[ทดลองอ่าน] คุณชายซูเปอร์สตาร์แห่งวงการบันเทิง ตอนที่ 68

爱你怎么说
คุณชายซูเปอร์สตาร์แห่งวงการบันเทิง

 

风流书呆 เฟิงหลิวซูไต เขียน
ศีตกาล แปล
MOON วาด

 

— โปรย —

หลังจากภาพยนตร์เรื่อง สื่อถู ภาพยนตร์เรื่องแรกของ เซียวจยาซู่ เข้าฉาย
เขาก็ได้รับความนิยมขึ้นจนมีชื่อเสียง อีกทั้งยังได้ฉายาคู่ชิปพี่น้องกับราชาจอเงิน จี้เหมี่ยน
และดูท่าจะได้รับความเอ็นดูจากอีกฝ่ายมากขึ้นด้วย

ในระหว่างนั้นเซียวจยาซู่ก็ได้รู้ข่าวการคัดเลือกนักแสดงในภาพยนตร์ภาคต่อฟอร์มยักษ์ ฉงจู๋ต้าจ้าน
หนังสงครามอวกาศระหว่างแมลงปรสิตกับเผ่าพันธุ์อัจฉริยะที่เหลือรอด
ที่เขานั้นเป็นแฟนคลับหนังผู้เหนียวแน่น ไม่ว่าอย่างไรก็อยากเป็นส่วนหนึ่งในหนังเรื่องนี้
และผู้ที่ทำหน้าที่คัดเลือกนักแสดงก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นจี้เหมี่ยนนั่นเอง

งานนี้คุณชายเซียวผู้อยากคว้าบท CT001 หัวหน้าเอไอ เครื่องจักรสังหารไร้อารมณ์ความรู้สึก
ก็ของัดทุกสิ่งทุกอย่างที่มี โจมตีด้วยความงามเข้าไปให้อีกฝ่ายไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้

 

—.—.—.—.—.—.—.—.—.—

 

ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing

…XOXO…

มาดามโรส

 

ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์

 

บทที่ 68

มเหสีตำหนักใหญ่

 

การพูดคุยครึ่งหลังแทบจะไม่มีเรื่องของหลินเล่อหยางสักเท่าไร เมื่อไม่มีจี้เหมี่ยนคอยปกป้องทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง แม้แต่จะพูดแทรกหลินเล่อหยางก็ยังทำไม่ได้ กว่าจะมาถึงช่วงท้ายรายการจึงยากเย็นเหลือเกิน จนกระทั่งจู่ ๆ ผู้ดำเนินรายการก็พูดขึ้นว่า “จริงสิ ทุกคนอยากรู้หรือเปล่าครับว่าแขกรับเชิญสัปดาห์หน้าของเราเป็นใคร”

ถ้าว่ากันตามลำดับการดำเนินรายการ นี่คือการกระตุ้นให้รายการสัปดาห์หน้าคึกคักล่วงหน้า แขกรับเชิญบนเวทีและผู้ชมด้านล่างพากันตะโกนอย่างให้ความร่วมมือ “อยาก!”

“จะว่าไป แขกรับเชิญสัปดาห์หน้าก็มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าต้นอ่อนน้อยมาก ๆ พวกเขาละอยากให้ผมเชิญเจ้าต้นอ่อนน้อยมาออกรายการสัปดาห์หน้าด้วยกันเป็นพิเศษเสียด้วยซ้ำ” ผู้ดำเนินรายการยิ้มพลางถาม “ต้นอ่อนน้อย คุณพอจะเดาได้ไหมครับว่าเป็นใคร”

เซียวจยาซู่ส่ายหน้าซื่อ ๆ “ไม่รู้ครับ”

“ลองคิดดูดี ๆ สิครับว่าช่วงนี้กระแสในอินเทอร์เน็ตอะไรกำลังมาแรงที่สุด และเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคุณด้วย”

“ไม่ใช่ สื่อถู เหรอครับ” เซียวจยาซู่มองหลัวจางเหวยอย่างลังเล

“ลองคิดดูให้ดี ๆ สิครับ นอกจากสื่อถูแล้วคุณยังมีละครเรื่องอะไรอีก ตัวคุณเองน่ะไม่ได้ร่วมแสดงหรอก แต่ก็นับว่ามีส่วนร่วมแบบอ้อม ๆ ละนะ”

