Author Archives: AMARINBOOKS TEAM

ปองวุฒิ รุจิระชาคร กับหนังสือเล่มล่าสุด ณ ที่ซึ่งความจริงไม่อาจดำรงอยู่

การกลับมาอีกครั้งกับผลงานสุดท้าทายคอวรรณกรรมไทย และผู้ชื่นชอบงานแนว Psychological Thriller ‘ณ ที่ซึ่งความจริงไม่อาจดำรงอยู่’ ของนักเขียนหนุ่มผู้มีผลงานตีพิมพ์มาแล้วกว่าร้อยชิ้น ‘ปองวุฒิ รุจิระชาคร’ ร่วมด้วยบทสัมภาษณ์บางส่วนอันแสนเข้มข้นและเผ็ดร้อนสไตล์เขา   มาเริ่มทำความรู้จักผลงานเล่มล่าสุดของปองวุฒิ รุจิระชาคร ไปพร้อมๆ กันเลย     คุณเขียนเอาไว้ในคำอุทิศหนังสือ ‘ณ ที่ซึ่งความจริงไม่อาจดำรงอยู่’ ว่า “แด่เจ้าความจริงผู้น่าสงสาร เพราะผู้คนในประเทศนี้ชอบแสร้งเมินเฉย ทำเหมือนเจ้าไม่มีตัวตนอยู่เสมอ” มันหมายความจริงๆ ว่าอย่างไร ต้องการกระทบกระเทียบอะไรไหม ปองวุฒิ : ผมไม่กระทบกระเทียบแต่เป็นข้อเท็จจริงนะ เมื่อเราพิจารณามองเชิงสถิติกับเรื่องต่างๆ ในประเทศนี้ ถ้าใครรู้จักและคุ้นเคยกันพอสมควรจะรู้ว่าผมเป็นคนคิดพูดอะไรโดยใช้เหตุผลเป็นหลัก ที่เขียนไปอย่างนั้น หนึ่งคือผมคิดว่ามันเป็นถ้อยคำที่เหมาะกับโทนหนังสือ เสริมด้วยเหตุผลข้อสองคือประเทศไทย ไม่ว่าวงการไหน ดูเหมือนเราจะนิยมหลบเลี่ยงความจริง ตัวอย่างเห็นง่ายมาก เช่นวงการเมือง/ข้าราชการ/ธุรกิจ เวลามีพฤติกรรมโกง ประเทศอื่นเขาก็ฟันธงกันไปชัดๆ ว่านี่คือโกง เฮ้ยคุณทำแบบนี้ไม่ได้ ต้องโดนลงโทษอะไรยังไงว่าไป แต่ประเทศเราขนาดโดนจับได้ แต่ยังเอาวาทกรรม หาข้อแก้ตัวบ้าๆ บอๆ มาพูดว่าไม่ได้โกงมาอ้าง ซึ่งมันเป็นข้ออ้างปัญญาอ่อน แล้วมันก็ไม่มีใครทำอะไร หน่วยงานทำหน้าที่ลงโทษก็เฉยจริงรับลูกด้วยนะ มันก็ตลกดี   […]

