแบ่งแยกระหว่างพวกเขาและพวกเรา ในประเทศที่ประชากรมีชีวิตดีๆ อยู่ดีกินดีอย่างประเทศฝั่งตะวันตกมักคิดว่า “พวกเขา” (ประเทศอื่นๆ) ไม่มีทางมีชีวิตได้แบบ “พวกเรา” เป็นไปได้ว่าคนเหล่านั้นอาจจะยังใช้ชีวิตอยู่โดยมีภาพของโลกเมื่อสามสิบปีก่อนอยู่ในหัว หากหาข้อมูลอ่านดูดีๆ แล้วจะพบว่าความคิดเห็นเหล่านั้นไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าความรู้ที่ไม่มีแก่นสาร นี่จะช่วยให้ภาพลวงตาที่ทำให้เข้าใจว่าโลกแบ่งเป็นสองส่วนนั้นเป็นเพียงแค่ความรู้สึกอคติเท่านั้น   สัญชาตญาณแห่งความเป็นลบ สัญชาตญาณแห่งความเป็นลบ คือแนวโน้มที่จะเห็นสิ่งที่ไม่ดีมากกว่าสิ่งที่ดี  “สิ่งต่างๆ กำลังจะแย่ลง” เป็นประโยคเกี่ยวกับโลกที่ได้ยินบ่อยมากที่สุด และก็จริงอยู่ โลกมีสิ่งที่ไม่ดีมากมาย ทั้งการประมงเกินขนาดและคุณภาพทะเลที่ลดลงนั้นเป็นปัญหาที่น่ากังวล รวมไปถึงน้ำแข็งกำลังจะละลาย ระดับน้ำทะเลก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนอาจถึง 3 ฟุตในอีก 100 ปีข้างหน้า ง่ายมากที่จะรับรู้ว่าสิ่งไม่ดีต่างๆ […]

วิธีตั้งรับ เมื่อถูกลูกค้าปฏิเสธสินค้าที่เรากำลังเสนอขาย

การที่ ลูกค้าปฏิเสธ หรือมีท่าทีจะ Say No กับการขายครั้งนี้ คุณยังมีโอกาสเปลี่ยนใจลูกค้าได้อยู่ เพียงแค่ต้องหยุด “เกมรุก” และเล่น “เกมรับ” ให้ดีที่สุดในจังหวะนี้ เพื่อตั้งหลักและเริ่มใหม่ และวิธีตั้งหลักที่ว่าก็คือ “การฟัง” มาดูกันว่าเมื่อคุณถูก ลูกค้าปฏิเสธ แบบอ้อมๆ มาแล้ว คุณควรทำอย่างไรต่อไป   ฟังคำถามของลูกค้า และตอบให้ดีที่สุด ถ้าคุณไม่ใช่นักขายที่ดี มีอารมณ์ร้อนและเอาแต่ใจยิ่งกว่าลูกค้า ถ้าคุณอยากขายเขาต้องซื้อ ถ้าคุณพูดอะไรเขาต้องเชื่อ ถ้าลูกค้าดูเหมือนจะลังเล คุณจะรีบพูดแทรกเลย คุณจะไม่อดทนฟังลูกค้าเพื่อไม่ให้เข้าได้ตอบปฏิเสธ อีกอย่าง คุณจะไม่ตั้งใจฟังคำถามของลูกค้า เพราะคิดว่าคำถามคือจุดเริ่มต้นของการปฏิเสธ ดังนั้นคุณจะไม่ให้โอกาสเขาได้ถามอะไรเลย เพราะต้องการปิดการขายให้เร็วที่สุด นั่นเป็นวิธีที่ทำให้ลูกค้าอึดอัดและไม่อยากซื้อสินค้าของคุณ หากคุณเจอคนอารมณ์ร้อนเมื่อไร แน่นอนว่าลูกค้าต้องเดินหนีไปอย่างแน่นอน ดังนั้นเวลาลูกค้ามีคำถาม แม้จะเป็นคำถามคล้ายจะปฏิเสธ จงตั้งใจฟัง เพื่อเข้าใจเหตุผลว่าทำไมเขาถึงลังเลและยังไม่ซื้อ และเคลียร์ข้อข้องใจของเขา หรือใช้กลยุทธ์พูดโน้มน้าวเขาให้ได้มากที่สุด นึกถึงตัวเองเวลาคุณเป็นลูกค้า ถ้าคุณตัดสินใจไม่ซื้อ แน่นอน คุณจะปฏิเสธเลยแบบไม่ถามต่อด้วย แต่ถ้าคุณยังลังเล คุณจะมีคำถามและอยากให้คนขายอธิบายให้ฟังก่อนจะตัดสินใจ นั่นแสดงว่า เวลาลูกค้ามีคำถาม แสดงว่ายังมีโอกาสขายได้ แม้คำถามของลูกค้าอาจดูเป็นลบ คุณก็มีโอกาสเปลี่ยนใจได้ […]