“อ้อ ผมรู้แล้ว อี๋เมิ่งไป่เหนียนกับเหลิ่งคู่ไท่จื่อเชี่ยวหวังเฟยใช่ไหมครับ!” ในที่สุดเซียวจยาซู่ก็นึกออก

ผู้ชมในห้องส่งพากันส่งเสียงอุทานด้วยความตกใจ ยังมีสาวน้อยหลายคนเกือบจะกระโดดลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น เพราะสองเรื่องนี้กำลังเป็นที่กล่าวขวัญมากในช่วงนี้ ฮ็อตฮิตจนโกลาหลกันไปหมด เนื่องจากสมัยนี้เว็บไซต์สำหรับรับชมวิดีโอและแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดนั้นพัฒนาไปมาก เว็บดราม่าสมัยนี้จึงกลายเป็นม้ามืดของธุรกิจการผลิตละครและภาพยนตร์ไปแล้ว ยอดการรับชมมากกว่าพวกช่องเคเบิลใหญ่ ๆ เสียอีก การเปิดตัวของอี๋เมิ่งไป่เหนียนและเหลิ่งคู่ไท่จื่อเชี่ยวหวังเฟยนั้นก็ยิ่งช่วยกระตุ้นให้ความนิยมเว็บดราม่าพุ่งแรงขึ้น ทำให้เว็บไซต์สำหรับรับชมวิดีโอที่ซื้อละครสองเรื่องนี้ไปทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ จำนวนสมาชิกพุ่งพรวดในคืนเดียว

ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ฉายจนถึงตอนนี้ เว็บดราม่าทั้งสองเรื่องก็มียอดเข้าชมทำลายสถิติไปแล้ว ถ้าวันนี้เรื่องแรกยอดแซงเรื่องที่สอง พรุ่งนี้เรื่องที่สองก็ยอดแซงเรื่องแรก เบียดกันขึ้นนำชนิดไม่ปล่อยให้เว็บดราม่าเรื่องอื่น ๆ ได้เหลือช่องหายใจ นานเข้าก็ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์ภาพยนตร์และซีรี่ส์ว่าเป็นเว็บดราม่าที่เป็นกระแสมากที่สุด และเรื่องอี๋เมิ่งไป่เหนียนยังเป็นเว็บดราม่าที่ปักธงต้นแบบซีรี่ส์รีเมคเอาไว้ได้อีกด้วย

ทำไมเว็บดราม่าสองเรื่องนี้ถึงดังขนาดนั้นน่ะเหรอ ถ้าจะวิเคราะห์กันอย่างละเอียดแล้ว ผู้ชมหลาย ๆ คนก็ไม่อาจบอกได้ชัดเจนนักหรอก ก็แค่ชอบ ก็แค่ดูแล้วติด จะทำอย่างไรได้ เรื่องอี๋เมิ่งไป่เหนียนนั้นนิยามได้แค่คำเดียวว่า…น่ารัก! น่ารักเกินมาตรฐาน น่ารักเกินอัตรา น่ารักเกินเนื้อหาทางเทคนิค! ทั้งที่เป็นแค่เจ้าก้อนน้อย ๆ มาแสดงละครกันแท้ ๆ แต่ทำออกมาได้อย่างมีชีวิตชีวา ฝีมือการแสดงก็เข้าถึงจิตวิญญาณ ดูแล้วทั้งยกย่องนับถือทั้งรู้สึกสนุกสนาน ดูจบตอนหนึ่งก็ยังตราตรึงในความรู้สึกอยู่นาน มีอะไรให้พูดถึงตลอด

ส่วนเหลิ่งคู่ไท่จื่อเชี่ยวหวังเฟยนั่นก็ ‘สุด’ ขึ้นไปอีก ทั้งที่เป็นละครย้อนยุค แต่การแต่งองค์ทรงเครื่องของนักแสดงแต่ละคนนั้นนำสมัยไม่แพ้กัน สีสันจัดจ้านใส่มาจัดเต็ม ที่จริงมันควรจะดูเฉิ่มเชยมาก แต่กลับกลายเป็นเทรนด์ใหม่ไปเสียอย่างนั้น รูปร่างหน้าตาพระเอกนางเอกก็จัดอยู่ในระดับที่เห็นแล้วต้องตกตะลึงพรึงเพริด แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีชื่อเสียงอะไร และการแสดงของพวกเขาจะยังไปไม่สุด แต่กลับสะกดสายตาผู้ชมได้อยู่หมัดทีเดียว