3 ข้อคิดในการทำงาน เพื่อการเข้าใจคุณค่าที่แท้จริงของงาน

งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข แค่นี้จริงหรือ บางคนทำงานไปวันๆ เพราะงานที่ทำไม่ใช่สิ่งที่ชอบ บางคนแม้ได้ทำงานที่ชอบก็ยังมีความไม่สบายใจมากมาย วันนี้มี 3 ข้อคิดในการทำงาน ที่จะช่วยให้บรรดาชาวออฟฟิศมนุษย์เงินเดือนทุกคน ได้เข้าใจคุณค่าที่แท้จริงของงาน ที่งานได้ให้กับเรา จะได้ทุกข์น้อยลง ทำงานได้มีความสุขมากขึ้น   การทำงานทำให้ได้เงินเลี้ยงชีพ ข้อคิดในการทำงาน ข้อแรก ที่จะช่วยให้เห็นคุณค่าของงาน คือ เริ่มด้วยมองในแง่ของผลตอบแทนก่อน ผลตอบแทนคือ ปัจจัยเครื่องเลี้ยงชีพ หรือเงินทองที่จะซื้อหาของกิน ของใช้ งานทำให้เรามีเครื่องเลี้ยงชีพ ทำให้เราเป็นอยู่ได้ดี งานเป็นสิ่งที่ผูกพันติดอยู่กับชีวิตของเรา มันมีคุณต่อชีวิตของเรา ทำให้ชีวิตของเราดำรงอยู่ได้ด้วยดี ในเมื่องานเป็นสิ่งที่มีคุณต่อเรา เราก็ควรจะรักจะชอบมัน [su_highlight background=”#fffe99″]นอกจากมีคุณต่อชีวิตของเราแล้วก็โยงต่อไปถึงครอบครัวของเรา ญาติพี่น้องของเราด้วย [/su_highlight] เห็นได้ชัดว่างานนี้มีคุณค่ามากและเป็นประโยชน์ต่อชีวิต ในเมื่องานเป็นประโยชน์ต่อชีวิต เป็นคุณค่าพื้นฐานอันดับที่หนึ่ง เราก็ควรรักงาน ควรตั้งใจทำ และเอาใจใส่   งานของเราเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ข้อคิดในการทำงาน ที่จะช่วยให้เห็นคุณค่าของงาน ข้อต่อไปคือ งานนี่แหละเป็นสิ่งที่ทำให้กิจการของโลก ของสังคม ของประเทศชาติ เป็นไปได้ บางทีก็[su_highlight background=”#fffe99″]เป็นประโยชน์โดยตรงต่อชีวิตของผู้อื่น เช่น […]

7 เรื่องควรรู้เกี่ยวกับการฝึกสมาธิ : อย่ากลัวว่าจะฝึกสมาธิไม่ได้

การฝึกสมาธิ มักถูกมองว่าเป็นเรื่องของคนมีอายุ คนที่ฝึกได้จะต้องเก่งมาก จะต้องนับถือศาสนาพุทธ ต้องนั่งสมาธินานๆ ถึงจะถูกต้อง รวมถึงคนที่ฝึกสมาธิชีวิตคงไม่สนุกสนานและตัดขาดจากโลก แต่การฝึกสมาธิอาจไม่ใช่อย่างที่คิด ลองอ่าน 7 เรื่องควรรู้เกี่ยวกับการฝึกสมาธิ แล้วคุณจะรู้ว่าการฝึกสมาธิไม่ใช่เรื่องไกลตัว   การฝึกสมาธิ ไม่ต้องมีทักษะใดเป็นพิเศษ การฝึกสมาธิ ไม่ได้มีไว้สำหรับคนที่มีพรสวรรค์หรือคนที่มีจิตใจที่สงบอยู่แล้วเท่านั้น คุณไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญในการนั่งอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนานๆ หรือไม่ต้องรอเวลาที่คุณไม่เครียด หรือปราศจากคาเฟอีน คุณไม่ต้องศึกษาอะไรเป็นพิเศษก่อนเริ่ม คุณเริ่มฝึกสมาธิได้ทันที ถ้าคุณหายใจได้   การฝึกสมาธิไม่เกี่ยวกับศาสนา ไม่จำเป็นต้องนับถือพุทธหรือฮินดูถึงจะฝึกสมาธิได้ เพราะทุกคนสามารถฝึกสมาธิพร้อมกับนับถือศาสนาใดๆ ก็ได้ตามที่คุณนับถืออยู่ หรืออาจจะไม่จำเป็นต้องนับถือศาสนาอะไรก็ได้ เบน อดีตทหารผู้ฝึกสมาธิสมัยประจำการในอิรักบอกฉันว่า เขาคิดว่าการฝึกสมาธิทำให้เขาได้ใกล้ชิดกับการเป็นคริสต์ศาสนิกชนที่ดี การฝึกสมาธิสามารถฝึกได้ทั้งกับผู้ที่นับถือศาสนาทุกศาสนา หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่มีศาสนาก็ตาม     การฝึกสมาธิไม่จำเป็นต้องใช้เวลามาก เราจะเริ่มฝึกโดยใช้เวลา 20 นาทีต่อครั้ง คุณอาจจะเริ่มต้นแค่ 5 นาที แล้วค่อยเพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้ คุณจะอยากเพิ่มเวลาขึ้นแน่นอน เพราะคุณจะรู้สึกได้ถึงผลลัพธ์ที่ดีต่อตัวคุณซึ่งเกิดจากการฝึก แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็น สิ่งที่จำเป็นคือ ควรฝึกอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ เพราะนั่นคือสิ่งที่สำคัญมากกว่าการใช้เวลานานๆ ในการฝึกต่อวัน   การฝึกสมาธิไม่ได้ทำให้เรื่องไม่ดีในชีวิตหายไป […]

8 ข้อคิดในการใช้ชีวิต เพื่อชีวิตที่เบิกบาน โดยองค์ทะไลลามะ และอาร์ชบิชอป เดสมอนด์ ตูตู

จงมีชีวิตที่เบิกบาน โดย องค์ทะไลลามะ และอาร์ชบิชอป เดสมอนด์ ตูตู สองผู้นำทางจิตวิญญาณและเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ได้นำเสนอ ข้อคิดในการใช้ชีวิต เพื่อชีวิตที่เบิกบานไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งบทความนี้จะขอสรุปบางแง่มุมให้ดังนี้ เรื่องต่างๆ มีหลายแง่มุม องค์ทะไลลามะให้ ข้อคิดในการใช้ชีวิตว่า “เราต้องมองสถานการณ์ใด ๆ ก็แล้วแต่จากด้านหน้าและด้านหลัง จากด้านข้างและจากด้านบนและด้านล่าง อย่างน้อย ๆ จากหกแง่มุม สิ่งนี้จะช่วยให้เรามีมุมมองเกี่ยวกับความจริงที่สมบูรณ์และเป็นองค์รวมยิ่งขึ้น และหากเราทำได้เช่นนั้น การตอบสนองต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ของเราก็จะเป็นในทางที่สร้างสรรค์ยิ่งขึ้น” การมีมุมมองที่กว้างขึ้นทำให้เราสามารถมองเห็นสถานการณ์ของตัวเอง และทุกคนที่เกี่ยวข้องในบริบทที่กว้างขึ้น และตั้งอยู่บนความเป็นกลางยิ่งขึ้น เมื่อเรามองเห็นเงื่อนไขและสถานการณ์มากมายที่นำไปสู่เหตุการณ์นี้ เราก็จะตระหนักว่ามุมมองอันจำกัดของเรานั้นไม่ใช่สิ่งที่จริงแท้ มุมมองที่กว้างขึ้นนี้ยังพาเราออกจากการมุ่งมองแต่คุณค่าของตัวเอง การมองตัวเองเป็นศูนย์กลางคือมุมมองที่บกพร่องที่สุดของเรา เป็นมุมมองที่เกิดจากการมองว่าเราเป็นศูนย์กลางของโลกของตัวเอง แต่ทะไลลามะและอาร์ชบิชอปได้แสดงให้เห็นอย่างหนักแน่นว่า เรายังมีความสามารถที่จะมองด้วยมุมมองของผู้อื่นด้วย   ความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นสิ่งจำเป็น ทั้งทะไลลามะและอาร์ชบิชอปล้วนยืนยันว่าความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นสิ่งจำเป็นในทุกๆ โอกาสแห่งความเบิกบาน เมื่อเรามีมุมมองที่กว้างขึ้นเราจะมีความเข้าใจตามธรรมชาติต่อสถานภาพของตัวเองในขอบเขตอันไพศาลของทุกๆ สิ่งที่เคยเป็น เป็นอยู่ และจะเป็น สิ่งนี้จะนำเราไปโดยธรรมชาติสู่ความอ่อนน้อมถ่อมตนและการยอมรับว่าในฐานะมนุษย์ เราไม่อาจแก้ไขทุกสิ่งหรือควบคุมทุกแง่มุมในชีวิตได้ เราจำเป็นต้องพึ่งพาผู้อื่น อาร์ชบิชอปกล่าวได้อย่างกระทบใจว่า ความเปราะบางของเรา ความอ่อนแอของเราและขีดจำกัดของเรา คือเครื่องเตือนให้เรารู้ว่า เราจำเป็นต้องมีกันและกัน เราไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการมีอิสรภาพ ไม่ต้องอาศัยการพึ่งพา […]

คุณเป็น พ่อแม่ แบบไหน : เพื่อความเข้าใจในการเลี้ยงลูก โดย ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ

