Author Archives: AMARINBOOKS TEAM

[ทดลองอ่าน] ช่วงเวลาดีๆ ที่มีแต่รัก เล่ม 2 บทที่ 70

ช่วงเวลาดีๆ ที่มีแต่รัก 造作时光    เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง 月下蝶影 เขียน Hanza แปล   — โปรย — “ข้าไม่มีทางทิ้งให้คนที่ข้ารักต้องรอข้านานถึงเพียงนี้” “เวลาสามปีเท่ากับสามสิบหกเดือน ชั่วชีวิตของคนเราจะมีสามปีได้สักกี่ครั้ง” “ชีวิตคนเราสั้นนัก จะปล่อยให้ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตเสียเปล่าไปได้อย่างไร”   ฮวาหลิวหลี สตรีอ่อนแอขี้โรค แต่แท้จริงนางเข้มเเข็งจนน่าเกรงขามยิ่ง จีหยวนซู่ รัชทายาทรูปงาม ปากร้าย เจ้าคิดเจ้าแค้น เพื่อสตรีของตนแล้ว ไม่ว่าเรื่องใดเขาก็ทำได้อย่างหน้าไม่อาย   _______________________________   ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ   (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์)   70   เห็นชัดว่าตัวต่อที่บินว่อนเต็มนภาเกิดจากการสั่งการของมนุษย์ มิฉะนั้นมีหรือจะบังเอิญโจมตีจนแยกราชองครักษ์ออกห่างจากรัชทายาทได้พอดี ชั่วขณะที่ม้าแตกตื่นนั้น มือสังหารพวกนี้ก็วิ่งกรูกันออกมาอย่างไม่คิดชีวิต ต่อสู้อย่างยอมตายถวายชีวิต ชานเมืองหลวงมิใช่พื้นที่เปลี่ยวร้างไร้ผู้คน มีชาวนาเห็นเหตุการณ์ ก็โยนจอบเสียมในมือทิ้ง แล้ววิ่งไปพลางตะโกนไปพลางว่า “มีโจรป่า มีโจรป่าฆ่าคนตาย!” พอเห็นดังนั้น นักฆ่าจึงรีบขี่ม้าตามไปหวังจะจัดการชาวนาคนนั้น แต่ราชองครักษ์ขวางไว้ ประมือกันไม่กี่กระบวนท่า ชาวนาคนนั้นก็วิ่งหายลับไปจนไม่เห็นแม้แต่เงา […]

[ทดลองอ่าน] ช่วงเวลาดีๆ ที่มีแต่รัก เล่ม 2 บทที่ 69

ช่วงเวลาดีๆ ที่มีแต่รัก 造作时光    เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง 月下蝶影 เขียน Hanza แปล   — โปรย — “ข้าไม่มีทางทิ้งให้คนที่ข้ารักต้องรอข้านานถึงเพียงนี้” “เวลาสามปีเท่ากับสามสิบหกเดือน ชั่วชีวิตของคนเราจะมีสามปีได้สักกี่ครั้ง” “ชีวิตคนเราสั้นนัก จะปล่อยให้ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตเสียเปล่าไปได้อย่างไร”   ฮวาหลิวหลี สตรีอ่อนแอขี้โรค แต่แท้จริงนางเข้มเเข็งจนน่าเกรงขามยิ่ง จีหยวนซู่ รัชทายาทรูปงาม ปากร้าย เจ้าคิดเจ้าแค้น เพื่อสตรีของตนแล้ว ไม่ว่าเรื่องใดเขาก็ทำได้อย่างหน้าไม่อาย   _______________________________   ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ   (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์)   69   “องค์ชายห้า…หลงใหลการวาดภาพยิ่งนัก” ยวนเหว่ยเห็นฮวาหลิวหลีจ้องแผ่นหลังขององค์ชายห้าอย่างเหม่อลอยจึงกระซิบเตือน “องค์หญิง ใกล้เที่ยงแล้วเจ้าค่ะ” ให้รัชทายาทรอนานไม่ค่อยดี ฮวาหลิวหลีดึงสติกลับมา หมุนตัวเดินไปยังทิศที่ตั้งของตำหนักบูรพา ช่วงนี้เป็นฤดูใบไม้ผลิ บุปผาแบ่งบาน รอบด้านมีแต่ดอกไม้สะพรั่ง แม้แต่เส้นทางที่ทอดยาวในวังหลวงล้วนวางกระถางดอกไม้ที่ตัดแต่งอย่างงดงาม โบตั๋นหลากสีแข่งกันแย้มกลีบ ฮวาหลิวหลีเห็นขันทีหลายคนตัดแต่งกิ่งไม้ก็หยุดเดิน เรียกขันทีน้อยคนหนึ่ง “กงกงน้อยคนนี้” ขันทีน้อยอายุประมาณสิบสองสิบสามปี […]