เนื้อเรื่องก็สนุกสนานมีชีวิตชีวามากเช่นกัน สนมที่เป็นชายแต่งตัวเป็นหญิง กับรัชทายาทที่เป็นหญิงแต่งตัวเป็นชาย ก่อนแต่งงานและหลังแต่งงานเกิดเรื่องราวชวนหัวและอบอุ่นหัวใจขึ้นมากมาย ผู้ชมจะมองว่าเป็นละคร BL (Boys’ Love) ก็ได้ หรือจะมองเป็นละคร GL (Girls’ Love) ก็ได้ หรือจะมองเป็นละครชายหญิงก็ยังได้ แทบจะตอบโจทย์รสนิยมได้ทุกประเภททีเดียว

ผู้ชมมากมายพากันบอกว่า ละครสองเรื่องนี้ดูแล้วติด ถ้าหลวมตัวไปดูแล้วไม่มีทางจะถอนตัวได้จนกว่าละครจะจบ ละครสองเรื่องนี้ฮ็อตฮิตขนาดไหนน่ะหรือ ก็ขนาดที่ว่าอันดับคำค้นหาในไป๋ตู้กับเวยป๋อสองสามอันดับแรกมีแต่หัวข้อที่เกี่ยวกับละครสองเรื่องนี้ทั้งหมดน่ะสิ เว็บไซต์บันเทิงใหญ่ ๆ ต่างก็ออกข่าวเกี่ยวกับละครสองเรื่องนี้ไม่หยุดหย่อน เหล่าชาวเน็ตมารวมตัวกันอยู่ที่กระทู้หรือไม่ก็โพสต์เกี่ยวกับละครสองเรื่องนี้เพื่อพูดคุยถกเถียงกันถึงเรื่องราวในละครอย่างร้อนแรง คอมเมนต์เพิ่มขึ้นมากกว่ากระทู้เก่า ๆ ขึ้นทุกที

ละครสองเรื่องนี้ดังขึ้นมาแทบจะภายในชั่วข้ามคืน ไม่ว่าที่ไหนก็เห็นข้อเขียนวิจารณ์ของชาวเน็ต ทุกคนล้วนวิจารณ์ไปในทางที่ดีมาก

เมื่อได้ยินว่าคนสำคัญในโปรดักชั่นของละครทั้งสองเรื่องจะมา ผู้ชมจะไม่ตื่นเต้นกระตือรือร้นได้อย่างไร แต่ที่พวกเขาสงสัยยิ่งกว่าก็คือ เซียวจยาซู่เกี่ยวข้องอะไรกับละครสองเรื่องนี้ด้วย

ผู้ดำเนินรายการไขปริศนานั้น “เวลาดูโทรทัศน์ นอกจากรายชื่อนักแสดงแล้ว เราก็ต้องสนใจโปรดิวเซอร์ให้มากหน่อยใช่ไหมล่ะ แล้วเจ้าต้นอ่อนน้อยของเราก็เป็นนักลงทุนเพียงหนึ่งเดียวของละครทั้งสองเรื่องเลยใช่ไหมครับ”

เซียวจยาซู่หัวเราะเขิน ๆ “ครับ”

ผู้ชมในห้องส่งอุทานด้วยความตกใจ ผู้ชมทางออนไลน์ก็ส่งคอมเมนต์กันมาบนหน้าจอทันที พวกเขาถามว่าต้นอ่อนน้อยได้เงินจากละครทั้งสองเรื่องไปมากเท่าไร ไม่ต้องสงสัยเลยว่าละครฮ็อตฮิตที่สุดแห่งปีออกจากเตามาแล้ว อี๋เมิ่งไป่เหนียนกับเหลิ่งคู่ไท่จื่อเชี่ยวหวังเฟยนั้นไม่ใช่อันดับหนึ่งก็ต้องเป็นอันดับสอง แข่งกันไปแข่งกันมากลายเป็นว่าทั้งสองเรื่องกลับมีเจ้าของคนเดียวกันเสียอย่างนั้น! นักลงทุนนี่เจ๋งเป้งไปเลย!