คุณเป็นพ่อแม่แบบไหน เป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ต้องรู้จักตัวเอง เพื่อที่จะได้ไปวิเคราะห์ลูกต่อว่า ลูกเราเป็นเด็กแบบไหน จะช่วยเพิ่มความเข้าใจในการเลี้ยงลูกได้ดียิ่งขึ้น ในเรื่องนี้ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ ได้จำแนกประเภทของพ่อแม่ไว้ด้วยสัตว์ 4 ประเภท ดังนี้   พ่อแม่ หนู พ่อแม่ หนู เป็นพวกชอบเข้าสังคม สนุกสนาน เฮฮาปาร์ตี้ ตามเพื่อน ยอมเพื่อน ที่สำคัญคือชอบหาของกินหรือชอบของสวยงาม แต่ขี้กลัว ไม่มั่นใจ ข้อเด่น ของพ่อแม่หนูคือ เมื่อลูกอยากทำอะไร พ่อแม่หนูก็จะสนับสนุนให้ลูกได้ทำอย่างเต็มที่ ดังนั้น การที่พ่อแม่ตามใจลูกจึงเป็นฝ่ายสนับสนุน เพื่อให้ลูกได้ค้นหาตัวตน (identity) ได้ทำสิ่งที่ชอบ และพ่อแม่ก็สนับสนุน เช่น พาลูกไปประกวดร้องเพลง แต่งตัวสวยงาม ทำให้ลูกๆ มีความสุขร่าเริง ข้อด้อย ของพ่อแม่หนูคือ หากตามใจมากเกินไปก็ไม่มีความเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจว่าเด็กยังต้องมีผู้ปกครอง ซึ่งมีหน้าที่สนับสนุนให้เขาค้นหาตนเอง ผู้ปกครองจึงต้องมีความเป็นโค้ช เป็นฟา เป็นเมนทอร์ ต้องดูว่าลูกเหมาะสมกับสิ่งนี้ไหม ถ้าไม่ใช่ก็ต้องหาวิธีอื่นให้ลูกได้ลองทำ เหมือนพ่อแม่กระทิง ขณะที่พ่อแม่หนูจะแล้วแต่ลูกเป็นหลัก และมีความกลัวสารพัด กลัวลูกเจ็บป่วย […]

วิธีเอาชนะความกลัว โดย พระไพศาล วิสาโล

ทุกคนย่อมมีความกลัว กลัวจนไม่กล้าทำอะไร และบางครั้งความกลัวนั้นก็เกิดจากการที่เราคิดไปเอง วิธีเอาชนะความกลัว นั้นก็ไม่ยาก เพียงทำตาม 4 ขั้นตอนจัดการความกลัว ที่พระไพศาล วิสาโล ท่านได้เมตตาแนะนำให้นี้ และฝึก วิธีเอาชนะความกลัว บ่อยๆ ก็มั่นใจได้ว่า เราจะมีความกล้าในการใช้ชีวิตมากขึ้นและมีความสุขมากขึ้นแน่นอน   อย่าเพิ่งคิดฟุ้งซ่านปรุงแต่งไปไกล เวลาเกิดอะไรความกลัวขึ้นมา วิธีเอาชนะความกลัว คือก็อย่าเพิ่งส่งจิตออกนอก ให้กลับมาดูใจของเรา ว่าใจของเรากำลังปรุงแต่งไปหรือเปล่า ที่จริงบางคนอาจจะไม่ได้ปรุงแต่งไปมากมายอะไร จู่ๆ มันมีความกลัวเกิดขึ้น เพราะเราไม่คุ้นกับความมืด หรือไม่คุ้นกับการอยู่คนเดียว การมีความกลัวเกิดขึ้นก็เป็นแบบทดสอบให้เราได้กลับมาดูใจว่า เรารู้เท่าทันอารมณ์และความกลัวที่เกิดขึ้นกับใจหรือเปล่า คนเราส่วนใหญ่ทุกข์เพราะความคิด เมื่อใดก็ตามที่เรามีความทุกข์ ขอให้รู้ว่ามันเป็นเพราะความคิดของเรา ความคิดที่ปรุงแต่ง ความคิดที่เตลิดเปิดเปิงไป เมื่อเรารู้ทันความคิด มันก็หยุดปรุงแต่ง แล้วกลับมาเป็นปกติ     ทำความคุ้นเคยกับที่นั้นๆ  ให้พยายามทำความคุ้นเคยกับสถานที่นั้นๆเสมือนว่าเป็นบ้านเรา ถ้าหากว่าเราทำความคุ้นเคยกับสถานที่แล้ว ความอุ่นใจ ความมั่นใจในความปลอดภัยก็จะมีมากขึ้น แต่ถ้าเราไม่ทำความคุ้นเคยกับสถานที่ ใจก็จะปรุงแต่งจนเกิดความหวาดระแวงได้ง่ายๆ พยายามมองให้เห็นว่า สถานที่ที่เราไปมีข้อดีอย่างไรบ้าง อย่ามองเห็นแต่ข้อเสีย เพราะจะทำให้เราขาดความมั่นใจ หรือ ขาดความรู้สึก อบอุ่น ในสถานที่ […]

