[ทดลองอ่าน] Drunk on You (th) เพราะนายคือ AWM ของฉัน ตอนที่ 1

AWM 绝地求生
Drunk on You (th) เพราะนายคือ AWM ของฉัน

 

 

漫漫何其多 ม่านม่านเหอฉีตัว เขียน
จิ้งจอกธารา แปล

 

— โปรย —

ฉีจุ้ย หรือ Drunk เทพแห่งวงการอีสปอร์ต
กัปตันทีมนักแม่นปืนผู้วางแผนเกมเป็นเลิศ
หากเขาได้ปืนสไนเปอร์ปีศาจอย่าง AWM มาครอบครอง
ศัตรูที่หมายตาย่อมไม่มีทางหลุดรอด
ทว่าอวี๋หยาง หรือ Youth หนุ่มนักแข่งอีสปอร์ตสุดน่ารัก
ผู้เป็นดุจปืน AWM หายากและเสนล้ำค่าของเทพฉี
กลับมาหลอกให้เขารักแล้วหักอกกันซะได้
แทนที่อีกฝ่ายทำร้ายใจเขาแล้วจะหนีไปให้ไกล
กลับพาตัวเองเข้ามาอยู่ในสโมสรเดียวกับเขาเสียอย่างนั้น
คราวนี้มีหรือฉีจุ้ยจะปล่อยให้อีกฝ่ายหลุดรอดไปได้
ไม่ว่าจะปืนหรือคนก็ต้องเป็นของเขาเพียงผู้เดียว

 

———————————————————–

 

ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายหนังสือได้ที่เพจ Rose Publishing

…XOXO…

มาดามโรส

ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์

 

1

 

เวลาบ่ายสองโมง ณ บ้านแคมป์สโมสร HOG สาขาเกม PUBG ในเมืองหมัว[1] กัปตันทีมหนึ่งสวมเสื้อยูนิฟอร์มทีมคลุมเหนือไหล่ ในมือถือกระบอกน้ำ สวมรองเท้าแตะ เดินลากเท้าลงมายังชั้นล่างอย่างไม่รีบร้อนผ่านกำแพงเกียรติยศ[2]ซึ่งทอดยาวเต็มพื้นที่ทั้งสามชั้นอาคาร มีถ้วยรางวัลและเหรียญรางวัลจำนวนนับไม่ถ้วนฝังโชว์ไว้ข้างใน กว่าครึ่งหนึ่งในนั้นสลักไอดีเกมของกัปตันทีมหนึ่ง ‘Drunk’

Drunk หรือฉีจุ้ย[3] ผู้ครองอันดับหนึ่งบนตารางจัดอันดับซูเปอร์สตาร์นักแข่งอีสปอร์ตรุ่นปัจจุบันของจีน เดิมเป็นกัปตันทีมเกมครอสไฟร์[4]ของสโมสร HOG และเคยนำทีมเข้าร่วมการแข่งครอสไฟร์ระดับโลกติดต่อกันถึงสามปีซ้อน ทั้งยังไม่พลาดคว้าแชมป์โลกได้อย่างมั่นคงทั้งสามปี ในยุคที่ฉีจุ้ยเรืองอำนาจอย่างน่ากลัวเช่นนี้ ทีมแข่งจากยุโรป อเมริกาเหนือ และเกาหลีใต้ ทำได้เพียงแย่งชิงตำแหน่งรองแชมป์ ไม่อาจโค่นแชมป์ลงได้จวบจนปัจจุบัน

เพราะมีชื่อเสียงมาตั้งแต่ยุคแรก และอยู่ในวงการอีสปอร์ตมายาวนาน หลายปีนี้ฉีจุ้ยจึงมีสมญานามมากมายนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเทพฉี เทพเจ็ด[5] จุ้ยปากตะไกร หัตถ์ขวาแห่งพระเจ้า แสงสว่างแห่งอีสปอร์ต…ทุกชื่อที่กล่าวมานี้ล้วนหมายถึงเขา

แต่ไม่ว่าเกียรติประวัติจะมากมายแค่ไหน พอกลับมาถึงบ้านแคมป์ ฉีจุ้ยก็เป็นแค่เด็กติดเกมหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งเท่านั้น

เด็กโข่งติดเกมวัยยี่สิบห้าปียืนอยู่นอกกำแพงกระจกของห้องซ้อมที่ชั้นหนึ่งในบ้านแคมป์ บิดเปิดฝากระบอกน้ำด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกแล้วดื่มน้ำอุ่นหนึ่งอึก

