แฟ้มคดีกรมปราบปีศาจ 步天纲 (Bu Tian Gang) 梦溪石 เมิ่งซีสือ เขียน ลลิตา ธ. แปล นิยาย 6 เล่มจบ วางจำหน่ายแยกเล่ม —.—.—.—.—.—.—.—.—.— ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ บทที่ 65 สองสามวันหลังจากนั้น ตงจื้อหลับ ๆ ตื่น ๆ นาฬิกาชีวิตรวนไปหมด บางครั้งเขารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตอนเย็น ดูโทรทัศน์นิดหน่อยแล้วก็ผล็อยหลับไป ตื่นมาอีกทีก็เป็นตอนกลางวันแล้ว บางครั้งก็หลับไปหลายครั้งในระหว่างวัน อาจเพราะการนอนไม่เป็นเวลา เขาไม่ได้พบหลงเซินอีกเลย จึงได้แต่สอบถามเอาจากพี่พยาบาลด้วยความผิดหวัง ถึงรู้ว่าจริง ๆ แล้วอาจารย์สุดที่รักของเขาเคยมาที่นี่สองสามหน เพียงแต่ทุกครั้งเขาหลับอยู่ตลอด อีกฝ่ายเลยอยู่แค่เดี๋ยวเดียวแล้วออกไป ตงจื้อเองก็ทำอะไรไม่ได้กับกิจวัตรการนอนหลับของตนในสภาพนี้ เรียกได้ว่าตอนนี้เขารู้ซึ้งถึงผลข้างเคียงของการอัญเชิญวิญญาณเข้าให้แล้ว รู้สึกงัวเงียอยากนอนทั้งวันยังไม่เท่าไหร่ แต่ร่างกายยังอ่อนล้ามากด้วย ช่วงสองสามวันแรกที่เพิ่งฟื้น ขนาดนอนอยู่บนเตียง ยังรู้สึกว่าเพดานกำลังหมุนคว้าง […]
Category Archives: ไม่มีหมวดหมู่
แฟ้มคดีกรมปราบปีศาจ 步天纲 (Bu Tian Gang) 梦溪石 เมิ่งซีสือ เขียน ลลิตา ธ. แปล นิยาย 6 เล่มจบ วางจำหน่ายแยกเล่ม —.—.—.—.—.—.—.—.—.— ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ บทที่ 62 ตงจื้อยังจำได้ จงอวี๋อีเคยพูดไว้ว่าระหว่างอัญเชิญวิญญาณขาวมักจะพบเจอสถานการณ์หนึ่ง นั่นคือ วิญญาณขาวตนที่ต้องการอัญเชิญมานั้นไม่สามารถมาได้ เหมือนก่อนหน้านี้ ตอนที่พวกเขาเข้าเรียนที่บ้านไร่ในเขตชนบท จงอวี๋อีล้มเหลวในการอัญเชิญเทพกวนอูกับงักฮุยติด ๆ กัน ไม่ใช่เพราะความสามารถของจงอวี๋อีสู้ตงจื้อไม่ได้ แต่เป็นเพราะเทพทั้งสองที่เขาอัญเชิญมานั้น ประการแรกมีชื่อเสียง สถานะสูงส่ง ย่อมเจ้าอารมณ์เป็นธรรมดา ไม่ใช่คิดอยากจะอัญเชิญก็อัญเชิญมาได้เลย ประการที่สอง เทพผู้ทรงธรรมจะสังเกตและรับฟังเหตุการณ์รอบด้าน ใช่ว่าจะ ‘ได้ยิน’ คำร้องขอของคุณตลอดเวลา ประการที่สาม ต่อให้ได้ยิน แต่ถ้าเขาอารมณ์ไม่ดีหรือไม่ถูกใจคุณก็ไม่มาอยู่ดี ด้วยเหตุนี้ […]
