เพราะเธอตายบนโซฟาตัวนั้น (붉은 소파) โชยองจู เขียน วิทิยา จันทร์พันธ์ แปล ติดตามการวางจำหน่ายได้ที่เพจ แพรวสำนักพิมพ์ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) ——————————————————————————————————————- บทที่ 1 สถานที่เกิดเหตุ 1 ไม่มีใครสักคนสงสัยเลยว่า ทำไมโซฟาสีแดงถึงตั้งอยู่ที่นั่น หลังเดินผ่านทางออกหมายเลขสี่ของสถานีอับกูจองออกมาด้านนอกและเลี้ยวเข้าไปในซอยเบื้องหน้า ก็จะพบอาคารหกชั้นทันที ชั้นแรกของตึกอยู่ระหว่างการปรับปรุงก่อสร้าง บริเวณหัวมุมจัดเป็นย่านการค้า ทว่าความคึกคักในละแวกนี้แทบไม่ส่งผลใดๆ กับที่นี่เลย เดิมที่นี่เคยเป็นร้านกาแฟ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นร้านขายของชำ แฟรนไชส์อาหารฟาสต์ฟู้ด กระทั่งคราวนี้ได้กลายเป็นร้านเครื่องสำอางแบรนด์ดัง บริษัทก่อสร้างได้ติดตั้งแผ่นเหล็กสีขาวสูงลิบไว้หน้าอาคารเพื่อป้องกันเสียงรบกวนด้วย วันหนึ่งที่เบื้องหน้าแผ่นเหล็กสีขาว คล้ายกับฮอริซอนต์[1]ขนาดใหญ่นี้ ได้มีคนนำโซฟาสีแดงมาวางตั้งไว้ มันเป็นโซฟาผ้าขนาดสองที่นั่ง ซึ่งหากเป็นเด็กก็อาจนั่งได้ถึงสามคน ผ้าคลุมของโซฟาไม่ได้มีสีแดงสด แต่เป็นสีแดงเลือดหมู ที่เท้าแขนทำมาจากท่อนไม้ลื่นเรียบ เวลาสัมผัสรู้สึกดีเหมือนยามเปิดฝาครอบเปียโนเก่า ขาของโซฟาตัวนี้เป็นไม้ โค้งงออ่อนช้อยมาก แต่ก็ดูสง่างามดังเช่นขาทั้งสี่ของแมวด้วย ไม่ว่าลมจะพัดแรงแค่ไหน ฝนจะตกหนักเพียงใด โซฟาตัวนี้ก็ยังคงตั้งอยู่ที่นั่น ในวันที่ฝนตกกระหน่ำ จะมีร่มคันหนึ่งวางอยู่บนนั้น และวันที่รุ่งสางอากาศหนาวยะเยือก ก็มีผ้าห่มลายสก็อตสีแดงคลุมทับโซฟาไว้ เห็นได้ชัดว่าโซฟาตัวนี้มีใครคนหนึ่งคอยดูแลเป็นอย่างดี ภายหลังมันได้กลายเป็นที่พักพิงสำหรับผู้คนมากมาย ชั้นหนึ่งของอาคารฝั่งตรงข้ามเป็นร้านอาหารพุนชิกจิบ[2] […]
Category Archives: ไม่มีหมวดหมู่
我愛種田 ผมแค่อยากปลูกผัก ส่วนความรักน่ะ… เล่ม 2 ลาเหมียนฮวาถังเตอะทู่จื่อ เขียน ตัวละครผู้ถูกแทงที่ท้อง แปล เรียลลิตี้ในโลกแรกจบลงพร้อมเรตติ้งสูงลิบแบบงงๆ ชุยชีฉาว เตรียมเข้าสู่โลกที่สองในบทบาทใหม่ บารอนหนุ่มผู้เป็นเจ้าเมืองเล็กๆ อย่าง นอร์ทัมเบอร์แลนด์ เมื่อสายเลือดเสินหนงมาปรากฏตัวในยุโรปยุคกลางทั้งที แผ่นดินที่เคยแห้งแตกระแหงจะเขียวขจีได้ขนาดไหนกัน —.—.—.—.—.—.—.—.—.— ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ โลกที่ 2: ปลูกผักทำไร่ในยุคกลาง (ต่อ) บทที่ 3.1 สนามหญ้าที่ใช้จัดงานเลี้ยงอยู่ด้านล่างของปราสาทบนที่สูง ชุยชีฉาวยืนทอดสายตาอยู่กับที่ เขาเห็นเหล่าเซิร์ฟกำลังพุ่งตัวไปด้านหน้าอย่างบ้าคลั่งราวกับวิ่งแข่ง ภาพที่คุ้นเคยนี้ทำให้เขาคิดถึงมหาวิทยาลัย C อยู่บ้าง เหมือน เหมือนมาก เหมือนพวกนักศึกษา ม. C ตอนโรงอาหารเปิดทำการเลย กลุ่มเซิร์ฟวิ่งตัดผ่านผืนหญ้าไปยังแม่น้ำสายเล็ก ผ่านตัวโบสถ์ ก่อนจะกระจายตัวกันออกไป เพื่อมุ่งหน้ากลับสู่กระท่อมของตน พลันเหล่าลูกเล็กเด็กแดงที่เฝ้ารอพวกเขากลับมากินข้าวอย่างหิวโหยก็ได้ยินเสียงอันน่าสะพรึง แม้จะไม่ถึงขั้นแผ่นดินไหวหรือภูเขาถล่ม […]
《古代吃货生存指南》 คู่มือการเอาตัวรอดของนักกิน เข่อเล่อเจียงทัง เขียน เสี่ยวหวา แปล — โปรย — เจียงซูเหย่าผู้เป็นดั่งถุงฟางข้าวใบหนึ่ง กลับกลายเป็นผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหารแปลกๆ หลากหลายรายการ ด้วยเหตุนี้เซี่ยสวินสามีแต่เพียงในนามจึงชื่นชอบ และหวงแหนนางยิ่งยวด . ขอเพียงได้กินอาหารฝีมือภริยา เท่านี้เขาก็พึ่งใจแล้วจริงๆ ส่วนสหายร่วมงานผู้ตะกละตะกลามเหล่านั้นน่ะหรือ… อย่าหวังว่าจะได้มากินอาหารฝีมือภริยาที่เรือนของเขาอีก . แค่เขาแบ่งปันให้บ้างเป็นครั้งคราว เท่านี้ก็นับว่าเขาใจกว้างอักโขแล้ว! _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) 41 วันรุ่งขึ้นหลังจากที่เจียงซูเหย่าไปคารวะฮูหยินผู้เฒ่าในตอนเช้าและออกมาจากห้องโถงโซ่วหนิงแล้วก็ได้ถูกสวีซื่อเรียกไว้ “น้องสะใภ้สาม” สวีซื่อค่อยๆเดินเข้ามาอย่างแช่มช้า แม้นางจะอายุสามสิบสองแล้ว แต่วันเวลากลับไม่ได้ทิ้งร่องรอยไว้บนใบหน้าของนางมากเกินไป น้อยมากที่สวีซื่อจะเป็นฝ่ายเข้ามาคุยกับเจียงซูเหย่าก่อน เจียงซูเหย่าจึงแปลกใจเล็กน้อย และหยุดฝีเท้ามองนาง นางยิ้มอย่างอ่อนโยนเช่นเคย “ขอเชิญน้องสะใภ้ไปพูดคุยที่เรือนของข้าจะได้หรือไม่” เจียงซูเหย่าลังเลอยู่ชั่วครู่ และพยักหน้าเป็นคำตอบ เมื่อสาวใช้เลิกม่านขึ้น โจวซื่อได้เดินออกมาจากในห้อง พอได้ยินบทสนทนาระหว่างทั้งสอง แล้วขมวดคิ้วมองดูพวกนาง โจวซื่อผู้นี้ นิสัยสอดคล้องกับรูปร่างหน้าตาของนางเป็นอย่างมาก หน้าตาหุนหันพลันแล่น มุทะลุดุดัน ตรงไปตรงมา […]
我愛種田 ผมแค่อยากปลูกผัก ส่วนความรักน่ะ… เล่ม 2 ลาเหมียนฮวาถังเตอะทู่จื่อ เขียน ตัวละครผู้ถูกแทงที่ท้อง แปล เรียลลิตี้ในโลกแรกจบลงพร้อมเรตติ้งสูงลิบแบบงงๆ ชุยชีฉาว เตรียมเข้าสู่โลกที่สองในบทบาทใหม่ บารอนหนุ่มผู้เป็นเจ้าเมืองเล็กๆ อย่าง นอร์ทัมเบอร์แลนด์ เมื่อสายเลือดเสินหนงมาปรากฏตัวในยุโรปยุคกลางทั้งที แผ่นดินที่เคยแห้งแตกระแหงจะเขียวขจีได้ขนาดไหนกัน —.—.—.—.—.—.—.—.—.— ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ บทที่ 3.2 งานเลี้ยงของเจ้าเมืองทำเอาเหล่าเซิร์ฟครึกครื้นไปได้สิบกว่าวัน ยามว่างจากงาน พวกเขาไม่ได้คุยเรื่องธัญพืช จอบ หรือลูกของตัวเองเหมือนแต่ก่อน หัวข้อที่ทุกคนพูดถึงร่วมกันคือ ‘เนื้อในวันนั้น’ พวกเขาร่ายรายละเอียดของวันนั้นออกมาจนเกินจริง ทุกส่วนต้องเล่าอย่างละเอียดยิบ คนนี้บอกว่าวันนั้นข้าแทะไปจนถึงไขกระดูก คนนั้นบอกว่าได้กินตีนแกะ บ้างก็อวดว่าตนได้เนื้อเพิ่มจากหัวหน้าแม่ครัว จนโดนทุกคนด่าเป็นเสียงเดียวกัน พวกเขาเหมือนยังได้กลิ่นของวันนั้นอยู่เลย…ไม่สิ อาจจะได้กลิ่นจริงก็เป็นได้ เสื้อที่ไม่ได้ซักของพวกเขายังมีคราบสตูเลอะติดอยู่ ความครึกครื้นเช่นนี้โอบล้อมผู้คนจนกระทั่งเข้าสู่ช่วงหว่านเมล็ดในฤดูใบไม้ผลิ ตอนนายท่านมีคำสั่งให้พวกเขานำมูลที่ย่อยสลายแล้วพวกนั้นมาใส่ลงในแปลง ไม่มีใครอุทานว่า ‘บ้าไปแล้ว’ ออกมาเลย แน่นอนว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะมีหัวหน้าหมู่บ้านกับทหารถือไม้เฝ้าอยู่ด้านข้าง นายท่านมีคำสั่งให้ทุกคนเก็บรวบรวมมูลไปแลกถั่วตั้งแต่ช่วงครึ่งปีแรก […]
《古代吃货生存指南》 คู่มือการเอาตัวรอดของนักกิน เข่อเล่อเจียงทัง เขียน เสี่ยวหวา แปล — โปรย — เจียงซูเหย่าผู้เป็นดั่งถุงฟางข้าวใบหนึ่ง กลับกลายเป็นผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหารแปลกๆ หลากหลายรายการ ด้วยเหตุนี้เซี่ยสวินสามีแต่เพียงในนามจึงชื่นชอบ และหวงแหนนางยิ่งยวด . ขอเพียงได้กินอาหารฝีมือภริยา เท่านี้เขาก็พึ่งใจแล้วจริงๆ ส่วนสหายร่วมงานผู้ตะกละตะกลามเหล่านั้นน่ะหรือ… อย่าหวังว่าจะได้มากินอาหารฝีมือภริยาที่เรือนของเขาอีก . แค่เขาแบ่งปันให้บ้างเป็นครั้งคราว เท่านี้ก็นับว่าเขาใจกว้างอักโขแล้ว! _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) 40 เมื่อเซี่ยสวินกลับมาจากออกเวร ได้สาวเท้าเข้าไปในทางเข้าลานบ้าน แล้วได้เห็นเจียงซูเหย่าที่มักจะตากลมอยู่ที่ลานบ้านได้วางโต๊ะไว้ตัวหนึ่ง เขาเดินเข้าไปดู บนโต๊ะเต็มไปด้วยสูตรอาหารที่เจียงซูเหย่าเขียนขึ้น ลายมือยุ่งเหยิง ไม่มีหัวไม่มีหาง ดูเหมือนจะไม่มีวิชาความรู้อะไรเลยนั้นจะเป็นความจริง ซึ่งไม่ได้พูดเกินจริงแม้แต่นิด เซี่ยสวินส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ และหยิบขึ้นมาหนึ่งแผ่นค่อยๆแยกแยะตัวหนังสือ ตอนนั้นเองเจียงซูเหย่าก็ออกมาจากครัวเล็กพร้อมกับชามสองใบในมือ แล้วมีเจ้าตัวเล็กสองคนเดินตามอยู่ด้านหลัง เหมือนกับหางเล็กๆ “ท่านอาสาม” เซี่ยเจาตะโกนเสียงดัง เซี่ยสวินวางกระดาษลง พยักหน้าให้เขา และลูบผมดกหนาของเขา “ไฉนพวกเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้” นี่ไม่ใช่คำพูดไร้สาระหรอกหรือ […]