ห้องซ้อมชั้นหนึ่งเป็นพื้นที่ฝึกฝนสำหรับนักแข่งรุ่นเยาว์และสมาชิกทีมสอง เด็กๆ เหล่านี้อายุเฉลี่ยไม่ถึงสิบแปดปี ความแข็งแกร่งของสภาพจิตใจอยู่ในระดับทั่วไป แถมยังเป็นแฟนตัวยงของฉีจุ้ยกันเกือบทุกคน จึงทั้งนับถือและเกรงกลัวเขามาก พอหางตาเหลือบมาเห็นฉีจุ้ยยืนอยู่ด้านนอกก็เหมือนถูกเข็มทิ่มฉึกเข้ากลางหลัง รีบยืดตัวนั่งหลังตรงแหน็วกันถ้วนหน้า เสียงเคาะคีย์บอร์ดแทบจะพร้อมเพรียงเป็นจังหวะเดียวกัน

สายตาของฉีจุ้ยจดจ้องอยู่ที่คนเพียงคนเดียว คนคนนั้นนั่งหันหลังให้เขา ร่างผอมบางถูกเก้าอี้เกมมิ่งตัวใหญ่บังจนมิด จากตำแหน่งที่ฉีจุ้ยยืนอยู่จึงเห็นเพียงลำแขนเพรียวยาวของอีกฝ่าย ชายหนุ่มยืนมองอยู่ครู่หนึ่งก็หมุนปิดฝากระบอกน้ำ แล้วกลับหลังหันเดินขึ้นไปชั้นบน

HOG เป็นสโมสรแนวหน้าในวงการอีสปอร์ต ยิ่งเป็นทีมเกม PUBG ด้วยแล้ว ทุกคนต่างรู้ดีว่าเป็นทีมที่ทรงอิทธิพลและทุนหนากว่าทุกทีม บ้านแคมป์ของทีมเป็นทาวน์โฮมริมแม่น้ำหวงผู่ ความสูงสามชั้น ชั้นหนึ่งรวมมิตรทุกสิ่งอย่างตั้งแต่ห้องซ้อม ห้องครัว และห้องอาหาร ชั้นสองเป็นหอพักของสมาชิกทีมทั้งหมดรวมถึงทีมงานและห้องนั่งเล่นรวม ส่วนชั้นสามซึ่งออกแบบไว้ดีที่สุดและรับแสงธรรมชาติได้ดีที่สุด มอบให้เป็นพื้นที่สำหรับสมาชิกสี่คนของทีมหนึ่งโดยเฉพาะ

ฉีจุ้ยเดินขึ้นชั้นบน มุ่งหน้าไปยังห้องซ้อมส่วนตัวของทีมหนึ่งซึ่งอยู่บนชั้นสาม ปู่น่าน่า ผู้เล่นตำแหน่งจู่โจมของทีมหนึ่งอยู่ในห้องก่อนแล้ว และกำลังตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์เฉพาะ[6]สำหรับตารางซ้อมบ่ายนี้ ฉีจุ้ยเดินไปที่โต๊ะประจำตัว ถอดเสื้อนอกพาดไว้บนเก้าอี้เกมมิ่ง ก่อนจะกวาดตามองไปรอบห้อง “เหล่าข่ายกับเฉี่ยนซีล่ะ”

เหล่าข่ายและอวี๋เฉี่ยนซี คือสมาชิกอีกสองคนของทีมหนึ่ง

“เมื่อคืนเหล่าข่ายนั่งดูรีเพลย์[7]แมตช์ซ้อมแข่งถึงสิบโมงเช้า เพิ่งได้นอนเมื่อกี้เอง ส่วนเฉี่ยนซี…” ปู่น่าน่าตาจ้องหน้าจอ มือพิมพ์พลางพูดไปด้วยว่า “เมื่อวานเห็นเขาไลฟ์สตรีมอยู่นะ เหมือนจะไลฟ์ถึงแปดโมงเช้าเลยละ คงยังไม่ตื่น”

ฉีจุ้ยขมวดคิ้ว “ต้องคุมเวลาไลฟ์สตรีมอย่างเข้มงวด ห้ามกระทบตารางซ้อม…”