ผู้ชมออนไลน์คนหนึ่งใช้ตัวหนังสือสีแดงหนาตัวโตพิมพ์คอมเมนต์ขึ้นมาว่า ‘สายตานี่มองขาดเกินใครจริง ๆ ฉันคงได้แต่คุกเข่าแล้วตะโกนว่า เจ๋ง ๆ ๆ!’

เซียวจยาซู่เหลือบมองหน้าจอแล้วก็หัวเราะพรืด “ที่จริงผมก็ไม่เคยคิดว่าละครทั้งสองเรื่องจะดังขนาดนี้เลยครับ แค่รู้สึกว่าผู้กำกับเว่ยเจียงลำบากมาก ๆ เขาเกือบต้องขายบ้านตัวเองทิ้งเพื่อจะมาทำละครเรื่องอี๋เมิ่งไป่เหนียนด้วยซ้ำ” เขามองผู้ดำเนินรายการแล้วพูดอย่างเอาใจใส่ “ส่วนเรื่องราวโดยละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างนั้น คงต้องรอให้ผู้กำกับเว่ยเจียงมาที่นี่แล้วคุยกับทุกคนอีกครั้งหนึ่งนะครับ”

ผู้ดำเนินรายการยกนิ้ว “ไหวพริบดีมากครับ รู้ด้วยว่าจะแย่งงานผมไม่ได้”

เซียวจยาซู่หัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏบนหน้าจอใหญ่ มันดูราวกับจะเรืองแสงได้ จี้เหมี่ยนหันกลับไปมองแล้วดวงตาก็ดูหม่นลงเล็กน้อย ผู้ชมในห้องส่งปิดปากอุทานเบา ๆ พวกเขาถกเถียงกันเรื่องหน้าตา บอกว่าเจ้าต้นอ่อนน้อยหน้าตามีระดับกว่า ‘สนมผู้งดงาม’ ในละครตั้งมาก ทำไมเขาไม่ไปแสดงเองเนี่ย

“ทำไมคุณไม่ไปแสดงเป็นสนมผู้งดงามเสียเองล่ะครับ” ผู้ดำเนินรายการถามสิ่งที่อยู่ในใจของทุกคน

“ตอนนั้นผมกำลังถ่ายเรื่องสื่อถูอยู่ ไม่มีใจไปถ่ายอย่างอื่นหรอกครับ ผมน่ะยึดมั่นในคำพูดประโยคหนึ่งเสมอมา นั่นคือ ‘ช่วงเวลาหนึ่งก็จะทำอะไรให้ดีได้เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น’ ผมควรจะเอาหัวใจที่พร้อมที่สุดของผมมาทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ที่สุด จะโลภไม่ได้หรอกครับ”

หลัวจางเหวยพูดสนับสนุนทันที “ใช่ครับ ผมละต่อต้านนักแสดงที่รับเล่นหนังเล่นละครหลายเรื่องพร้อมกันจนวุ่นวายไปหมดที่สุดเลย หัวหมุนไปมาในกองถ่ายทางนู้นทีทางนี้ทีอย่างกับล้อรถ อยากได้เงินทางนี้ แล้วก็อยากได้เงินทางนั้น ผลคือเรื่องนั้นก็แสดงไม่ดี เรื่องนี้ก็แสดงไม่ดี พลังใจของคนเรามันมีจำกัดนะครับ จะเอาไปใช้อย่างฟุ่มเฟือยตามใจชอบได้ยังไงกัน”

ผู้ดำเนินรายการพยักหน้าแล้วว่า “ดูท่าพวกคุณสองคนจะทำงานร่วมกันอย่างมีความสุขมากเลยนะครับเนี่ย”

“ใช่ครับ ถ้ามีบทที่เหมาะ ๆ ผมจะเชิญเซียวจยาซู่มาเล่นอีกแน่นอน วางใจได้เลย” หลัวจางเหวยไม่ปิดบังความชื่นชอบที่เขามีต่อเจ้าต้นอ่อนน้อยแต่อย่างใด ผู้ชมในห้องส่งเองก็รู้สึกปลาบปลื้มจนต้องปรบมือทีเดียว