แฟ้มคดีกรมปราบปีศาจ 步天纲 (Bu Tian Gang) 梦溪石 เมิ่งซีสือ เขียน ลลิตา ธ. แปล นิยาย 6 เล่มจบ วางจำหน่ายแยกเล่ม —.—.—.—.—.—.—.—.—.— ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ บทที่ 63 คนที่หนีรอดจากความตายมาได้ในภาคปฏิบัติจริงครั้งแรกล้วนเป็นแบบเดียวกันหมด ซ่งจื้อฉุนเห็นมานักต่อนักแล้ว เขาไม่ได้พูดจาปลอบประโลมใด ๆ เพราะในภายภาคหน้ายังมีอันตรายอีกมากกำลังรอพวกเขาอยู่ ถ้าต้องมาปลอบขวัญทุกครั้ง เช่นนั้นแล้วคนอ่อนแอประเภทนี้ก็ไม่เหมาะที่จะอยู่ในกรมจัดการคดีพิเศษ การปรับสภาพจิตใจของตนให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเช่นนี้ และปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จลุล่วงท่ามกลางภยันตรายยิ่งยวดได้ทุกเมื่อต่างหาก ถึงจะตรงตามคุณสมบัติของการเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมจัดการคดีพิเศษ “ยังมีอีกคน…เหมือนจะยังไม่ตาย” จู่ ๆ ตงจื้อก็ลืมตา พูดสะลึมสะลือ “ใคร” ซ่งจื้อฉุนถาม ตงจื้อบอกปนเสียงหอบ “คนที่สู้กับผมเมื่อกี้ อยากจะระเบิดข้างล่างนั่นไง…” หลงเซินลูบหลังให้เขาหายใจสะดวก ตงจื้อจึงกล่าวได้คล่องขึ้น “ตอนแรกเขาล้มอยู่ไม่ห่างจากผม แต่เมื่อกี้ตอนออกจากห้องโถงหลัก ผมเห็นว่าเขาหายไปแล้ว” รูปร่างหน้าตาของชายคนนั้นโดดเด่นสะดุดตามาก […]
แฟ้มคดีกรมปราบปีศาจ 步天纲 (Bu Tian Gang) 梦溪石 เมิ่งซีสือ เขียน ลลิตา ธ. แปล นิยาย 6 เล่มจบ วางจำหน่ายแยกเล่ม —.—.—.—.—.—.—.—.—.— ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ บทที่ 61 หลงเซินชักกระบี่ออกจากฝัก กระโดดพรวดไปตรงหน้าหุ่นปีศาจพันศพ ขวางตัวที่กำลังกระโจนเข้าใส่เซี่ยชิงหนิง ขณะที่กระบี่ยาวในมือเหวี่ยงออกไปนั้น ความเร็วของมันว่องไวดุจลำแสงสีขาว ก่อนที่ทุกคนจะทันเห็นชัด หัวที่อยู่บนบ่าของหุ่นปีศาจพันศพก็ถูกบั่นไปแล้วห้าหกหัว หัวเหล่านั้นลอยกระจัดกระจายขณะยังอยู่ในท่าอ้าปากกว้างเท่าอ่างโลหิตกลางอากาศเพื่องับคน เขาไม่หยุดนิ่งแม้แต่อึดใจเดียว หมุนตัวมาตรงหน้าจางซง กระบี่เสียบเข้ากลางอกหุ่นปีศาจพันศพอีกตัว ไอดำเข้มข้นทะลักออกมาจากหุ่นปีศาจพันศพ ก่อนโดนหลงเซินเตะจนถอยไปหลายก้าว ซวนเซล้มลงกับพื้น จางซงอาศัยจังหวะนี้ขยับเข้าไปร่วมวงด้วย ตัดหัวทุกหัวของหุ่นปีศาจพันศพทิ้งไป หางตาตงจื้อแลเห็นชายสองคนนั้นกำลังขยับไปทางหลงเซินเงียบ ๆ คล้ายมีเจตนาแอบแฝง เขาเอากระบี่เข้าขวาง กำลังจะตะคอกถามสถานะของคนพวกนั้น คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะร้อนตัว นึกว่าตงจื้ออยากลงไม้ลงมือกับตน จึงถอยหลังไปหลายก้าว สีหน้าบอกความระแวดระวังทันที หนึ่งในนั้นใช้สองมือประสานมุทรา ท่องคาถาไม่รู้จักหลายประโยค และคลำเอาของบางอย่างจากในกระเป๋าเสื้อ ขว้างไปตรงหน้าตงจื้อ ของดังกล่าวขยายตัวขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่าง ยืดคองอหลัง อยู่ในท่าโจมตีอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ตงจื้อเพิ่งเข้าสู่โลกบำเพ็ญเพียรไม่นาน ประสบการณ์ที่พานพบก็ไม่นับว่ามากมายอะไร แต่เมื่อเขาเห็นการกระทำของชายหนุ่มคนนี้ ก็รู้ที่มาที่ไปของอีกฝ่ายทันที ที่คู่ลูกศิษย์อาจารย์ฟุจิคาวะอัญเชิญชิกิงามิออกมาต่อสู้บนเขาฉางไป๋ ก็เป็นวิธีเดียวกันนี้ คนพวกนี้จะต้องเป็นพวกเดียวกับคนญี่ปุ่นแน่! ดูเหมือนพวกเขาจะพลัดหลงกับกองกำลังหลัก แบบนี้ค่อยจัดการง่ายหน่อย พยัคฆ์ขาวคำรามก้องพลางกระโจนเข้าหา ตงจื้อก้มตัวหมอบต่ำเร็วไว ยกกระบี่ยาวขึ้น ผ่าส่วนท้องของพยัคฆ์ขาวเป็นทางยาว ชายผู้บังคับใช้ชิกิงามิพยัคฆ์ขาวเผยแววตาพรั่นพรึง อาวุธธรรมดาไม่อาจทำให้ชิกิงามิบาดเจ็บได้ เว้นแต่ว่าสิ่งที่อยู่ในมือตงจื้อจะเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ ตอนแรกเขาไม่เห็นตงจื้อในสายตา เพราะดูจากท่าทางการจับกระบี่และความเร็วในการตอบสนองของอีกฝ่ายแล้ว มากสุดก็ดีกว่ามือใหม่ที่เพิ่งใช้กระบี่หน่อยเดียวเท่านั้น แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับต่อกรกับพยัคฆ์ขาวด้วยอาวุธวิเศษในมืออย่างสูสี การมาของหลงเซินกับตงจื้อเป็นการช่วยหนุนพวกหลี่อิ้งขนานใหญ่ หลงเซินคนเดียวแทบจะจัดการหุ่นปีศาจพันศพทั้งหมด แต่หุ่นปีศาจพันศพเหล่านี้คงกระพัน ด้วยศีรษะและมือนับไม่ถ้วน พละกำลังในการต่อสู้ล้นเหลือ ต่อให้หลงเซินเก่งกาจแค่ไหนก็ไม่อาจกวาดล้างและกำจัดสิ่งชั่วร้ายเหล่านี้ได้หมดในชั่วพริบตา เซี่ยชิงหนิงเพิ่งมีโอกาสพักหอบหายใจ ทันใดนั้นหล่อนก็สัมผัสได้ว่ามีเสียงแหวกอากาศลอยมาทางท้ายทอย หล่อนหันกลับไปไม่ทัน ทำได้แค่เบี่ยงตัวหลบ ด้านหลัง ร่างที่โผล่มาด้วยความเร็วสูงเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศเพื่อพุ่งจู่โจมหล่อน จางซงเพิ่งใช้กระบี่กำจัดหุ่นปีศาจพันศพไปตัวหนึ่ง ระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้สั่นเทิ้มเป็นเหน็บชา เห็นดังนั้นจึงกระโดดตัวลอย แทงกระบี่ใส่เงาเลือนรางนั้น เขาไวมากแล้ว แต่อีกฝ่ายหายตัวไปกลางอากาศก่อนที่กระบี่ของเขาจะไปถึง ก่อนปรากฏตัวขึ้นข้างเซี่ยชิงหนิงอีกครั้ง และคว้าหมับไปที่ศีรษะหล่อนทันที! หลี่อิ้งเห็นดังนั้น ก็ขว้างยันต์ใบหนึ่งออกไปตามสัญชาตญาณ มันกลายเป็นไฟอาคมตกใส่ตัวอีกฝ่าย ฝ่ายหลังครางเสียงอู้อี้ ซวนเซไปด้านหลัง แผ่นหลังชนกำแพง […]