“เฮ้อ! กฎพวกนั้นมีไว้ขู่เด็กๆ ชั้นล่างโน่น อวี๋เฉี่ยนซีเพิ่งเซ็นสัญญาไลฟ์สตรีมได้ไม่นาน คงกำลังรีบสร้างฐานแฟนคลับน่ะ” ปู่น่าน่าเป็นหนุ่มอ้วนอารมณ์ดี เขายิ้มพลางพยายามพูดไกล่เกลี่ย “เขาก็ไม่ได้อยู่ว่างๆ หรอกนะ ฉันดูไอดีเขาแล้ว รักษาอันดับคะแนนได้ดีเลย แถมซ้อมเองส่วนตัวอยู่บ่อยๆ อย่าจุกจิกเรื่องนี้เลยน่า นายคิดว่าทุกคนจะเหมือนนายหรือไง นอนกินค่าพรีเซนเตอร์อย่างเดียวก็ได้เงินหลักสิบล้านต่อปีสบายๆ”

ฉีจุ้ยทำท่าจะพูดอะไรอีก แต่ปู่น่าน่ารีบเปลี่ยนเรื่อง “เลิกพูดเรื่องเขาเถอะ ว่าแต่ช่วงนี้วันๆ นายทำอะไรบ้างเนี่ย เห็นอยู่ชั้นล่างทั้งวัน ไปส่องอะไรเหรอ ฉันได้ยินมาว่ากัปตันทีมสองไปฟ้องผู้จัดการ เขาบอกว่าจู่ๆ นายก็โผล่ไปรบกวนการฝึกซ้อมของทีมสอง ทำตัวอย่างกับเป็นผู้อำนวยการฝ่ายปกครอง ยืนจ้องอยู่นอกห้องซ้อมของพวกเขาแบบไม่ละสายตาเลย พวกเด็กๆ กลัวนายจนฉี่จะเล็ดอยู่แล้ว เมื่อกี้ผู้จัดการมาขอให้ฉันช่วยปรามนายหน่อย บอกให้นายอยู่ห่างๆ จากพวกแฟนคลับของนายบ้าง ถ้าไม่มีธุระอะไรก็อย่าไปทำลายระบบนิเวศของชั้นหนึ่งเลย”

ฉีจุ้ยหัวเราะแล้วกลับไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง

“ไหนบอกมาซิ นายไปส่องอะไรกันแน่” ปู่น่าน่าตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์เรียบร้อยแล้ว หลังจากส่งรหัสผ่านให้ทุกคนเสร็จ ก็ใช้มือดันโต๊ะไถลเก้าอี้เกมมิ่งมาหยุดอยู่ข้างฉีจุ้ย “หรือนายรู้จักใครในกลุ่มนักแข่งรุ่นเยาว์ที่มาใหม่”

ฉีจุ้ยเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์กดเข้าเซิร์ฟเวอร์เฉพาะ แล้วสุ่มหยิบปืนมาสองกระบอกเพื่ออุ่นเครื่อง “ใช่”

“จริงดิ” ปู่น่าน่าประหลาดใจมาก “ใครกัน”

ฉีจุ้ยหยิบอุปกรณ์เสริมสองสามชิ้นประกอบเข้ากับลำปืน ใส่กระสุนพลางตอบด้วยเสียงราบเรียบ “อวี๋หยาง”

“Youth งั้นเหรอ” ปู่น่าน่าประหลาดใจมาก “คนนี้ฉันเคยได้ยินชื่อ ฉายา Youth ชื่อจริงว่าอวี๋หยาง ดังอยู่นะ ดูเหมือนจะติดท็อปเท็นของเซิร์ฟเวอร์เอเชียต่อเนื่องกันมาสามเดือนแล้ว แถมเดือนนี้ไต่ขึ้นอันดับหนึ่งตั้งหลายรอบ ฉันเองก็ประหลาดใจเหมือนกันที่เขามาเข้าทีมรุ่นเยาว์ของพวกเรา เหมือนเฉี่ยนซีจะเป็นคนทาบทามมานะ ฉันเคยดูเขาแข่งด้วย เล่นเดี่ยวเก่งมากจริงๆ แต่ได้ยินว่าไม่ค่อยเข้าขากับใครเท่าไหร่ เหมือนจะค่อนข้างเก็บตัว พวกคนในทีมสองยังแอบกลัวเขาหน่อยๆ ด้วยซ้ำ…นายรู้จักเขาได้ยังไงน่ะ ญาติกันเหรอ หรือเพื่อนฝากให้ดูแล”