[ทดลองอ่าน] ช่วงเวลาดีๆ ที่มีแต่รัก เล่ม 2 บทที่ 68

ช่วงเวลาดีๆ ที่มีแต่รัก 造作时光    เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง 月下蝶影 เขียน Hanza แปล   — โปรย — “ข้าไม่มีทางทิ้งให้คนที่ข้ารักต้องรอข้านานถึงเพียงนี้” “เวลาสามปีเท่ากับสามสิบหกเดือน ชั่วชีวิตของคนเราจะมีสามปีได้สักกี่ครั้ง” “ชีวิตคนเราสั้นนัก จะปล่อยให้ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตเสียเปล่าไปได้อย่างไร”   ฮวาหลิวหลี สตรีอ่อนแอขี้โรค แต่แท้จริงนางเข้มเเข็งจนน่าเกรงขามยิ่ง จีหยวนซู่ รัชทายาทรูปงาม ปากร้าย เจ้าคิดเจ้าแค้น เพื่อสตรีของตนแล้ว ไม่ว่าเรื่องใดเขาก็ทำได้อย่างหน้าไม่อาย   _______________________________   ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ   (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์)   68   ฮ่องเต้ชางหลงบทจะทำตัวเป็นอันธพาลก็ทำได้อย่างหน้าไม่อาย เขาจับประเด็นที่ทูตแคว้นไต้เม่ากล่าวดูแคลนแม่ทัพหญิงอันดับหนึ่งแห่งแคว้นจิ้นไว้ไม่ปล่อย ยังจงใจกล่าวว่านี่เป็นความคิดของฮ่องเต้แคว้นไต้เม่าด้วย ทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายจงใจหาเรื่อง แต่เฮ่อหย่วนถิงจำต้องกล่าวขออภัย “ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ทำผิดต่อมโนธรรมในใจ ไม่กลัวข่าวลือเหลวไหลใดๆ เพคะ” เว่ยหมิงเย่ว์กังวลว่าฮ่องเต้ชางหลงจะถูกมองว่าเป็นอันธพาลไปจริงๆ “ถูกคนนินทาไม่กี่คำไม่เจ็บไม่คัน สิ่งสำคัญที่สุดยามนี้ก็คือสืบหาสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตของทูตแคว้นไต้เม่าเพคะ” ขุนนางผู้บันทึกกิจวัตรประจำวันของฮ่องเต้ที่นั่งหลบอยู่มุมหนึ่งรีบหยิบพู่กันขึ้นมาขีดเขียนกระดาษทันที ใจความว่า ฮ่องเต้ปกป้องแม่ทัพของตนเอง ขณะเดียวกันแม่ทัพเว่ยก็อดทนและมีจิตใจกว้างขวาง […]