7 วิธีคิดเพื่อรักตัวเองให้เป็น เห็นคุณค่าในตัวเอง และรักตัวเองมากขึ้น

หลายคนมักเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น หรือแม้กระทั่งเปรียบเทียบกับตัวเองในอดีตที่เคยดีกว่าปัจจุบัน จนทำให้รู้สึกหดหู่ ไร้ค่า สูยเสียความภูมิใจในตัวเองมากขึ้นทีละนิด จนในที่สุดอาจมองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง นี่คือ 7 วิธีที่จะทำให้ รักตัวเองให้เป็น กลับมาเห็นคุณค่าในตัวเองและรักตัวเองมากขึ้น   ยอมรับความอ่อนแอ แน่นอนว่าทุกคนต้องมีช่วงเวลาที่อ่อนแอและเป็นทุกข์ รู้สึกไม่รักตัวเอง เมื่อถึงตรงนี้ไม่ควรต่อต้านความรู้สึกนั้น เพราะยิ่งต่อต้าน ยิ่งทำร้ายตัวเอง วิธีการที่จะ รักตัวเองให้เป็น คือหากเราอนุญาตและยอมรับให้ตัวเอง “เหงา” “เป็นทุกข์” และ “อ่อนแอ” ได้ตามที่เป็น จะมีพลังงานออกมาจากการยอมรับนั้น [su_highlight background=”#ffe999″] หากยอมรับความเป็นจริง เราก็จะมีความกล้าและรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปกับชีวิต [/su_highlight]   ไม่มุ่งหาแต่ความสำเร็จ วิธี รักตัวเองให้เป็น ข้อต่อมา คือ อย่าเอาแต่หาความสำเร็จจนไม่มองความรื่นรมย์ต่างๆ รอบตัว ในช่วงแรกๆของชีวิต คนเราต่างวิ่งเข้าหาความสำเร็จ แต่เมื่ออายุมากขึ้น เราจะเริ่มมองเห็นคุณค่าของสิ่งอื่น เพราะเราเริ่มเข้าใจหลักการที่ว่า เมื่อมีขึ้นก็ย่อมมีลง ดังนั้นเราจึงควร[su_highlight background=”#ffe999″]เริ่มหันมาสนใจเรื่องความสุขหรือการฝึกฝนจิตใจและความสัมพันธ์กับคนรอบข้างมากกว่าความสำเร็จ[/su_highlight]   อย่าคาดหวังความสมหวัง เมื่อประสบความสำเร็จตามที่ต้องการแล้ว คิดว่าเราจะมีความสุขไปเรื่อยๆ ใช่ไหม มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น หลังความสุขเพียงชั่วครู่จากการประสบความสำเร็จจะมีคลื่นความห่อเหี่ยวใจซัดขึ้นมา […]