ฉีจุ้ยเปิดโหมดฟูลออโต้[8] มือขวาคุมปืนไว้อย่างมั่นคงเพื่อลดแรงดีด รอยกระสุนจากกระสุนหนึ่งแมกกาซีนที่ยิงออกไปเกาะอยู่ในตำแหน่งเดียวกันแทบทั้งหมด หลังจากยิงหมดไปสองแมก ฉีจุ้ยก็ปล่อยเมาส์แล้วนวดข้อมือขวาอย่างเบามือ พลางพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ ว่า “ไม่ใช่ญาติ แฟนเก่าน่ะ”

ปู่น่าน่าอึ้งไปชั่วครู่ แต่ดีร้ายอย่างไรเขาก็ผ่านอะไรมาเยอะ ประกอบกับรู้เรื่องรสนิยมทางเพศของฉีจุ้ยซึ่งปิดเป็นความลับจากคนนอกอยู่แต่แรก จึงไม่ตกใจเท่าไรนัก แค่ประหลาดใจนิดหน่อย “นี่…นี่เรื่องตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

ปู่น่าน่าเป็นเพื่อนร่วมทีมเก่าแก่ของฉีจุ้ย หลายปีมานี้ตัวผูกติดกันแทบตลอดเวลา ยกเว้นช่วงวันหยุดซึ่งหนึ่งปีมีแค่ไม่กี่วัน ปู่น่าน่านึกไม่ออกเลยจริงๆ ว่าฉีจุ้ยไปหาแฟนเก่ามาจากที่ไหน

“เรื่องตั้งแต่ปีที่แล้วน่ะ” ฉีจุ้ยบิดเปิดฝากระบอกน้ำ ดื่มน้ำหนึ่งอึกแล้วพูดต่อ “ช่วงหนึ่งเดือนที่ฉันไปเป็นโค้ชในงานแข่งเฟลมคัพ”

‘เฟลมคัพ’ เป็นงานแข่งออฟไลน์[9]ของนักแข่งรุ่นเยาว์ซึ่งสโมสรหลายแห่งในประเทศจีนร่วมมือกันจัดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว มีเป้าหมายเพื่อคัดสรรนักแข่งรุ่นเยาว์ที่มีความสามารถโดดเด่น เฟ้นหาหน้าใหม่เข้าสู่วงการอีสปอร์ต ทีมสโมสร HOG ของฉีจุ้ยไม่เคยรับลูกทีมจากงานแข่งลักษณะนี้ เจ้าภาพจึงขอให้สโมสรของพวกเขาส่งตัวแทนมาเป็นโค้ชในงานเพื่อความยุติธรรม

ฉีจุ้ยกับอวี๋หยางจึงได้รู้จักกันในช่วงเวลาหนึ่งเดือนนั้น

ตอนนั้นอวี๋หยางไม่ได้เป็นคนดังอะไร แต่ฉีจุ้ยสังเกตเห็นเขาตั้งแต่แวบแรก

ไม่ใช่เพราะเหตุผลอื่นเลย เพียงแต่อวี๋หยางหน้าตาดีเกินไป พออยู่ท่ามกลางเหล่าโอตาคุย่อมเป็นจุดสังเกตได้ไม่ยาก

แน่นอนว่าฉีจุ้ยไม่ได้มองคนผิวเผินขนาดนั้น ที่เขารู้สึกหวั่นไหวเพราะอวี๋หยางเก่งมากจริงๆ ต่างหาก

เก่งขนาดที่ว่า ระหว่างแมตช์กระชับมิตรเพื่อความบันเทิงในวันแรกของงานแข่งออฟไลน์ เขาเกือบเอาชนะฉีจุ้ยที่เพิ่งดื่มมาได้

วันนั้นสปอนเซอร์หลายรายชวนฉีจุ้ยร่วมโต๊ะอาหาร เขาไม่อาจปฏิเสธน้ำใจจึงดื่มไปสองแก้ว ฉีจุ้ยซึ่งคออ่อนขั้นรุนแรงจนน่าโมโห หลังจากไวน์แดงลงท้องไปเพียงสองแก้ว ความฉับไวในการตอบสนองพลันดิ่งลงเป็นกราฟเส้นตรง จึงถูกอวี๋หยางไล่บี้จนแทบไม่รอดในแมตช์กระชับมิตรเย็นวันนั้น แต่สุดท้ายฉีจุ้ยก็เอาชนะมาได้อย่างเฉียดฉิว