[ทดลองอ่าน] ยุคสมัยแห่งธิดาอ๋อง เล่ม 3 บทที่ 98

ยุคสมัยแห่งธิดาอ๋อง 王女韶华   溪畔茶 ซีพั่นฉา เขียน ภวิษย์พร แปล   — โปรย — มู่หยวนอวี๋มาอยู่ในเมืองหลวงได้สามปีแล้ว แม้จะต้องเผชิญอุปสรรปัญหา ล้วนฝ่าฟัน เอาตัวรอดมาได้ทั้งสิ้น แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันพลันบังเกิด มู่หยวนอวี๋ประสบเหจุร้ายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ความลับที่พยายามเก็บรักษามาตลอดชีวิตกลับมีคนล่วงรู้ ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังเหตุร้ายทั้งหมดนี้คือใคร มู่หยวนอวี๋จะรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ และรักษาชีวิตอยู่ในเมืองหลวงได้ตลอดไปหรือไม่ … _______________________________   ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ   (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์)   บทที่ 98   สองคนพี่น้องพูดคุยกันหลังจากที่ไม่ได้คุยกันมานาน มู่หยวนอวี๋ไม่คิดจะสอดปาก แค่นั่งรับฟังอยู่ข้างๆ จูจิ่นยวนพูดได้ไม่เกินสามประโยคก็วกกลับมาถามเรื่องสุขภาพของพี่ชายอีกครั้ง จูจิ่นเซินก็ตอบอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย คนทั้งสองคุยกันไปได้สิบประโยคแล้วก็ยังพูดจาสุภาพมีมารยาท จูจิ่นเซินเองก็ไม่ได้เผยท่าทางรำคาญใจให้เห็น แต่มู่หยวนอวี๋มองออกว่าภายใต้คลื่นลมที่นิ่งสงบ อันที่จริงยังมีกลิ่นอายและสูตรสำเร็จที่คุ้นเคยแฝงอยู่ด้วย…จูจิ่นเซินไม่จำเป็นต้องเอ่ยวาจาเสียดแทงจูจิ่นยวน เพียงแค่พูดถึงเรื่องการฟื้นตัวของสภาพร่างกายอย่างตรงไปตรงมาก็สามารถทิ่มแทงหัวใจของน้องชายเขาให้ทะลุเป็นรูพรุนเหมือนตะแกรงร่อนได้แล้ว ทว่าจูจิ่นยวนกลับมองไม่ออก เขารู้สึกเหมือนมีเลือดไหลทะลักออกมาจากหัวใจของตัวเอง ข้อเสียสองข้อของพี่ชายคนรองที่มีนิสัยประหลาด หนึ่งคือร่างกายอ่อนแอ อีกหนึ่งคือนิสัยฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด ตอนนี้กลับดีขึ้นทั้งสองอย่าง หลังจากนี้เขาควรจะทำอย่างไร! จูจิ่นเซินยังไม่ได้ออกไปเปิดตัวข้างนอกสักครั้งก็ข่มเขาจนแทบจะหายใจไม่ออกแล้ว ก่อนหน้านี้เขามักจะรู้สึกว่าจูจิ่นเซินจะต้องพูดจาเหน็บแหนมตน ทำให้รู้สึกอึดอัดใจมาก ตอนนี้ถึงได้ค้นพบว่า พออีกฝ่ายไม่ได้เป็นอย่างนั้น […]

[ทดลองอ่าน] ยุคสมัยแห่งธิดาอ๋อง เล่ม 3 บทที่ 96

ยุคสมัยแห่งธิดาอ๋อง 王女韶华   溪畔茶 ซีพั่นฉา เขียน ภวิษย์พร แปล   — โปรย — มู่หยวนอวี๋มาอยู่ในเมืองหลวงได้สามปีแล้ว แม้จะต้องเผชิญอุปสรรปัญหา ล้วนฝ่าฟัน เอาตัวรอดมาได้ทั้งสิ้น แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันพลันบังเกิด มู่หยวนอวี๋ประสบเหจุร้ายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ความลับที่พยายามเก็บรักษามาตลอดชีวิตกลับมีคนล่วงรู้ ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังเหตุร้ายทั้งหมดนี้คือใคร มู่หยวนอวี๋จะรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ และรักษาชีวิตอยู่ในเมืองหลวงได้ตลอดไปหรือไม่ … _______________________________   ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ   (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์)   บทที่ 96   หลังจากเอาของไปส่ง มู่หยวนอวี๋ก็หวาดหวั่นอยู่สองวัน ถึงค่อยพบว่าคลื่นลมสงบดี ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น หรือเป็นเพราะฮ่องเต้มีราชกิจรัดตัว เลยไม่มีเวลามาถือสากับลูกไม้เล็กๆน้อยๆของนาง นางจึงเริ่มวางใจ และยังคงไปเรียนเป็นปกติทุกวัน เพียงแต่ว่าวันเวลาที่ไม่ได้พบหน้าจูจิ่นเซินค่อนข้างจะน่าเบื่อ มีจูจิ่นเซินอยู่ด้วย นางก็มีเป้าหมายที่ชัดเจน นั่นคือพยายามสาดความรู้สึกอันดีใส่เขา และเดิมทีการอยู่กับเขาก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง เขาไม่อยู่ นางก็ไม่ค่อยมีกะจิตกะใจจะพูดคุยกับคนในห้องสักเท่าไหร่ ต้องมาฟังเสียงท่องบทเรียนเหมือนเสียงท่องคัมภีร์สิบรอบแล้วก็อีกสิบรอบ นางจึงมักจะใจลอยอยู่บ่อยครั้ง คงเป็นเพราะนางเลือกข้างชัดเจนเกินไป จูจิ่นสวินรู้ว่าแย่งชิงตัวนางกลับคืนมาไม่ได้ ตอนนี้จึงไม่ค่อยจะพูดคุยกับนางสักเท่าไหร่ ส่วนจูจิ่นยวนนั้นไม่รู้ว่ามีเป้าหมายอะไรถึงชอบมาชวนนางคุยเป็นประจำ มู่หยวนอวี๋จำคำบอกของจูจิ่นเซินได้จึงรักษาระยะห่างกับจูจิ่นยวนอย่างมีมารยาท […]