แฟ้มคดีกรมปราบปีศาจ 步天纲 (Bu Tian Gang) 梦溪石 เมิ่งซีสือ เขียน ลลิตา ธ. แปล นิยาย 6 เล่มจบ วางจำหน่ายแยกเล่ม —.—.—.—.—.—.—.—.—.— ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายได้ที่เพจ >> Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ บทที่ 60 เขาไม่ได้รำคาญหรือเร่งรัด ตงจื้อเสียอีกที่รู้สึกขัดเขินขึ้นมา ร้องไห้อยู่พักหนึ่งถึงค่อยหยุด ชายหนุ่มสูดน้ำมูกก่อนบอก “อาจารย์ คุณตั้งใจว่าจะรับลูกศิษย์กี่คนครับ ก่อนหน้าผมยังมีศิษย์พี่คนอื่นอีกไหม” หลงเซิน “ก่อนหน้านาย ฉันไม่เคยรับลูกศิษย์ หลังจากนายก็น่าจะไม่รับเพิ่มแล้ว” ตงจื้อสะดุ้ง “ผมเพอร์เฟคถึงขนาดที่ไม่มีใครเข้าตาอาจารย์อีกเลยเหรอ” หลงเซินส่ายหน้า “มีเยอะไปก็ไม่มีแรงสอน คนเดียวก็พอแล้ว” หมายความว่าหลิวชิงปัวหมดโอกาสแล้ว? ตงจื้ออดรู้สึกลิงโลดใจไม่ได้ แต่ก็รู้สึกลำบากใจอยู่ในที ถึงยังไงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง “อาจารย์ ตอนนี้พวกเราต้องไปช่วยคนอื่นก่อนหรือเปล่า” “รอ” รออะไร รอคน? หรือรอเวลาอะไร มองกราดลงไปจากที่สูง แสงตะคุ่มหลายจุดในถ้ำสะท้อนเข้าสู่นัยน์ตา มันคือ ‘ดอกแดนดิไลอัน’ คราแรกให้ความรู้สึกแปลกประหลาด แต่พอมองนานเข้ากลับรู้สึกคุ้นเคย ตงจื้อ “เมื่อกี้อาจารย์บอกว่าพรรณไม้ที่เหมือนดอกแดนดิไลอันพวกนี้ชื่อฟอร์เก็ตมีน็อตเหรอครับ” หลงเซิน “อืม พวกมันอยู่ทั่วทุกที่ ในภาพลวงตาก็มีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง ภูมิประเทศของที่นี่สลับซับซ้อนมาก เลยทำให้เกิดความสับสนของช่องว่างกับเวลา” ตงจื้อ “หลังจากที่พวกเราลอบโจมตีงูเหลือมยักษ์ จากนั้นเป็นยังไงต่อครับ พวกคุณมีกันตั้งหลายคน ทำไมถึงพลัดหลงกันได้” หลงเซิน “งูเหลือมยักษ์ดิ้นทุรนทุรายเพราะบาดเจ็บ น้ำในแม่น้ำหมุนวนเป็นเกลียวคลื่น คนบางส่วนถูกซัดไป ฉันกับรองอธิบดีซ่งออกไปตามหา แล้วเจอเข้ากับหุ่นปีศาจพันศพ” ตงจื้อ “หุ่นปีศาจพันศพคืออะไรครับ” หลงเซิน […]
นทธี ศศิวิมล เขียน (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) การที่มีคนได้นั่งใต้ร่มไม้ในวันนี้ ก็เพราะมีใครคนหนึ่งปลูกต้นไม้ไว้นานแล้ว – วอร์เรน บัฟเฟตต์ กำเริบ กว่าห้านาทีที่ศิราเริ่มสับสนอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง ว่านี่คือความจริงหรือความฝัน เนื่องจากความทรงจำเกี่ยวกับงานศพของย่าที่เสียไปนานแล้วลอยขึ้นมาตีกับภาพย่ากำลังทำข้าวต้มหมูสับตรงหน้า