หลังจากนั้น…

ฉีจุ้ยคร้านจะนึกถึงเรื่องในอดีตแล้ว

“เล่ามาเร็วเข้า!” ปู่น่าน่าร้อนใจ “แล้วเลิกกันได้ไง ขอแบบละเอียดยิบ สร้างความบันเทิงให้ฉันหน่อยนะ”

“…” ฉีจุ้ยเหลือบตาขึ้นมองปู่น่าน่าเล็กน้อย เรื่องมันยาวเกินกว่าจะเล่าจบได้ง่ายๆ “ช่วยรู้จักเห็นใจคนอื่นหน่อยเถอะ”

“เล่าๆ มาเหอะน่า” ปู่น่าน่าอยากรู้จริงๆ “ฉันนึกว่าเดรัจฉานเฒ่าอย่างนายจะเลิกทำนิสัยต่ำตมแบบนั้นแล้ว นายมันแน่! เก็บความลับเก่งนัก แอบมีรักต่างวัยลับหลังพวกเรา!”

“รักต่างวัยแม่นายสิ” ฉีจุ้ยหลบมืออวบอ้วนของปู่น่าน่า “ตอนนั้นเขาบรรลุนิติภาวะแล้ว…เด็กกว่าฉันหกปี”

“อย่าเปลี่ยนประเด็น” ปู่น่าน่ากัดไม่ปล่อย ท่าทางตื่นเต้นสุดขีด “ไปคบกันได้ยังไง ฉันได้ยินมาว่าเขานิสัย…อธิบายยังไงดีล่ะ…ระเบิดอารมณ์ง่ายแบบแตะไม่ได้เลย เหมือนเป็นเม่นอะไรทำนองนั้น”

ฉีจุ้ยเคาะคีย์บอร์ดอย่างเบามือพลางส่ายหน้า “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ถ้าสนิทกันแล้วจะรู้ว่าเขานิสัยดีมาก แค่เขินง่ายไปหน่อย…”

เจ้าภาพงานเฟลมคัพจัดสวัสดิการและการดูแลต่างๆ อย่างดีทีเดียว ช่วงนั้นเป็นฤดูร้อน ทุกวันนอกจากจะมีของหวานเป็นผลไม้สดนานาชนิดแล้ว หลังมื้อเย็นยังแจกไอศกรีมฮาเก้น-ดาสให้นักแข่งคนละสองถ้วยด้วย ตอนนั้นฉีจุ้ยแค่พูดลอยๆ ว่าอร่อยดี ปรากฏว่าหลังจากวันนั้นเป็นต้นมา อวี๋หยางก็แอบเอาไอศกรีมส่วนของตัวเองมาวางไว้ที่ห้องของฉีจุ้ยทุกวัน จนวันหนึ่งฉีจุ้ยบังเอิญเจอเข้า แต่ไม่ทันเอ่ยปากพูดอะไร อวี๋หยางก็หน้าแดงแจ๋ตกใจและวิ่งหนีไปเสียก่อน

“แล้วเลิกกันได้ยังไง” เจ้าอ้วนปู่น่าน่าเป็นพวกไร้มนุษยธรรมจึงไม่เห็นใจคนถูกถามเลยสักนิด ยังมีหน้าซักไซ้ต่ออย่างตื่นเต้น “ถ้าเขาดีขนาดนั้นจะเลิกกันทำไมล่ะ”

“นายจะสนใจไปทำไม” ฉีจุ้ยสลับปืน เกมอัปเดตแพตช์[10]ใหม่ ปืนที่เขาใช้ประจำถูกปรับคุณสมบัติให้ต่างออกไป ฉีจุ้ยจึงต้องฝึกซ้อมเพื่อจับความรู้สึกของแรงดีดปืนที่เปลี่ยนไปจากเดิม ระหว่างนั้นก็ตอบแบบขอไปทีว่า “เข้ากันไม่ได้ก็เลิก”

เฒ่าฉีดิบเถื่อน[11] ปากร้าย ไร้ศีลธรรม ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นคนนิสัยดี แต่จะให้เขาทำเรื่องต่ำช้าอย่างนินทาอดีตแฟน เขาทำไม่ลง

อีกอย่าง…ฉีจุ้ยยังต้องรักษาศักดิ์ศรีในฐานะไอดอลไว้บ้าง ดังนั้นจึงไม่อาจเล่าสาเหตุที่เลิกกันได้