[ทดลองอ่าน] ยุคสมัยแห่งธิดาอ๋อง เล่ม 3 บทที่ 97

ยุคสมัยแห่งธิดาอ๋อง 王女韶华   溪畔茶 ซีพั่นฉา เขียน ภวิษย์พร แปล   — โปรย — มู่หยวนอวี๋มาอยู่ในเมืองหลวงได้สามปีแล้ว แม้จะต้องเผชิญอุปสรรปัญหา ล้วนฝ่าฟัน เอาตัวรอดมาได้ทั้งสิ้น แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันพลันบังเกิด มู่หยวนอวี๋ประสบเหจุร้ายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ความลับที่พยายามเก็บรักษามาตลอดชีวิตกลับมีคนล่วงรู้ ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังเหตุร้ายทั้งหมดนี้คือใคร มู่หยวนอวี๋จะรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ และรักษาชีวิตอยู่ในเมืองหลวงได้ตลอดไปหรือไม่ … _______________________________   ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ   (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์)   บทที่ 97   กุญแจโซ่เหล็กที่คล้องประตูหลักถูกนำออกไปแล้ว มู่หยวนอวี๋พุ่งตัวเข้าไปราวกับบิน องครักษ์เสื้อแพรที่ยืนเข้าแถวอยู่สองฝั่งเตรียมจะถอยออก ไม่มีใครรั้งนางอีก องครักษ์บางคนมองแผ่นหลังของมู่หยวนอวี๋ด้วยแววตาเจือความเลื่อมใส…นี่สมกับประโยคที่ว่า เมื่อลมพายุพัดแรงจึงรู้ว่าหญ้าต้นไหนแข็งแกร่ง ในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความโกลาหลวุ่นวาย ถึงได้มองออกว่าใครไม่ใช่ขุนนางผู้ซื่อสัตย์ ช่วงเวลาที่องค์ชายรองถูกขังไม่ใช่เวลาสั้นๆ คนที่ไม่ยอมหลบเลี่ยงการตกเป็นผู้ต้องสงสัย ยอมเสี่ยงอันตรายมาที่นี่ก็มีแต่ท่านผู้นี้ แม้ว่าใบหน้าจะเหมือนผู้หญิงไปสักหน่อย แต่กลับมีนิสัยเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว ไม่เสียแรงที่เป็นผู้สืบทอดของอ๋องนักรบสกุลมู่   ในเรือนหลัก จูจิ่นเซินเองก็เพิ่งได้รู้ข่าวนี้ คนข้างนอกถอยออกไปอย่างเงียบเชียบ ไม่มีใครเข้ามาอ่านพระราชโองการอะไรให้เขาฟัง แต่เพราะคนครัวที่ต้องไปรับวัตถุดิบทำอาหารที่หน้าประตูตามกิจวัตรประจำวันพบเข้า ถึงได้วิ่งตะบึงกลับมารายงานเขาอย่างกระท่อนกระแท่นวกวน จูจิ่นเซินที่ถือถ้วยยาอึ้งตะลึงไปครู่หนึ่ง […]