ผู้ดำเนินรายการถามต่อ “ได้ยินผู้กำกับจ้าวชวนบอกว่า คุณลงทุนละครของเขาเพียงเพราะคำพูดประโยคเดียวหรือครับ”

เซียวจยาซู่นิ่งงัน จากนั้นก็พยักหน้า “ใช่ครับ”

“คำพูดอะไรหรือครับ”

เซียวจยาซู่พูดอย่างจริงใจ “เขาบอกผมว่า นางเอกของละครเรื่องนี้เดิมจะให้หลี่จยาเอ๋อร์แสดง แต่หลี่จยาเอ๋อร์ยกเลิกสัญญากะทันหัน ทำเอาเขาเกือบต้องระงับการถ่ายทำ ตอนนั้นผมคืนบทให้เขาไปแล้วด้วยซ้ำ แต่พอได้ยินประโยคนี้ก็พลิกมือรับบทมาใหม่ ถ้าหลี่จยาเอ๋อร์ไม่ถูกใจละครเรื่องนี้ ผมก็จะทำ อาศัยแรงฮึดนี้ละครับ”

หลี่จยาเอ๋อร์กำลังต่อสู้คดีกับน้องสาวน้องชายของเหออี้อยู่ พวกเขากำลังอยู่ในระหว่างการแฉเรื่องต่าง ๆ แล้วยังลากเอาพ่อแม่ของหลี่จยาเอ๋อร์เข้ามาเอี่ยวด้วย ทุกคนเห็นความน่ารังเกียจของบ้านนี้นานแล้ว จึงย่อมไม่รู้สึกว่าคำพูดของเซียวจยาซู่นั้นฟังดูเกินไป ถ้าเธอยกเลิกสัญญา ฉันก็จะลงทุนถ่ายทำ ถ่ายทำออกมาแล้วโด่งดังไปถึงไหนต่อไหน เธอก็อย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกัน!

เส้นทางศิลปินของหลี่จยาเอ๋อร์ขาดสะบั้นนานแล้ว เมื่อเห็นละครที่ตัวเองรังเกียจเดียดฉันท์หนักหนาได้รับความนิยมดังเปรี้ยงปร้างขนาดนี้ มิหนำซ้ำนักแสดงหญิงที่รับบทรัชทายาทเย็นชายังดังเป็นพลุแตกขึ้นมาอีกแบบขยับจากนักแสดงลำดับท้าย ๆ มาเป็นนักแสดงแถวสอง อย่างนี้เธอจะไม่เสียใจได้หรือ เธอเสียใจปนเสียดายจนจะแย่อยู่แล้ว! ถ้าเธอเพียงกตัญญูรู้คุณ รับปากจี้เหมี่ยนแล้วมาแสดงละครเรื่องนี้ ก็ยังพอจะมีโอกาสกลับตัวได้บ้าง แต่ตอนนี้ไม่ว่าพูดอย่างไรก็คงสายเกินไปเสียแล้ว

เพียงแค่ผู้ชมคิดว่าตอนนี้หลี่จยาเอ๋อร์จะอยู่ในสภาพน่าเวทนาขนาดไหน พวกเขาก็รู้สึกสะใจแล้ว จึงปรบมือขึ้นมาทันที

ผู้ดำเนินรายการหยอก “ไม่คิดเลยนะครับว่าเจ้าต้นอ่อนน้อยก็มีด้านที่ดูเหมือนท่านประธานบ้าอำนาจกับเขาด้วยเหมือนกัน ผมยังคิดว่ามุมแบบนี้จะสงวนไว้ให้เฉพาะพี่ชายคุณเสียอีก แบบนี้มันตรงกับคำพูดที่ว่า…วันนี้เธอจะสนใจฉันหรือไม่ก็ช่าง พรุ่งนี้ฉันจะทำให้เธอโงหัวไม่ขึ้น อยู่ในวงการนี้ต้องเลือกทางเดินให้ถูกต้อง ทำเรื่องดี ๆ รักษาโอกาสตรงหน้าเอาไว้ให้ดีจริง ๆ นะครับ”