《古代吃货生存指南》 คู่มือการเอาตัวรอดของนักกิน เข่อเล่อเจียงทัง เขียน เสี่ยวหวา แปล — โปรย — เจียงซูเหย่าผู้เป็นดั่งถุงฟางข้าวใบหนึ่ง กลับกลายเป็นผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหารแปลกๆ หลากหลายรายการ ด้วยเหตุนี้เซี่ยสวินสามีแต่เพียงในนามจึงชื่นชอบ และหวงแหนนางยิ่งยวด . ขอเพียงได้กินอาหารฝีมือภริยา เท่านี้เขาก็พึ่งใจแล้วจริงๆ ส่วนสหายร่วมงานผู้ตะกละตะกลามเหล่านั้นน่ะหรือ… อย่าหวังว่าจะได้มากินอาหารฝีมือภริยาที่เรือนของเขาอีก . แค่เขาแบ่งปันให้บ้างเป็นครั้งคราว เท่านี้ก็นับว่าเขาใจกว้างอักโขแล้ว! _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) 39 วันนี้เซี่ยสวินเลือกที่จะนั่งรถม้าแทนการขี่ม้า เพราะกลัวว่าน้ำแกงจะหกใส่กล่องอาหารที่ถืออยู่ในมือ เมื่อมาถึงตำหนักตงกงก็ถูกลิ่นเฉิงขวางไว้ เขาตกใจจนพูดไม่ออก “วันนี้เจ้าเอาน้ำแกงมาด้วยหรือ” เซี่ยสวินกล่าวว่า “เจ้ารู้ได้อย่างไร” “เห็นเจ้าแบบนี้ ผู้ใดจะไม่รู้บ้าง” เซี่ยสวินผู้นี้แม้ว่าปกติจะเดินอย่างมั่นคงมาก แต่ไม่ถึงกับตึงเครียดเช่นนี้ แม้กระทั่งมุมเสื้อคลุมก็ไม่ขยับ ไม่ต่างกับเก่อชิงซูหญิงตระกูลสูงศักดิ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองหลวงมากนัก แน่นอนคำพูดประโยคนี้ลิ่นเฉิงไม่กล้าพูดออกมา ถึงอย่างไรในทุกๆวันล้วนแต่อาศัยขอกินอาหารกลางวันจากเซี่ยสวินเพื่อบรรเทาความหิว เขาหัวเราะแหะๆ ทอดถอนใจว่าเซี่ยสวินได้แต่งงานกับภรรยาดีไปพลาง และทอดถอนใจว่าตัวเองไม่ได้แต่งภรรยาแต่ก็พลอยได้ลาภปากไปด้วยไปพลาง เช่นนี้มิยิ่งดีกว่าหรือ เมื่อถึงตอนเที่ยง ลิ่นเฉิงนั่งตรงข้ามเซี่ยสวินอย่างเชื่อฟัง […]
《古代吃货生存指南》 คู่มือการเอาตัวรอดของนักกิน เข่อเล่อเจียงทัง เขียน เสี่ยวหวา แปล — โปรย — เจียงซูเหย่าผู้เป็นดั่งถุงฟางข้าวใบหนึ่ง กลับกลายเป็นผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหารแปลกๆ หลากหลายรายการ ด้วยเหตุนี้เซี่ยสวินสามีแต่เพียงในนามจึงชื่นชอบ และหวงแหนนางยิ่งยวด . ขอเพียงได้กินอาหารฝีมือภริยา เท่านี้เขาก็พึ่งใจแล้วจริงๆ ส่วนสหายร่วมงานผู้ตะกละตะกลามเหล่านั้นน่ะหรือ… อย่าหวังว่าจะได้มากินอาหารฝีมือภริยาที่เรือนของเขาอีก . แค่เขาแบ่งปันให้บ้างเป็นครั้งคราว เท่านี้ก็นับว่าเขาใจกว้างอักโขแล้ว! _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) 38 หลังจากที่คนทั้งสองกินเสร็จแล้ว