อวี๋หยางมีทักษะการมองเห็นวัตถุขณะเคลื่อนไหวที่โดดเด่นมาก เซนส์ดี ตอบสนองรวดเร็ว และประเมินสถานการณ์แม่นยำ จึงผ่านแมตช์ในการแข่งเฟลมคัพทั้งหมดมาได้อย่างราบรื่น พอถึงเวลาวิเคราะห์การเล่นหลังแข่ง ฉีจุ้ยเอ่ยชมอีกฝ่ายเสียใหญ่โต ถึงขั้นที่ว่าตอนนี้เมื่อมองย้อนกลับไปยังรู้สึกตลกตัวเองอยู่หน่อยๆ และในที่สุดอวี๋หยางก็คว้าอันดับหนึ่งในการแข่งปีนั้นอย่างง่ายดาย

ในงานเลี้ยงฉลองหลังจบการแข่ง ฉีจุ้ยฉวยโอกาสตอนที่อวี๋หยางยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมสโมสรไหน แอบเรียกมาเจอเป็นการส่วนตัวที่โถงทางเดิน และถามอีกฝ่ายว่าสนใจเข้าสโมสรของเขาไหม

วันนั้นอวี๋หยางดื่มเหล้าไปนิดหน่อย แก้มเป็นสีชมพูระเรื่อ เห็นแล้วชวนหลงเกินต้าน ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ทั้งสองแทบไม่มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง แม้แต่จับมือยังไม่เคยสักครั้ง จังหวะนั้นฉีจุ้ยเกิดอารมณ์ชั่ววูบ ไม่ทันพูดอะไรก็จับร่างของอีกฝ่ายผลักเข้าชิดกำแพงตรงทางเดิน

ตอนนั้นเองที่ฉีจุ้ยตระหนักได้ว่า เขาโดนหลอกตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา

ใบหน้าของอวี๋หยางเปลี่ยนเป็นซีดขาวในฉับพลัน ทั้งร่างสั่นเทิ้มด้วยความรู้สึกฝืนกลั้น สองมือที่สอดประสานกับนิ้วทั้งสิบของฉีจุ้ยเย็นเฉียบเหมือนน้ำแข็ง จังหวะที่ฉีจุ้ยไม่ทันตั้งตัว อวี๋หยางก็ผลักเขาเต็มแรง แววตาเต็มไปด้วยความหวาดระแวงและตื่นตระหนก

ปฏิกิริยาของอวี๋หยางไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสักนิด นี่คือความรังเกียจที่ชายแท้แสดงออกต่อชายรักเพศเดียวกันซึ่งฉีจุ้ยคุ้นเคยอย่างที่สุด

ฉีจุ้ยอึ้งไปชั่วครู่ ก่อนจะแบมือทั้งสองข้างเป็นสัญญาณว่าจะไม่รุกล้ำมากไปกว่านี้

เขาถามอวี๋หยางด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า รับไม่ได้เหรอ

ใบหน้าของอวี๋หยางมีเหงื่อเย็นผุดพราย ใช้เวลานานทีเดียวกว่าดวงตาทั้งสองจะปรับโฟกัสได้เป็นปกติ แล้วพยักหน้าน้อยๆ อย่างเลื่อนลอย

ฉีจุ้ยหลุดหัวเราะ จากนั้นพักหนึ่งก็คลี่ยิ้มแล้วพูดว่า นายมีพรสวรรค์ขนาดนี้ งานแข่งพวกนี้ต่อให้ไม่มีฉันก็ชนะได้ ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองมาเล่นอะไรแบบนี้กับฉัน

อวี๋หยางมองฉีจุ้ยด้วยแววตางุนงง เหมือนไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังพูดอะไร

ฉีจุ้ยไม่คิดอยากวอแวกับอีกฝ่าย หลายปีมานี้เขาชินกับการเป็นที่เทิดทูนบูชาของทุกคน แต่นี่คือครั้งแรกที่หัวใจเขารู้สึกหวั่นไหว ไม่นึกเลยว่าจะถูกอีกฝ่ายหลอกปั่นหัว ตอนนี้แค่รักษาท่าทีให้เยือกเย็นอยู่ได้ก็นับว่าเก่งมากแล้ว ฉีจุ้ยคว้าโทรศัพท์มือถือของอวี๋หยางมา จัดการบล็อกและลบข้อมูลการติดต่อทุกอย่างของตัวเองต่อหน้าเด็กหนุ่ม ก่อนจะโยนคืนและเดินจากไปในทันที

หลังจบงานแข่งเฟลมคัพ ฉีจุ้ยนำทีมไปแข่งที่อเมริกาเหนือ เขาแข่งอยู่สองเดือนเต็มถึงได้กลับจีน หลายเดือนหลังจากนั้นก็บังเอิญได้ข่าวว่าอวี๋หยางยังไม่ได้เซ็นสัญญากับสโมสรไหนเลย ต่อมายังได้ข่าวอีกว่าเขาเปลี่ยนชื่อไอดีมาใช้ชื่อว่า Youth อย่างเป็นทางการ และต่อจากนั้นถ้าจะฝืนหาสิ่งที่เชื่อมโยงระหว่างพวกเขา ก็คงเป็นการเจอกันบนตารางจัดอันดับตามเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ ของเกม PUBG

แต่ถ้าเป็นการปฏิสัมพันธ์ซึ่งหน้า คงต้องบอกว่าพวกเขาไม่ได้เจอกันเลยจนกระทั่งเดือนที่แล้ว ฉีจุ้ยว่างจนเบื่อเลยไปดูคะแนนของนักแข่งรุ่นเยาว์ที่เพิ่งเข้ามาในทีม และบังเอิญเห็นชื่อที่คุ้นเคยชื่อนี้เข้าโดยไม่คาดคิด

ฉีจุ้ยไม่เข้าใจเลยจริงๆ อวี๋หยางคิดว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษขั้นสุดหรือคิดว่าเขาโง่บรมกันแน่ ถึงกล้าพาตัวเองมาเซ็นสัญญากับ HOG โดยไม่กลัวจะถูกเขากลั่นแกล้ง

ฉีจุ้ยปล่อยเมาส์แล้วหันไปมองปู่น่าน่า “เมื่อกี้นายบอกว่าเฉี่ยนซีเป็นคนชวนอวี๋หยางเข้ามางั้นเหรอ”

“ก็ใช่น่ะสิ” ปู่น่าน่าพยักหน้า “เรื่องนี้ชัวร์ป้าบ ดูเหมือนเขาสองคนจะสนิทกันนะ ฉันเห็นเขาไปหาอวี๋เฉี่ยนซีตั้งหลายรอบ”

ฉีจุ้ยยิ้มหยัน

ปู่น่าน่าเห็นดังนั้นก็งุนงง “ยิ้มเยาะอะไรของนาย”

ฉีจุ้ยส่ายหน้าไม่ตอบ เขาสวมหูฟังแล้วขบฟันเบาๆ…

ผ่านไปแค่ปีเดียว เด็กชั่วนั่นคิดจะใช้แผนเดิมเข้าหาอวี๋เฉี่ยนซีอีกงั้นเหรอ

น่าเสียดายนะ เพราะอวี๋เฉี่ยนซีน่ะเป็นชายแท้เสียยิ่งกว่าแท้

แถมยังเป็นชายแท้ที่เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว คิดจะหลอกใช้อวี๋เฉี่ยนซีงั้นเหรอ…เขาว่าอวี๋หยางจะเป็นฝ่ายถูกบดขยี้จนไม่เหลือซากเสียเองมากกว่า

ฉีจุ้ยซ้อมยิงปืนอีกพักหนึ่ง ก่อนจะเลื่อนเมาส์กดออกจากเกมแล้วลุกขึ้นยืน “ฉันว่านัดซ้อมรอบนี้คงต้องรอไปอีกชั่วโมง งั้นฉันไปห้องนั่งเล่นก่อนนะ ถ้าอวี๋เฉี่ยนซีตื่นแล้วนายบอกให้เขามาหาฉันหน่อย ฉันมีธุระจะคุยด้วย”

ห้องนั่งเล่นของทีมมีอุปกรณ์ออกกำลังกายอยู่ประมาณหนึ่ง เช่นพวกลู่วิ่งต่างๆ แต่การแข่งอีสปอร์ตไม่ต้องฝึกกำลังกาย ของพวกนี้จึงวางทิ้งไว้เฉยๆ นานวันเข้าห้องนั่งเล่นจึงกลายเป็นห้องที่กัปตันฉีใช้เรียกสมาชิกไปอบรมเป็นการส่วนตัว