[ทดลองอ่าน] โอตาคุวันสิ้นโลก เล่ม 4 บทที่ 102 : สะพานลอยฟ้า

โอตาคุวันสิ้นโลก 重生宅男的末世守则   暖荷 หน่วนเหอ เขียน เมิ่งเหวิน เเปล   นิยาย 7 เล่มจบ   ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์   ____________________________________   บทที่ 102 สะพานลอยฟ้า   งานก่อสร้างโครงการใหญ่มาอีกแล้ว การันตีได้เลยว่ามีงานให้ทำไปอีกนาน!   เมื่อได้ฟังถ้อยคำที่เหมือนการสารภาพรักของเหยียนเฟยประโยคนี้แล้ว ใบหน้าหลัวซวินก็แดงซ่านขึ้นอีกครั้ง ดวงตาเสมองไปทางอื่น “ฉันนึกว่า…ใครจะไปคิดล่ะว่านายจะเก็บเรื่องไร้สาระมาคิดเป็นตุเป็นตะได้ถึงขนาดนี้” ต่อให้เมื่อชาติที่แล้วเขาเคยจับมือกับคนคนนั้นมาก่อน…อย่างเช่นตอนหนีเอาชีวิตรอดต้องดึงอีกฝ่ายขึ้นรถอะไรประมาณนั้น แต่ที่แน่ๆ คือตอนนี้แม้แต่ชื่อของผู้ชายคนนั้นเขายังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่จะว่าไป… จู่ๆ หลัวซวินก็กวาดตาพิจารณาเหยียนเฟยด้วยสีหน้าบึ้งตึงแล้วพูดขึ้นว่า “ว่าแต่ถ้าเทียบกันแล้ว ฉันว่านายน่าจะมีอดีตเยอะกว่าฉันอีกนะ” เหยียนเฟยคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะกล้าสวนกลับตน ทว่าเหยียนเฟยยังคงเก็บสีหน้าอาการ ใบหน้าเปื้อนยิ้มอ่อนโยนไม่เปลี่ยน เขาเลื่อนมือข้างหนึ่งไปช้อนลำคอด้านหลังของหลัวซวิน ส่วนมืออีกข้างก็เลื่อนลงไปใต้ข้อพับเข่า “จะเอามาเทียบกันได้ยังไง ที่ฉันเป็นห่วงคือเรื่อง ‘คู่ชีวิตในอนาคต’ ในความฝันของนาย ไม่ใช่ขุดคุ้ยอดีตก่อนวันสิ้นโลกว่าเคยมีแฟนทั้งหญิงและชายมาแล้วกี่คนเสียหน่อย” หลัวซวินนึกฉุน “ใครจะไปรู้ เกิดอยู่ดีๆ มีแฟนเก่านายโผล่มาขอให้ฉันหลีกทางให้ โดยอ้างว่าเธอสามารถคลอดลูกให้นายได้ขึ้นมา ถึงตอนนั้นถ้านายคิดทิ้งคนรักที่ร่วมลำบากด้วยกันมา…ฉันก็…” ในสมองหลัวซวินสับสนตีรวนไปหมด จนเจ้าตัวก็คิดไม่ออกว่าจะพูดอะไรต่อดี รอยยิ้มบนใบหน้าเหยียนเฟยยิ่งเด่นชัดขึ้น เขาจ้องมองหลัวซวิน […]