เมื่อเซี่ยสวินเห็นเจียงซูเหย่าเริ่มนั่งไม่ติดที่ ก็กล่าวกับนางว่า “วางใจเถอะ ข้าเชื่อว่าท่านแม่ยายจะต้องคิดได้” เจียงซูเหย่าถามอย่างไม่แน่ใจว่า “หรือไม่ข้าไปคุยกับมารดาอีกครั้งดีหรือไม่ บอกสิ่งที่ข้าเห็นในวันนี้ให้นางฟัง” นางกังวลว่าหลินซื่อจะเหมือนนางเมื่อก่อน ที่ไม่เข้าใจอาหารประจำวันของชาวบ้านทั่วไป และไม่สนใจในการค้านี้ “เจ้าเข้าใจว่าท่านแม่ยายเหมือนกับเจ้าอย่างนั้นหรือ” เซี่ยสวินไม่ได้เป็นกังวลในเรื่องนี้และจิบชาอย่างสบายอกสบายใจ เมื่อเจียงซูเหย่าเห็นเขาเป็นเช่นนี้ ใจก็สงบลงอยู่หลายส่วน หลังจากนั้นไม่นาน หลินซื่อก็ส่งคนไปเชิญเจียงซูเหย่าไปที่เรือนของนาง ปฏิกิริยาแรกของเจียงซูเหย่าคือหันมามองเซี่ยสวิน เซี่ยสวินกล่าวว่า “ไปเถอะ ไม่ต้องเป็นกังวล” เจียงซูเหย่าพยักหน้า […]
เชิญร่ำสุรา 將進酒 ถังจิ่วชิง 唐酒卿 กอหญ้า แปล “เกราะแขนอันนั้นไม่เลวนี่” เซียวฟางซวี่เหยียบราวกั้นไม้และนั่งลง เห็นเซียวฉือเหย่หันกลับมา จึงเบี่ยงตัวมองสีหน้าของเขา “ทำจากที่ใด ไม่ใช่แบบของฉี่ตง” “ต้องไม่เลวอยู่แล้ว” เซียวฉือเหย่ทำท่าเหมือนกำลังพูดความลับ “นั่นเป็นยันต์คุ้มภัยของข้า” เซียวฟางซวี่ตอบรับว่า “อืม” อย่างไม่ใส่ใจนัก จากนั้นถามต่อ “เป็นคนที่ใด คงมิได้ถูกเจ้าพาไปอยู่ค่ายเปียนปั๋วด้วยกระมัง ที่นั่นมีแต่ผู้ชายหยาบกระด้าง นางอายุเท่าไรแล้ว” เซียวฉือเหย่ย้อนถาม “นาง?” เซียวฟางซวี่ฟังไม่เข้าใจ เซียวฉือเหย่ถอยไปหลายก้าว เซียวฟางซวี่หรี่ตา “เจ้าคงมิได้พาบุตรสาวสกุลฮวากลับมาด้วยหรอกนะ” เซียวฉือเหย่ถอยหลังต่อไป พอเห็นบิดาทำหน้างุนงง จู่ๆ เขาก็หัวเราะออกมา มือปลดดาบหลางลี่และโยนไปด้านข้าง “เซียวฉือเหย่!” เซียวฟางซวี่ตระหนักถึงความผิดปกติ “เจ้าบอกข้ามาตามตรง” เซียวฉือเหย่พลันพูดเสียงดัง “เป็นผู้ชาย!” “หา?” เซียวฟางซวี่สงสัยว่าตัวเองฟังผิด ถึงกับเอียงหูฟังอีกครั้ง “ข้าหาผู้ชายกลับมาให้ท่าน!” แสงแดดสาดส่องใบหน้าเซียวฉือเหย่ ขับไล่ความหม่นหมองเมื่อวานออกไป เจ้าหนุ่มผู้นี้นิสัยเสียยิ่งนัก ตะโกนอย่างท้าทาย “บุรุษที่งดงามที่สุดในต้าโจวก็คือภรรยาข้า!” พูดจบก็ไม่รอให้เซียวฟางซวี่ตอบ หันหลังโกยอ้าวทันที —.—.—.—.—.—.—.—.—.— ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> […]