สลับกับเดินเก็บกวาดข้าวของที่เด็กๆ เล่นกันแล้วทิ้งไว้เกลื่อนพื้น หนำซ้ำเสียงเรียกหลานๆ กินข้าวของย่าก็ดังชัดเจนไม่ผิดเพี้ยนทุกสำเนียงขนาดนี้ ยังไม่ทันสรุปได้แน่ชัด ช่องท้องก็แข็งเกร็งขึ้นมากะทันหัน ความเจ็บปวดร้าวรานแผ่ไปทั่วตั้งแต่ลิ้นปี่ค่อยๆ ไล่ลามลงไปถึงหัวเหน่าและอวัยวะเพศปลุกเธอขึ้นอีกครั้งหลังการตื่นลวงเมื่อครู่ หญิงสาวกลอกตา มองไปรอบๆ เห็นครอบพลาสติกใสครอบปากและจมูกของตัวเองอยู่ เธอสะดุ้งเฮือกสุดตัว พยายามหายใจเข้า แต่ความดันในท้องจุกแน่นตีขึ้นมาถึงอกจนหายใจแทบไม่เข้า การรับรู้อยู่ในโลกสีเขียวผสมแดงก่ำช้ำเลือดช้ำหนอง ศิรานอนอยู่บนเตียงแคบๆ มีราวเหล็กกันตกเตียงขนาบสองข้าง ผวากับความเย็นเฉียบจนเหมือนน้ำแข็งเมื่อหลังมือขวาไปสัมผัสเข้า อาการเจ็บร้าวในท้องทุเลาลงพอให้เธอมีเวลาใช้ความพยายามนึกถึงเหตุการณ์ เรื่องราว สถานที่ หรืออะไรก็ได้ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ก่อนหน้าจะมาอยู่บนเตียงนี้ แต่นึกอย่างไรก็นึกไม่ออก ความทรงจำของเธอเหมือนลอยอยู่รำไรตรงหน้า ทว่าพยายามจะคว้า กลับคว้าไม่ได้ นั่นทำให้ ‘มัน’ เริ่มกลับมา! ศิราหายใจสั้นถี่กระชั้น ระลอกความกลัววูบวาบไปทั่วตัว ตาพร่า ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ตัวร้อนผ่าวตั้งแต่เท้าจนถึงใบหน้า รู้สึกเหมือนเนื้อตัวบวมเป่งใกล้จะระเบิดเต็มที เธอมองเห็นสายน้ำเกลือและเข็มปักคาอยู่หลังมือซ้าย รู้สึกว่าแถบพันรัดต้นแขนขวาเพื่อวัดความดันบีบรัดแขนจนแน่นแล้วคลายออกทันที มีเสียงอุปกรณ์เครื่องวัดอะไรต่ออะไรดังตี๊ดตื๊ดอยู่รอบตัว […]
การ์โล กอลโลดี เขียน ลลิตา ผลผลา แปลจากฉบับภาษาอังกฤษโดย อี. ฮาร์เดน อลิซ คาร์ซีวาดภาพประกอบ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) ———————————————————— กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มี… “พระราชาองค์หนึ่ง!” นักอ่านตัวน้อยของผมคงตะโกนขึ้น พร้อมๆกัน . ไม่ใช่หรอกนะเด็กๆ ทายผิดแล้วละ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีท่อนไม้อยู่ท่อนหนึ่งต่างหาก . ไม่ใช่ท่อนไม้ที่เลิศเลออะไรหรอก แค่ท่อนไม้ธรรมดาๆ อย่างที่ใช้ก่อไฟในเตาผิงให้ห้องอบอุ่นในฤดูหนาวนั่นละ ผมไม่รู้หรอกว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร แต่ความจริงคือ วันดีคืนดีไม้ท่อนนี้ก็เผอิญมาอยู่ในร้านของช่างไม้ชรา ผู้มีชื่อจริงว่ามิสเตอร์อันโตนีโอ แต่ทุกคนเรียกขานเขาว่ามิสเตอร์เชอร์รี่ เพราะปลายจมูกเขาเป็นสีแดงก่ำเสมอ ราวกับผลเชอร์รี่สุกกํ่า ทันทีที่มิสเตอร์เชอร์รี่สังเกตเห็นไม้ท่อนนี้เข้า ก็ดีใจจนเนื้อเต้น เขาถูมือสองข้างไปมาอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ไม้ท่อนนี้ มาได้จังหวะเสียจริง อย่างที่อยากได้มาทำขาโต๊ะตัวเล็กพอดีเชียว” จากนั้นเขาก็คว้าขวานคมกริบมาอย่างไม่รอช้าเพื่อถากเปลือก ไม้และเกลาผิวให้เรียบ ทว่าขณะเงื้อขวานจะจามลงครั้งแรกนั่นเอง เขาก็ต้องหยุดกึกค้างอยู่ในท่านั้น เพราะได้ยินเสียงเล็กๆอ้อนวอน เบาๆ “อย่าตีผมแรงนักนะครับ!” เด็กๆลองนึกภาพดูสิว่ามิสเตอร์เชอร์รี่ผู้ชราจะประหลาดใจ เพียงใดเขาเหลียวมองไปรอบห้องเพื่อดูว่าเสียงเล็กๆนั้นแว่วมา จากไหน แต่ก็ไม่เห็นใครสักคน เขาก้มดูใต้ม้านั่ง—ไม่มีใคร เปิดตู้ ซึ่งปิดอยู่เสมอก็ไม่มีใคร […]
ทิงทิงไม่ใช่คนน่ารักจริงๆ นะ น่งชิงเฟิง เขียน นิศารัตน์ แปล โปรย เฉินทิง หรือ ทิงทิง หนุ่มมหาวิทยาลัยที่บรรดาสาวๆ ต่างเอ็นดู ชีวิตเขามีแต่คนมองว่าน่ารัก ใครเลยจะรู้ว่าเขาก็เป็นคนคูลๆ ได้เหมือนกันนะ แต่ทำไมเปลี่ยนภาพลักษณ์เป็นคนเท่ๆ คูลๆ แล้ว แทนที่จะต้องตาโดนใจสาวๆ ดาวมหาวิทยาลัย กลับไปถูกใจหนุ่มฮ็อตแทนซะได้ เผยอี่เหยา ทั้งเรียนเก่ง หล่อ ล่ำ สูง รวย เท่และเย็นชา ครบสูตรหนุ่มที่สาวๆ ทั้งมหาวิทยาลัยใฝ่ฝัน หนุ่มฮ็อตรุ่นน้องคนนี้จะมาชอบทิงทิงจริงๆ เหรอ! มาพบกับเรื่องราวความรักระหว่างหนุ่มน้อยน่ารักกับหนุ่มฮ็อต และตอนพิเศษอีก 3 ตอนกันเลย นิยายเล่มเดียวจบ ———————————————————– ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายหนังสือได้ที่เพจ Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ 5 เผยอี่เหยาไม่คิดเลยว่าจะมาเจอคนคนนี้อีกครั้งในงานปาร์ตี้ เขาชื่ออะไรนะ ทิงทิง? […]
ทิงทิงไม่ใช่คนน่ารักจริงๆ นะ น่งชิงเฟิง เขียน นิศารัตน์ แปล โปรย เฉินทิง หรือ ทิงทิง หนุ่มมหาวิทยาลัยที่บรรดาสาวๆ ต่างเอ็นดู ชีวิตเขามีแต่คนมองว่าน่ารัก ใครเลยจะรู้ว่าเขาก็เป็นคนคูลๆ ได้เหมือนกันนะ แต่ทำไมเปลี่ยนภาพลักษณ์เป็นคนเท่ๆ คูลๆ แล้ว แทนที่จะต้องตาโดนใจสาวๆ ดาวมหาวิทยาลัย กลับไปถูกใจหนุ่มฮ็อตแทนซะได้ เผยอี่เหยา ทั้งเรียนเก่ง หล่อ ล่ำ สูง รวย เท่และเย็นชา ครบสูตรหนุ่มที่สาวๆ ทั้งมหาวิทยาลัยใฝ่ฝัน หนุ่มฮ็อตรุ่นน้องคนนี้จะมาชอบทิงทิงจริงๆ เหรอ! มาพบกับเรื่องราวความรักระหว่างหนุ่มน้อยน่ารักกับหนุ่มฮ็อต