ว.วินิจฉัยกุล ปกเว็บ

รวมนวนิยายเรื่องเยี่ยมจาก ว.วินิจฉัยกุล

ว.วินิจฉัยกุล คือนักเขียนหญิงชั้นครูอันดับต้น ๆ ของวงการที่มีผลงานจำนวนมาก งานเขียนของ ว.วินิจฉัยกุลติดตรึงใจผู้อ่านทุกท่าน และเมื่อได้นำไปผลิตเป็นละครโทรทัศน์ก็ยิ่งช่วยฉายภาพจากตัวอักษรในหนังสือให้ชัดเจน ตรึงใจยิ่งขึ้นไปอีก นวนิยายเรื่องเยี่ยมจาก ว.วินิจฉัยกุล ที่จัดพิมพ์โดย บ้านอรุณ มีดังนี้ เจ้าสาวในสายลม เป็นนวนิยายของ ว.วินิจฉัยกุล ที่ไม่เคยลงตีพิมพ์เป็นตอน ๆ ในนิตยสารฉบับใดมาก่อน เนื้อเรื่องกล่าวถึงหญิงสาวสองคนที่เป็นเพื่อนรักกัน แต่ต้องบาดหมางห่างเหินกันด้วยสาเหตุจากผู้ชาย และต่างดำเนินชีวิตไปตามวิถีของตน และพบจุดหมายปลายทางที่เหมาะสมกับคุณธรรมของแต่ละคน ทุกฉากเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าติดตาม ผู้อ่านที่ชื่นชอบนวนิยายรักหลากหลายอารมณ์ ไม่ควรพลาดหนังสือเล่มนี้! ชลัย หญิงสาวผู้ที่ครั้งหนึ่งหล่อนเกือบจะได้สวมชุดเจ้าสาวเข้าพิธีวิวาห์ แต่สายลมก็พัดพาโอกาสนั้นหลุดลอยไป แม้ชีวิตหล่อนจะมีความหลังปะปนกันทั้งกลีบและหนามกุหลาบ แต่หล่อนก็สู้ทนก้าวผ่านและเลือกที่จะจดจำเฉพาะกลิ่นหอมหวานของกุหลาบเพื่อชื่นชูใจเท่านั้น… สองฝั่งคลอง เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดของ “แม่ทับทิม” ที่ดำรงชีวิตอยู่ในริมสองฝั่งของคลองสาน สังคมในช่วงรอยต่อวัฒนธรรมปลายรัชกาลที่ 6 จนถึงรัชกาลที่ 9 ช่วงพ.ศ.2453 – พ.ศ. 2559 ที่จะนำพาความรื่นรมย์ และชวนให้ทบทวน ตั้งสติ ด้วยธรรมของพระพุทธองค์เป็นที่พึ่ง จุดเด่นของเรื่องนี้จะทำให้คุณเห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ค่านิยม และวัฒนธรรมของคนในสมัยนั้น ผ่านตัวละครหลักอย่างแม่ทับทิมที่ใช้ชีวิตผ่านมาหลายยุคสมัย เน้นไปที่เรื่องของ “ครอบครัว” เป็นหลักชีวิตที่รันทดของเด็กสาวคนหนึ่งที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชนแต่ละเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เธอจะมีวิธีแก้ปัญหาและรับมือกับมันได้อย่างไร […]

5 วิธีฝึกให้ไม่คิด ฟุ้งซ่าน คิดมาก วิตกกังวลเกินเหตุ

ความคิด ฟุ้งซ่าน ทำให้จิตและสมองเหนื่อยมาก หลายคนบางทีไม่ได้ออกแรงแต่สงสัยว่าทำไมตัวเองเหนื่อยล้าเหลือเกิน นั่นเพราะเราคิด ฟุ้งซ่าน นั่นเอง วิธีที่จะลดการคิดมากเกินไปนั้น คือการต้องฝึกให้ตัวเองอยู่กับสิ่งที่ทำในปัจจุบัน ณ ตอนนี้ ซึ่งฝึกได้ง่ายๆ ผ่านการฟัง พูด ดู เขียน เป็นต้น มาฝึกให้ไม่คิด ฟุ้งซ่าน กัน ด้วยวิธีดังนี้   ไม่ ฟุ้งซ่าน ด้วยการ ตั้งใจฟัง เนื่องจากในปัจจุบันมีสิ่งเร้าที่มีผลต่อโสตประสาทเพิ่มขึ้นมากเกินไป มากเสียจนบทสนทนาที่มีสิ่งเร้าในปริมาณที่พอเหมาะพอดี กลายเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกอ้างว้างราวกับอยู่บนฟ้า บทสนทนาในการทำงานมีแรงกระตุ้นที่เพิ่มเข้าไปว่า “เนื่องจากเป็นเรื่องงานจึงต้องฟัง” แต่เดิมการฟังเสียงคู่สนทนาอย่างชัดเจนคงไม่ยากขนาดนั้น แต่เนื่องจากแรงกระตุ้นระดับนั้นยังไม่พอให้เราสนใจได้ ใจจึงยังเลื่อนลอย สับสนวุ่นวายไปด้วยเสียงรบกวนของความคิดจำนวนมากที่ไม่จำเป็น หากเงี่ยหูฟังเสียงเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นจริงตรงหน้าอย่างตั้งใจแล้วจะเข้าสู่โหมดฟังเสียงที่น่าเบื่อได้อย่างสนอกสนใจ ด้วยเหตุนี้จึงไม่จำเป็นต้องใช้อุบายตื้น ๆ เช่น การหาข้ออ้างที่จะฟัง เพราะเมื่อตั้งใจฟังคำพูดของคู่สนทนาแล้วก็จะเข้าใจเนื้อหาเอง ไม่ว่าจะเป็นเสียงพูดคุยของใคร หรือเสียงประชุม หรือเสียงนกและเสียงลม “การฟัง” จะเป็นอิสระจากฉากเหล่านั้น   ไม่ฟุ้งซ่านด้วยการ ลดการพูดเพ้อเจ้อ ในบรรดาศีลที่เกี่ยวกับการพูดทั้งสี่ข้อ เมื่อเทียบกับข้ออื่นๆ ข้อที่เกี่ยวกับการ “เว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ” […]