กลยุทธ์การบริหารแบบ Netflix ที่เน้นจ้างแต่คนโคตรเก่ง!

การ บริหารแบบ Netflix ที่ทำให้องค์กรมาไกลถึงทุกวันนี้คือเน้นจ้างแต่คนโคตรเก่ง และพร้อมจะบอกลาพนักงานได้ทุกเมื่อหากเขาคนนั้นไม่สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้ดี อาจจะฟังดูใจร้ายไปสักหน่อย แต่ไม่เกินจริงเลยสักนิด ที่ Netflix มีวิธีบริหารคนเก่งอยู่สามข้อ อย่างแรก คือ ต้องมีความรับผิดชอบในการจ้างคนที่ยอดเยี่ยม ตัดสินใจให้เด็ดขากว่าใครควรจะต้องไปโดยให้การตัดสินใจหลักเป็นของหัวหน้างาน สอง ในทุกๆ ตำแหน่ง เราต้องพยายามจ้างคนที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับงานนั้น ไม่ใช่คนที่แค่พอทำได้ สาม Netflix พร้อมจะบอกลาทุกคน แม้แต่คนเก่งๆ หากทักษะความสามารถของเขาไม่เหมาะสมกับงานที่ต้องทำอีกต่อไป นี่คือกฎสามข้อเล็กๆ เท่านั้นการ บริหารแบบ Netflix ที่แท้จริงเป็นอย่างไร มาดูกันเลย จ้างแต่คนเก่งระดับท็อป การรักษาพนักงานไว้ในองค์กร ไม่ใช่วิธีที่ดีในการวัดความสำเร็จหรือสร้างทีม ตัววัดไม่ควรจะขึ้นอยู่กับว่าบริษัทสามารถเก็บพนักงานไว้ได้กี่คน แต่ขึ้นอยู่ที่ว่ามีคนเก่งผู้ทักษะและประสบการณ์อย่างที่บริษัทต้องการอยู่กี่คนต่างหาก และจะสามารถรักษาพวกเขาไว้ได้มากแค่ไหน Netflix ใส่ใจเป็นพิเศษเรื่องการประเมินคนที่ต้องถูกเปลี่ยนตัวอย่างเข้มข้นและจริงจิงมาก และยังจัดการกับการตัดสินใจนั้นอย่างมีประสิทธิภาพด้วย   งานดีไม่ได้ดูที่ผลประโยชน์อย่างเดียว ที่ Netflix มีตู้แช่เบียร์ประจำแผนก รวมไปถึงชิงช้ากับเปลญวนอยู่ตามจุดต่างๆ ในบริษัทด้วย เคยมักพนักงานสงสัยว่าทำไม Netflix ถึงมีสิ่งที่เอื้ออำนวยกับการพักผ่อนเยอะขนาดนี้ Netflix ได้ให้คำอธิบายว่า การที่พนักงานมีความสุขมันวิเศษแน่นอน แต่ที่ดีที่สุดสำหรับตัวพวกคุณและบริษัทก็คือ ถ้าพวกคุณมีความสุข นั่นก็เพราะว่าคุณทำผลงานได้ยอดเยี่ยมและได้ทำงานร่วมกับคนที่ยอดเยี่ยมต่างหาก […]