เซียวจยาซู่พยักหน้าอย่างต่อเนื่อง สีหน้าทอดถอนใจ

เวลาเดียวกันนั้นเอง หลินเล่อหยางที่สองแก้มกลับมามีเลือดฝาดได้อย่างยากเย็นก็เริ่มจะหน้าซีดอีกครั้ง อี๋เมิ่งไป่เหนียนกับเหลิ่งคู่ไท่จื่อเชี่ยวหวังเฟยโด่งดังเปรี้ยงปร้าง เขาอยากจะแสร้งทำเป็นไม่เห็นก็คงไม่ได้ และตอนแรกก็เพราะเขาห้ามเอาไว้นั่นเอง พี่จี้จึงเลิกล้มความคิดที่จะลงทุนกับละครสองเรื่องนี้ ตอนนี้เซียวจยาซู่หาเงินได้เป็นกอบเป็นกำจากละครทั้งสองเรื่องนี้ แล้วพี่จี้ได้อะไรล่ะ พี่จี้ไม่ได้อะไรเลย แล้วยังทำให้ทางสตูดิโอไม่พอใจฟางคุนเรื่องนี้ด้วย เพราะว่าอีกฝ่ายเป็นคนออกหน้าไปพูดแทนเขาเสียเต็มปากเต็มคำว่าถ้าลงทุนละครสองเรื่องนี้จะต้องขาดทุนย่อยยับแน่นอน

ตอนนี้พอคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา หรือว่าเวลาเห็นอะไรเกี่ยวกับละครสองเรื่องนี้เต็มอินเทอร์เน็ตไปหมด เห็นว่าละครสองเรื่องนี้โด่งดังอย่างไรบ้าง ได้เงินเป็นกอบเป็นกำอย่างไรบ้าง หลินเล่อหยางก็อยากจะย้อนเวลากลับไปเอาค้อนทุบหัวตัวเองให้แตก ดูซิว่าในนั้นใส่แป้งเปียกเอาไว้หรือเปล่า

อยากปากมากดีนัก อยากสอดมือเข้าไปยุ่งดีนัก เดิมทีพี่จี้ก็ผิดหวังในตัวนายมากอยู่แล้ว ตอนนี้เขาจะไม่ยิ่งจงเกลียดจงชังนายขึ้นไปอีกหรือ นายรู้หรือไงว่าการลงทุนคืออะไร นายมีสายตาของนักลงทุนหรือเปล่า ตอนนี้ยังดีนะที่ในใจของเขานายกลายเป็นเรื่องน่าหัวเราะไปโดยสิ้นเชิงแล้วน่ะ! เขาจะเกิดความคิดแบบนี้ขึ้นมาเป็นพัก ๆ หรือเปล่านะว่า โชคดีนักที่ฉันเลิกกับหลินเล่อหยางเสียได้ ไม่อย่างนั้นคงต้องโดนเจ้าหมอนั่นขวางทางจนแย่แน่ ๆ

หลินเล่อหยางยิ่งคิดมากเขาก็ยิ่งรู้สึกกลัว ถึงกับรู้สึกว่าไม่อาจเงยขึ้นมาสู้หน้าใครได้ด้วยซ้ำ ได้แต่ภาวนาอยู่เงียบ ๆ ให้ผู้ดำเนินรายการช่วยผ่านหัวข้อนี้ไปโดยไว

แต่กฎของความซวยก็ทำงานขึ้นมาตอนนี้จนได้ ซือถิงเหิงเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ เขาจึงพูดแทรกขึ้นมากะทันหัน “เอ๊ะ ฉันจำได้ว่าเหมือนตอนนั้นเหล่าจี้ก็จะลงทุนกับละครสองเรื่องนี้ด้วยไม่ใช่หรือ นายเอาเช็คออกมาแล้วด้วยซ้ำนี่ แล้วสุดท้ายทำไมถึงไม่ลงทุนล่ะ”

เซียวจยาซู่กำลังคิดจะอธิบาย แต่จี้เหมี่ยนกลับยิ้มบางพูดขึ้นมาก่อน “ตอนนั้นฉันลังเลนิดหน่อย ไม่กล้าลงทุน แต่ตอนนี้น่ะแทบอยากจะตัดมือตัวเองทิ้งเลยละ”