การจัดการความเครียดในที่ทำงาน : โดยนายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

ความเครียดในที่ทำงานคือปัญหาใหญ่อันดับต้นๆ หาก การจัดการความเครียด ในที่ทำงานของเราไม่มีประสิทธิภาพ ชีวิตคงไม่เป็นสุขแน่ แต่หาก การจัดการความเครียด ของเรามีประสิทธิภาพ ชีวิตการทำงานย่อมราบรื่น ความสัมพันธ์กับคนในที่ทำงานก็จะดีขึ้น และชีวิตในมิติอื่นๆ ก็จะเป็นสุขขึ้น วันนี้คุณหมอประเสริฐจะมาแนะนำวิธี การจัดการความเครียด ในที่ทำงานที่ทำได้จริง และไม่ยากให้ทุกคนได้ทำตาม   ไปออกกำลังกาย   นี่คือการจัดการความเครียดที่ดีที่สุด ได้ผลที่สุด และลงทุนน้อยที่สุด แต่เราไม่ค่อยทำกันเมื่อรู้ตัวว่าเครียด อย่างแรกที่ควรทำคือ “ไปออกกำลังกาย” ถ้ารอได้ก็อย่าเพิ่งเดินเข้าหาปัญหาหรือพยายามแก้ปัญหาในขณะที่ตนเองกำลังเครียด เพราะมักจะทำให้เรื่องราวยุ่งเหยิงมากยิ่งขึ้น ดังนั้นก่อนขั้นที่หนึ่ง หรือจะเรียกว่าขั้นที่ศูนย์คือ “หยุดตัวเองให้ได้” อย่าคิด อย่าพูด อย่าทำ แล้วถอนตัวจากสถานการณ์ไปคลายเครียด   ถอนตัวออกจากสถานการณ์ชั่วคราว   การจัดการความเครียด ในที่ทำงานอีกวิธีหนึ่ง คือการถอนตัวออกจากสถานการณ์ชั่วคราว แล้วยืนมองสถานการณ์จากระยะไกล เป็นเทคนิคการจัดการความเครียดง่าย ๆ ที่คนส่วนใหญ่มักลืมทำ ชอบคลุกกับปัญหาจนตัวเองกลายเป็นส่วนหนึ่ง หรือส่วนใหญ่ของตัวปัญหาด้วยซ้ำ การถอยออกมาจากสถานการณ์ จะมีปรากฏการณ์สองอย่างเกิดขึ้นทันที คือ หนึ่ง เราไม่ใช่ส่วนหนึ่งของกองปัญหาอีกต่อไปแล้ว และ สอง คือ ระหว่างนั้นอาจจะมีใครมาขโมยก้อนปัญหานั้นไปเสีย […]

แจ้งเตือนการใช้งานคุกกี้ เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีที่สุด ได้แก่ คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ และคุกกี้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ศึกษารายละเอียดและการตั้งค่าคุกกี้เพิ่มเติมเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่านได้ใน นโยบายคุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า