ปู่น่าน่าได้ยินเช่นนั้นก็รู้ทันที “คิดจะทำอะไร จะด่าเขาอีกแล้วเหรอ! ช่วงนี้เฉี่ยนซีก็แค่ไลฟ์สตรีมเยอะไปหน่อย ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีนี่”

“ไม่ต้องตกใจไป ไม่ได้จะด่าเขา แค่มีเรื่องไม่เข้าใจนิดหน่อยเลยอยากถามน่ะ” ฉีจุ้ยหยิบโทรศัพท์มือถือ “ฉันไปวิ่งแป๊ปนึง อย่าลืมบอกให้เขามาหาฉันล่ะ”

 

 

[1] เมืองหมัว หรือหมัวตู อีกชื่อหนึ่งของเมืองเซี่ยงไฮ้

[2] กำแพงที่จัดแสดงรางวัลหรือรายชื่อของผู้ที่ได้รับรางวัล บางครั้งเรียกว่ากำแพงแชมเปียนส์ (Wall of Champions)

[3] คำว่า ‘จุ้ย’ ในชื่อ ‘ฉีจุ้ย’ แปลว่ามึนเมา จึงพ้องความหมายกับชื่อไอดีว่า Drunk

[4] CrossFire คือ เกมยิงปืนมุมมองบุคคลที่หนึ่งซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดเกมหนึ่ง ผู้เล่นรับบทเป็นทหารรับจ้างต้องต่อสู้กันในศึกความขัดแย้งระดับโลก เข้าร่วมทีมในรูปแบบออนไลน์และทำงานเป็นทีมเพื่อบรรลุเป้าหมายตามแต่ละโหมดที่กำหนดไว้ พร้อมทั้งสะสมแต้มเพื่อเลื่อนไปสู่แรงก์ที่สูงขึ้น

[5] เลขเจ็ดในภาษาจีนออกเสียงว่า ‘ชี’ คล้ายกับคำว่า ‘ฉี’ ในชื่อฉีจุ้ย

[6] Custom Server หรือ Private Server เซิร์ฟเวอร์ที่สามารถปรับแต่งค่าการใช้งานได้ตามความต้องการ สำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้เล่นเกม ผู้เล่นสามารถปรับแต่งองค์ประกอบต่างๆ ในการเล่นได้ตามต้องการ เช่น ปรับเปลี่ยนแผนที่และกฎในการเล่น จำกัดสิทธิ์ให้ผู้เล่นเฉพาะกลุ่มเข้าเล่นได้ จึงเหมาะสำหรับการใช้ฝึกซ้อมภายในทีม

[7] ศัพท์ในวงการอีสปอร์ต หมายถึง การย้อนดูวิดีโอการแข่งขันหรือการซ้อมของตัวเอง เพื่อวิเคราะห์หาข้อผิดพลาดและจุดแข็ง

[8] โหมดการยิงในเกม PUBG สามารถแบ่งได้ 3 โหมดหลักคือ ยิงทีละนัด เรียกว่า ซิงเกิล (Single) ยิงทีละ 2-3 นัด เรียกว่า เบิร์สต์ (Burst) และยิงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะปล่อยไกปืน เรียกว่า ฟูลออโต้ (Full Auto) แต่ละโหมดใช้กับปืนรูปแบบต่างกัน

[9] การแข่งอีสปอร์ตแบ่งเป็นสองรูปแบบหลัก 1. ออฟไลน์ คือทีมที่แข่งมารวมตัวแข่งในสถานที่ที่กำหนดไว้และแข่งกันแบบซึ่งหน้า 2. ออนไลน์ คือแต่ละทีมร่วมแข่งผ่านระบบออนไลน์ ไม่ต้องมารวมตัวกันในสถานที่จริง

[10] ไฟล์เสริมที่ผู้พัฒนาเกมทำออกมาเพื่อให้ผู้เล่นใช้อัปเดตเกมให้มีประสิทธิภาพหรือพัฒนามากยิ่งขึ้น

[11] อีกฉายาหนึ่งของฉีจุ้ย บางครั้งใช้คำว่า ‘เดรัจฉานเฒ่า’

Leave a Reply

แจ้งเตือนการใช้งานคุกกี้ เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีที่สุด ได้แก่ คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ และคุกกี้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ศึกษารายละเอียดและการตั้งค่าคุกกี้เพิ่มเติมเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่านได้ใน นโยบายคุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า