ผู้ชมตกใจ จากนั้นก็หัวเราะครืน

‘ไม่คิดเลยนะว่าฉายา หยิบจับอะไรเป็นเงินเป็นทอง ของเทพจี้ก็มีผิดพลาดกับเขาด้วยเหมือนกัน ทั้งที่ฉันควรจะเสียใจแทนเขาแท้ ๆ แต่ทำไมกลับรู้สึกสนุกนักล่ะ ไม่ ๆ ๆ ฉันต้องไม่ใช่คนที่นึกสนุกกับคราวเคราะห์ของคนอื่นสิ!’ ชาวเน็ตคนหนึ่งส่งคอมเมนต์มาบนหน้าจอ ทำเอาทุกคนกลั้นหัวเราะไม่อยู่

จี้เหมี่ยนหันไปอ่านคอมเมนต์บนหน้าจอ จากนั้นเขาก็กุมขมับถอนหายใจ ทำท่าเหมือนเสียใจมาก วันนี้เขาดูทำตัวสบาย ๆ ยิ้มแย้มเป็นพิเศษต่อหน้ากล้อง แล้วก็ดูติดดินเข้าถึงง่ายเป็นพิเศษด้วย ทำให้คนทั่วไปที่ไม่ใช่แฟนคลับหลายคนหันมาเป็นแฟนคลับของเขา ที่แท้เทพจี้ก็ไม่ได้เย็นชาเย่อหยิ่ง เขาเองก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกัน มีช่วงเวลาที่ผิดหวังหรือน่าอายบ้างเหมือนกัน

จี้เหมี่ยนรอให้ทุกคนหัวเราะกันจนพอใจแล้วจึงค่อยตบบ่าเซียวจยาซู่ “คราวหน้าจะลงทุนอะไรก็อย่าลืมเรียกพี่ชายด้วยนะ”

เซียวจยาซู่พยักหน้าจริงจัง “พี่จี้วางใจได้เลยครับ ผมกินน้ำซุปพี่กินเนื้อ ไม่ขาดส่วนของพี่ไปแน่นอน”

ผู้ดำเนินรายการจับคำพูดน่าสงสัยได้ทันที “เอ๋ ไม่ใช่ผมกินเนื้ออาจารย์จี้กินน้ำซุปหรือ คุณพูดผิดหรือไม่ทันระวังเผลอพูดความในใจของติ่งกันแน่ครับเนี่ย”

สองแก้มของเซียวจยาซู่แดงแปร๊ด เขาอ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออกไปครู่ใหญ่ด้วยไม่เคยถูกใครหยอกอย่างนี้มาก่อน

เหล่าผู้ชมฮาครืน มีแต่คนบอกว่าเขาต้องเผลอพูดความในใจของติ่งออกมาแน่นอน…ต่อให้ตัวเองหิวตายก็จะไม่ยอมให้เทพจี้ได้กินเนื้อน้อยลงเด็ดขาด ผู้ชมทางออนไลน์ส่งคำว่า ‘ฮ่า ๆ ๆ’ มาเป็นชุด ประธานสมาคมผู้สนับสนุนจี้เหมี่ยนแห่งชาติพิมพ์คอมเมนต์มาด้วยตัวหนังสือสีแดงสดตัวหนาว่า ‘เอาละ ๆ เห็นแก่ใจรักที่เจ้าต้นอ่อนน้อยมี พวกเราขอแต่งตั้งให้เจ้าต้นอ่อนน้อยเป็นมเหสีตำหนักใหญ่ ไม่ว่าใครก็อย่าได้แย่งตำแหน่งเขาเชียว!’

‘ไม่แย่ง ไม่แย่งแน่นอน!’

‘ถึงแย่งก็คงแย่งไม่ได้หรอก พระมเหสีทั้งแสดงหนังเก่งทั้งหาเงินเก่ง หน้าตาก็ออกจะงดงามปานนั้น!’

‘…’

เหล่ามงกุฎน้อยต่างพากันแห่แหนเข้ามา ส่งมีมต่าง ๆ นานามาหยอกเจ้าต้นอ่อนน้อยเสียยกใหญ่ สถานการณ์คึกคักสนุกสนานน่าดู

Leave a Reply

แจ้งเตือนการใช้งานคุกกี้ เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีที่สุด ได้แก่ คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ และคุกกี้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ศึกษารายละเอียดและการตั้งค่าคุกกี้เพิ่มเติมเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่านได้ใน นโยบายคุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า