[ทดลองอ่าน] โอตาคุวันสิ้นโลก เล่ม 4 บทที่ 103 : บทบัญญัติสามประการ

โอตาคุวันสิ้นโลก 重生宅男的末世守则   暖荷 หน่วนเหอ เขียน เมิ่งเหวิน เเปล   นิยาย 7 เล่มจบ   ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์   ____________________________________   บทที่ 103 บทบัญญัติสามประการ[1]   ไร้กฎเกณฑ์ย่อมไม่สำเร็จ   เวลานี้จางซู่กลับมาแล้ว แถมกลับมาพร้อมกับข่าวหนึ่งด้วย “อุปกรณ์ตัวใหม่ที่ทางฐานที่มั่นค้นคว้าวิจัยถูกนำออกมาใช้แล้ว” เขาพูดพลางหันไปมองหลัวซวินกับเหยียนเฟยด้วยสีหน้าแฝงรอยยิ้มแปลกๆ “เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ตรวจว่าติดเชื้อไวรัสซอมบี้หรือเปล่าโดยที่ไม่ต้องเจาะผิวหนัง เพียงสแกนบนร่างกายก็พอ แถมยังบอกว่าตรวจได้แม้กระทั่งบนตัวรถและเสื้อผ้าว่าปนเปื้อนเชื้อไวรัสซอมบี้มาด้วยหรือเปล่า ที่พวกเราออกไปนอกฐานคราวก่อนโชคไม่ค่อยเข้าข้างสักเท่าไร นี่เพิ่งกลับมาได้ไม่กี่วันพวกเขาก็นำอุปกรณ์เครื่องนี้ออกมาใช้แล้ว” หลังเล่าจบเขาก็ผายมือยักไหล่ ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น เขาไม่คิดเลยหรือว่าหนึ่งในคนที่โชคไม่ดีพอจะได้ใช้ของแบบนี้ก็คือตัวเขาด้วยเหมือนกัน ดูท่าสะใจนั่นสิ จะสะใจเพื่อ? หลัวซวินเห็นสีหน้าท่าทางจะอาการหนักของจางซู่แล้วรู้สึกหมดคำพูด จึงได้แต่หันไปมองหวังตั๋วที่ตามติดจางซู่ชนิดไม่ห่างเกินสามก้าวด้วยสายตาสงสารจับใจ ส่วนหวังตั๋วยังคงยิ้มเซ่ออยู่เหมือนเก่า ราวกับคนโง่งมและซื่อบื้อที่ชีวิตในแต่ละวันมีแต่ความสุข จึงยิ่งทำให้หลัวซวินถึงกับทนมองไม่ได้หนักกว่าเดิม ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าทางฐานที่มั่นกำลังวิจัยอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อที่ง่ายและสะดวกมากขึ้น เพราะพวกเขามีจางซู่ซึ่งเป็นคนวงในเป็นเพื่อนร่วมทีมอยู่ทั้งคน เพียงแต่จะสามารถวิจัยออกมาอย่างเป็นรูปธรรมได้วันไหน และมีประสิทธิภาพการใช้งานจริงเป็นอย่างไรนั้น ไม่ใช่เรื่องที่จางซู่ผู้เป็นศัลยแพทย์จะสามารถรู้ก่อนได้ เขาก็ได้แต่ถามข่าวคราวทั่วๆไปเท่านั้น ส่วนเรื่องรายละเอียดที่เจาะจงมากกว่านี้ต้องรอให้นำออกมาใช้งานจริงก่อนถึงจะรู้ผล จากนั้นจางซู่ก็เล่าข่าวที่สองของค่ำคืนนี้ต่อ “ส่วนอีกข่าวหนึ่งก็คือ… อุปกรณ์ที่ลือว่าสามารถตรวจจำแนกประเภทและระดับขั้นของพลังพิเศษก็คิดค้นออกมาได้แล้วด้วย เห็นว่าตอนนี้กำลังทดสอบกันในกองทัพ ถ้ายืนยันแล้วว่าไม่มีข้อผิดพลาดอะไรก็สามารถนำมาใช้ได้เลย” เขาเล่าพลางยิ้มบางๆ “ข่าวนี้ยังเป็นความลับอยู่นะ […]

[ทดลองอ่าน] เมื่อผมเป็นเจ้าของสวนสัตว์ : ตอนที่ 53.3

เมื่อผมเป็นเจ้าของสวนสัตว์ 我开动物园那些年   ลาเหมียนฮวาถังเตอะทู่จื่อ เขียน 拉棉花糖的兔子   Himazan แปล   ติดตามกำหนดการวางขายหนังสือได้ที่เพจ Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส   ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์   +++++++++++++++++++   บทที่ 53.3   วันต่อมา ทีมงานของรายการทั้งทีมต่างรู้เรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์หลิงโย่วไม่รู้ว่าใครที่ทำตัวเจ้าเล่ห์ ใส่ชุดมาสคอตออกมากอดราชินีจอเงินอย่างสนิทสนมร่วมสิบนาที ราชินีจอเงินเข้าใจว่าเป็นแผนของทีมงานเลยเล่นด้วย สุดท้ายพอทีมงานเฉลย เจ้าเพนกวินตัวนี้ก็หนีหายไปแบบใส ๆ ปล่อยให้ราชินีจอเงินเหวออยู่นาน เรื่องนี้ถูกแจ้งให้คนภายในสวนสัตว์ทราบ เวลามีดารามาเยอะ ๆ สวนสัตว์หลิงโย่วจะมีกฎว่าไม่ให้ไปรบกวนการทำงานของทีมงาน และต้องช่วยเคลียร์นักท่องเที่ยวที่มามุงด้วย ช่วงที่ดารากลุ่มนี้ถ่ายทำกันตอนกลางคืน อย่างมากคนส่วนใหญ่ก็แค่คอยดูอยู่ข้างนอก หรือถ้ามีโอกาสถ่ายรูปคู่ ก็ห้ามไปอยู่ด้วยเป็นสิบนาทีเหมือนมาสคอตตัวนั้น ถึงขั้นมีการกอดรัดฟัดเหวี่ยงอีกต่างหาก ด้วยเหตุนี้ มาสคอตตอนนั้นเป็นใคร ไอเดียสุดยอดมาก! เพราะพอแต่งชุดมาสคอตก็เข้าไปหาราชินีจอเงินได้เลย ทำเอาทุกคนอิจฉาริษยากันสุด ๆ ทั้งที่ชุดมาสคอตก็มีเยอะ แต่ทำไมพวกเขาถึงคิดวิธีนี้กันไม่ได้นะ…! ตอนต้วนเจียเจ๋อกินข้าว เขาได้ยินเสี่ยวซูเล่า “ผู้อำนวยการคะ คุณว่าถ้าฉันใส่ชุดมาสคอตฉีจี้ไปกอด จะมีโอกาสสำเร็จเยอะไหม ตอนนี้พวกเขาจะมีการเฝ้าระวังกันแล้วหรือเปล่า” […]