วิธีวางตัวให้เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ไปอยู่ที่ไหน ใครๆ ก็ชอบ

การพยายาม เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน มากเกินไป อาจทำให้คุณกลายเป็นคนที่ไม่มีใครชอบขี้หน้าได้ง่ายๆ วิธีที่จะมัดใจเพื่อนร่วมงานได้อยู่หมัดที่สุดก็ต้องเป็นการเพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเอง คนมีเสน่ห์ไม่เหมือนกับการเป็นคนมีไหวพริบ ตลก มนุษยสัมพันธ์ดี หรือหน้าตาดี ที่จริงแล้วคนที่มีเสน่ห์มากๆ บางคนก็เป็นคนเงียบๆ และขี้อายด้วยซ้ำ ดังนั้นอย่ากังวลไปหากคุณเป็นคนพูดน้อยหรือขี้อาย มาดูวิธีวางตัวให้ เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน กันว่าต้องทำอย่างไร   เป็นคนที่ทำให้ทุกคนรู้สึกมีค่า คุณอาจไม่ใช่คนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี ชอบเข้าสังคม หรือตลกโดยธรรมชาติ การพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเช่น “เฟิร์น ช่วงนี้งานหนักมั้ย” หรือ “ฟาง เสียใจจังที่เธอไปปาร์ตี้ไม่ได้วันนี้ ครั้งหน้าห้ามพลาดนะ” จะทำให้เพื่อนร่วมงานสัมผัสถึงความใส่ใจและเอาใจใส่ แม้จะแค่คำพูดเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม บุคลิกที่อบอุ่นและความสามารถในการเป็นที่ชื่นชอบของคุณจะทำให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกอยากคุยกับคุณ อยากแบ่งปันบางสิ่งกับคุณ และอยากให้ความช่วยเหลือเมื่อคุณต้องการ   ชอบคนอื่นให้มาก แล้วเขาจะชอบคุณกลับ ความมีเสน่ห์อย่างแท้จริงเป็นสิ่งที่หายากได้บรรยากาศการทำงานในออฟฟิศ คุณจึงมีโอกาสสูงที่จะสร้างความแตกต่างให้กับตัวเองได้โดยขึ้นอยู่กับทักษะและนิสัยการเข้ากับคนอื่นของคุณ ขอให้จงระลึกอยู่เสมอว่า ไม่มีอะไรจะบั่นทอนเสน่ห์ได้มากไปกว่าการพยายามทำตัวมีเสน่ห์มากเกินไป ถ้าคุณเคยเจอเพื่อนร่วมงานที่พยายามจะ “เข้ากับคุณ” ให้ได้มากเกินไปเพราะหวังให้คุณไว้ใจและเชื่อมันในตัวเขา คุณคงรู้ว่ามันทำให้คุณอยากออกห่างมากแค่ไหน จงพยายามให้มากขึ้นเพื่อเป็นที่ชื่นชอบ แต่อย่าทำให้เหมือนดูว่าคุณ “พยายาม” มากจนเกินไป คุณรู้สึกอย่างไรกับเพื่อนร่วมงาน นี่เป็นคำถามที่ควรถามตัวเองบ่อยๆ ถ้าโดยทั่วไปแล้วคุณรู้สึกรำคาญหรือหงุดหงิด และรู้สึกเป็นลบกับเขา คุณก็ยิ่งต้องพยายามมากกว่าปกติในการบริหารเสน่ห์ […]

แจ้งเตือนการใช้งานคุกกี้ เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีที่สุด ได้แก่ คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ และคุกกี้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ศึกษารายละเอียดและการตั้งค่าคุกกี้เพิ่มเติมเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่านได้ใน นโยบายคุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า