เชิญร่ำสุรา 將進酒 ถังจิ่วชิง 唐酒卿 กอหญ้า แปล “เกราะแขนอันนั้นไม่เลวนี่” เซียวฟางซวี่เหยียบราวกั้นไม้และนั่งลง เห็นเซียวฉือเหย่หันกลับมา จึงเบี่ยงตัวมองสีหน้าของเขา “ทำจากที่ใด ไม่ใช่แบบของฉี่ตง” “ต้องไม่เลวอยู่แล้ว” เซียวฉือเหย่ทำท่าเหมือนกำลังพูดความลับ “นั่นเป็นยันต์คุ้มภัยของข้า” เซียวฟางซวี่ตอบรับว่า “อืม” อย่างไม่ใส่ใจนัก จากนั้นถามต่อ “เป็นคนที่ใด คงมิได้ถูกเจ้าพาไปอยู่ค่ายเปียนปั๋วด้วยกระมัง ที่นั่นมีแต่ผู้ชายหยาบกระด้าง นางอายุเท่าไรแล้ว” เซียวฉือเหย่ย้อนถาม “นาง?” เซียวฟางซวี่ฟังไม่เข้าใจ เซียวฉือเหย่ถอยไปหลายก้าว เซียวฟางซวี่หรี่ตา “เจ้าคงมิได้พาบุตรสาวสกุลฮวากลับมาด้วยหรอกนะ” เซียวฉือเหย่ถอยหลังต่อไป พอเห็นบิดาทำหน้างุนงง จู่ๆ เขาก็หัวเราะออกมา มือปลดดาบหลางลี่และโยนไปด้านข้าง “เซียวฉือเหย่!” เซียวฟางซวี่ตระหนักถึงความผิดปกติ “เจ้าบอกข้ามาตามตรง” เซียวฉือเหย่พลันพูดเสียงดัง “เป็นผู้ชาย!” “หา?” เซียวฟางซวี่สงสัยว่าตัวเองฟังผิด ถึงกับเอียงหูฟังอีกครั้ง “ข้าหาผู้ชายกลับมาให้ท่าน!” แสงแดดสาดส่องใบหน้าเซียวฉือเหย่ ขับไล่ความหม่นหมองเมื่อวานออกไป เจ้าหนุ่มผู้นี้นิสัยเสียยิ่งนัก ตะโกนอย่างท้าทาย “บุรุษที่งดงามที่สุดในต้าโจวก็คือภรรยาข้า!” พูดจบก็ไม่รอให้เซียวฟางซวี่ตอบ หันหลังโกยอ้าวทันที —.—.—.—.—.—.—.—.—.— ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> […]
เชิญร่ำสุรา 將進酒 ถังจิ่วชิง 唐酒卿 กอหญ้า แปล “เกราะแขนอันนั้นไม่เลวนี่” เซียวฟางซวี่เหยียบราวกั้นไม้และนั่งลง เห็นเซียวฉือเหย่หันกลับมา จึงเบี่ยงตัวมองสีหน้าของเขา “ทำจากที่ใด ไม่ใช่แบบของฉี่ตง” “ต้องไม่เลวอยู่แล้ว” เซียวฉือเหย่ทำท่าเหมือนกำลังพูดความลับ “นั่นเป็นยันต์คุ้มภัยของข้า” เซียวฟางซวี่ตอบรับว่า “อืม” อย่างไม่ใส่ใจนัก จากนั้นถามต่อ “เป็นคนที่ใด คงมิได้ถูกเจ้าพาไปอยู่ค่ายเปียนปั๋วด้วยกระมัง ที่นั่นมีแต่ผู้ชายหยาบกระด้าง นางอายุเท่าไรแล้ว” เซียวฉือเหย่ย้อนถาม “นาง?” เซียวฟางซวี่ฟังไม่เข้าใจ เซียวฉือเหย่ถอยไปหลายก้าว เซียวฟางซวี่หรี่ตา “เจ้าคงมิได้พาบุตรสาวสกุลฮวากลับมาด้วยหรอกนะ” เซียวฉือเหย่ถอยหลังต่อไป พอเห็นบิดาทำหน้างุนงง จู่ๆ เขาก็หัวเราะออกมา มือปลดดาบหลางลี่และโยนไปด้านข้าง “เซียวฉือเหย่!” เซียวฟางซวี่ตระหนักถึงความผิดปกติ “เจ้าบอกข้ามาตามตรง” เซียวฉือเหย่พลันพูดเสียงดัง “เป็นผู้ชาย!” “หา?” เซียวฟางซวี่สงสัยว่าตัวเองฟังผิด ถึงกับเอียงหูฟังอีกครั้ง “ข้าหาผู้ชายกลับมาให้ท่าน!” แสงแดดสาดส่องใบหน้าเซียวฉือเหย่ ขับไล่ความหม่นหมองเมื่อวานออกไป เจ้าหนุ่มผู้นี้นิสัยเสียยิ่งนัก ตะโกนอย่างท้าทาย “บุรุษที่งดงามที่สุดในต้าโจวก็คือภรรยาข้า!” พูดจบก็ไม่รอให้เซียวฟางซวี่ตอบ หันหลังโกยอ้าวทันที —.—.—.—.—.—.—.—.—.— ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> […]