[ทดลองอ่าน] เมื่อผมเป็นเจ้าของสวนสัตว์ : ตอนที่ 53.2

เมื่อผมเป็นเจ้าของสวนสัตว์ 我开动物园那些年   ลาเหมียนฮวาถังเตอะทู่จื่อ เขียน 拉棉花糖的兔子   Himazan แปล   ติดตามกำหนดการวางขายหนังสือได้ที่เพจ Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส   ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์   +++++++++++++++++++   บทที่ 53.2   “ไอ้ปัญญาอ่อน!” เสี่ยวจิ่วแผดเสียงด่าอยู่ในห้องพักผ่อน อะไรที่เรียกว่าต้องเป็นคนของเขา เจ้ามนุษย์นี่เสียสติเป็นบ้าไปแล้วหรือไง ถึงตอนนี้ตัวเก้าหัวอย่างเขาจะเหลือแค่หัวเดียว แต่ในอดีตก็เคยเป็นวงศ์วานกับมังกรมาก่อนนะ! “มนุษย์คนนั้นน่าจะสมองมีปัญหาจริง ๆ” โหย่วซูกรีดนิ้ว “เมื่อวานเขาเดินมาหาฉัน ขอพรให้เจอไป๋ซู่เจินสะดุดล้ม ความจำเสื่อมลืมว่าตัวเองเป็นหมอ จะได้ตามเขาไปถ่ายหนังเล่นละคร” ไป๋ซู่เจิน “เช้านี้เขาตั้งใจมาที่ส่วนจัดแสดงของฉัน บอกว่าฉันไม่สวย” ทุกคน “…” “อย่าไปสนใจเขาเลยครับ” ต้วนเจียเจ๋อกินพลางพูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ ลู่ยาทำตัวเป็นอากาศ ปัดผมของต้วนเจียเจ๋อ เมื่อกี้ต้วนเจียเจ๋อบอกว่าเหมือนจะเห็นผมของตัวเองออกสีทอง ลู่ยาเลยฟันธงว่าเป็นเพราะต้วนเจียเจ๋ออยู่กับตนนาน เนื่องจากอยู่ต่อหน้าคนเยอะ ต้วนเจียเจ๋อจึงไม่สะดวกจะพูดว่ายีนของอีกาทองสามขาอย่างพวกคุณไม่แรงถึงขั้นทำให้คู่แปรสภาพไปด้วยหรอก คุณคิดไปเองมากกว่า ลู่ยาเห็นว่านี่ไม่ใช่เรื่องของตน และผู้อำนวยการเมิ่งไม่เคยเจอเขา หรือต่อให้เจอ เขาก็ดึงตัวแฟนหนุ่มของคนอื่นไปไม่ได้ เพราะมันยากมากเกินไป โหย่วซูมองท่าทางนิ่งเฉยของลู่ยาแล้วเอ่ย […]

แจ้งเตือนการใช้งานคุกกี้ เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดีที่สุด ได้แก่ คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ และคุกกี้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ศึกษารายละเอียดและการตั้งค่าคุกกี้เพิ่มเติมเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่านได้ใน นโยบายคุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า