และตอนพิเศษอีก 3 ตอนกันเลย นิยายเล่มเดียวจบ ———————————————————– ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายหนังสือได้ที่เพจ Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ 6 คืนนี้หยางซู่หลินดูเฉินทิงเล่นเกมล่าสัตว์ไปสามชั่วโมง ละมั่งและไฮยีน่าคือสัตว์ตัวโปรดของเฉินทิง ส่วนจระเข้คือตัวที่มักลอบโจมตีได้น่ารำคาญที่สุด […]
禁じられた遊び ปลุกมาหลอน ชิมิซุ คารูมะ เขียน ฉวีวงศ์ อัศวเสนา เเปล (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) ———————————————————— บทนำ เอ๊ะ…อะไร คูราซาวะ ฮิโรโกะ วางกระเป๋าลงบนโต๊ะ ค่อย ๆ กวาดสายตาไปรอบห้องกินข้าวพร้อมครัว เธอมองตรวจตราได้ทั่วถึงทุกซอกมุมก็เพราะประตูบานเลื่อนที่กั้นระหว่างห้องกินข้าวขนาดหกเสื่อ[1]กับห้องครัวขนาดสี่เสื่อครึ่งถูกยกทิ้งไป จึงมีพื้นที่รวมกันกว้างกว่ายี่สิบตารางเมตร ห้องนี้ตกแต่งด้วยสีขาวและชมพูเป็นหลัก ประดับด้วยตุ๊กตากระเบื้องตัวเล็กตัวน้อยเต็มไปหมด ออกจะกระจุ๋มกระจิ๋มเกินไปสำหรับสาวสำนักงานวัยยี่สิบสี่ และขัดกันอย่างสิ้นเชิงกับความเย็นยะเยือกอย่างประหลาดภายในห้อง กุญแจที่วางไว้บนโต๊ะเลื่อนตกลงบนพื้นเสียงเหมือนของแหลมคมเจาะลงไปบนเนื้อไม้ ม่านหน้าต่างพลิ้วอยู่ไหว ๆ พัดลมระบายอากาศก็หมุนแล้วจู่ ๆ ก็หยุด “หยุดเสียทีเถอะ ฉันขอร้อง ทำไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกนะ โกรธแค้นอะไรนักหนา ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอสักหน่อย” ฮิโรโกะร้องอุทธรณ์ออกไปดัง ๆ คล้ายกับว่ามีใครสักคนยืนอยู่ตรงหน้า ความวิปริตของทุกสิ่งอย่างในห้องสั่นประสาททุกส่วนให้ตึงเขม็งจนถึงขีดสุด น้ำตาซึมออกมาคลอเบ้า ความปั่นป่วนกวนประสาทภายในห้องซาลงทันใด ราวกับยินยอมผ่อนตามคำขอ พอโล่งอกฮิโรโกะก็คอแห้งขึ้นมาทันที จึงเดินไปที่อ่างล้างจาน ยื่นมือหยิบแก้วน้ำที่วางอยู่ตรงนั้น แต่แค่โดนปลายนิ้วเธอแก้วใบนั้นก็แตกละเอียดเหมือนลูกโป่งถูกเข็มเจาะ เศษแก้วกระจายว่อน ฮิโรโกะยืนนิ่งขึงอยู่ตรงนั้น และพอเห็นปลายนิ้วถูกสะเก็ดแก้วจนเลือดซึมออกมาเป็นหยดกลมแดงที่ปากแผล ก็ใจเสียเดินโผเผไปทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ในครัว แล้วก็ต้องสะดุ้งตัวลอยเพราะจอโทรทัศน์สว่างจ้าขึ้นมาเองโดยที่ไม่ได้กดรีโมต จอสว่างไร้ภาพมีแต่จุดละเอียดยิบพร่างพรายหมุนเวียนราววังวน ขณะที่ฮิโรโกะตะลึงมองอยู่นั้น ใบหน้าของหญิงคนหนึ่งก็ผุดขึ้นมาช้า ๆ […]