นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก CRYPTOCURRENCY เพราะเป็นเหรียญการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีมากที่สุดในช่วงนี้ แต่คำถามสำคัญที่ทุกคนอยากรู้ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือเก่าก็คือ “เหรียญไหนน่าลงทุน” ขอแนะนำ 5 เหรียญ CRYPTOCURRENCY น่าลงทุนแห่งปี 2022 ที่จะทำให้การลงทุนของคุณเติบโตมากกว่าเดิม! Bitcoin: BTC Coin MarketCap Rank #1 เหรียญ Cryptocurrency อันดับหนึ่งของโลก ยังคงเป็นเหรียญที่น่าลงทุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการถือระยะยาว ประมาณว่า ถอนเงินฝากจากธนาคารที่นอนนิ่ง ๆ ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร มาลงทุนซื้อ Bitcoin เก็บไว้ โดยราคา ณ กลางเดือน พฤษภาคม 2021 อยู่ที่ประมาณ 1,300,000 บาท ซึ่งตกจากราคาสูงสุดที่เคยขึ้นไปถึงคือ 2,100,000 บาท หรือราคาหายไปราว 40% ซึ่งเป็นผลมาจากที่ Elon Musk กล่าวโจมตี Bitcoin การขายทำกำไรของกองทุน และการประกาศไม่ยอมรับ Bitcoin ของประเทศจีน เมื่อเทียบกับการตกต่ำครั้งใหญ่ของ Bitcoin ในปี […]
Category Archives: How To
ส่วนที่สอง กุญแจ กุญแจที่หล่นลงมา เกลนน็อน ดอยล์ เขียน K.D. แปล ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง สร้างกรงขังสำหรับทุกคน เธอ รู้ ขณะที่ผู้ทรงภูมิ ที่ต้องก้มหัวหลบ ยามจันทราคล้อยต่ำ ทำกุญแจหล่นไว้ให้ตลอดทั้งคืน เพื่อ นักโทษ แสนสวย จอมโวยวายทั้งหลาย ฮาฟีซ ตัวตนของฉันไม่ได้หายไปจากโลกนี้เสียทั้งหมด ประกายไฟยังคงอยู่ภายในตัวฉันเสมอ คุกรุ่น แต่ที่แน่ๆฉันรู้สึกเหมือนตัวเองหายไปนานมาก โรคบูลีเมียที่ฉันเป็นตอนเด็กทำให้ฉันค่อยๆ ติดเหล้ายา ฉันอยู่ในสภาพเย็นชาไร้ความรู้สึกมา 15 ปี จากนั้นพอฉันตั้งครรภ์เมื่ออายุ 25 ฉันก็เลิกเหล้าได้ การอยู่ในสภาวะไม่เมาทำให้ฉันเริ่มจดจำตัวตนที่แท้จริงของตัวเองขึ้นมาได้ เรื่องมันเป็นแบบนี้ ฉันเริ่มต้นสร้างชีวิตตามแบบที่เชื่อว่าผู้หญิงควรจะเป็น ฉันเป็นภรรยาที่ดี เป็นแม่ที่ดี เป็นคริสตศาสนิกชนที่ดี เป็นพลเมืองที่ดี เป็นนักเขียนที่ดี และเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ในขณะที่ฉันทำอาหารกลางวันให้เด็กๆ หิ้วไปโรงเรียน เขียนหนังสือบันทึกความจำของตัวเอง รีบเร่งไปสนามบิน พูดคุยทักทายเพื่อนบ้าน และดำเนินชีวิตไปเรื่อยๆ ข้างในฉันรู้สึกถึงความกระสับกระส่ายที่เหมือนกระแสไฟฟ้าพลุ่งพล่านอยู่ภายใน มันเหมือนกับพายุที่ร้องครืนๆอยู่ ข้างในตัว […]
ผู้นำจะนำพาองค์กรไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่แน่นอนในอนาคตได้อย่างไร สิ่งนี้เป็นโจทย์ท้าทายที่ผู้นำทุกสายงานต้องเผชิญ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของผู้นำเท่านั้น แต่สมาชิกขององค์กรต้องร่วมมือ เพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่แน่นอนนี้ด้วยเช่นกัน เรามาดู “กลยุทธ์สร้างความต่างขั้นเทพ” จากหน่วยงานขาดทุนสู่อันดับหนึ่งของธุรกิจ กลยุทธ์นี้จะเป็นเครื่องมือในการเริ่มต้นสร้างการเปลี่ยนแปลงด่านแรกในองค์กรได้อย่างไร เราไปติดตามประสบการณ์จาก ควอน โอ ฮยุน CEO ของ SAMSUNG ที่ได้ทำให้หน่วยงานขาดทุนกลับมาเป็นอันดับหนึ่งได้อีกครั้ง เขาใช้กลยุทธ์อะไร! ให้ข้อมูลอย่างรวบรัดชัดเจน ขั้นตอนแรก ผู้นำต้องกำหนดเป้าหมายของการเปลี่ยนแปลงแล้วแจ้งสมาชิก ผู้นำต้องรู้แน่ชัดว่าเป้าหมายของการเปลี่ยนแปลงที่ต้องการคืออะไร และทำให้สมาชิกเห็นชอบกับเป้าหมายนั้น ขั้นตอนนี้ต้องระวังไม่ให้เป้าหมายซับซ้อน เข้าใจยาก หรือนำเสนอเป้าหมายที่เป็นไปไม่ได้ ผู้นำต้องอธิบายเป้าหมายไม่ซับซ้อนและเข้าใจง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วแจ้งสมาชิก หากเป้าหมายซับซ้อน ก็จะเกิดการตีความแตกต่างกัน และสร้างความสับสนในการกำหนดทิศทางเพื่อการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน ตลอดจนมีโอกาสสูงที่เหตุการณ์ต่างคนต่างพูดเกี่ยวกับวิธีการบรรลุเป้าหมายจะเกิดขึ้น ดังนั้น เป้าหมายสูงสุดจึงต้องรวบรัดชัดเจนที่สุด กำจัดงานที่ไม่จำเป็นต้องทำ ขั้นตอนที่สอง ผู้นำต้องกำจัดสิ่งต่างๆ ที่ไม่จำเป็นและเป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนแปลงไว้ล่วงหน้า หากผู้นำรู้สึกถึงความจำเป็นของการเปลี่ยนแปลง ก็เป็นไปได้สูงที่องค์กรนั้นกำลังทำงานจำนวนมาก ในขั้นตอนนี้สิ่งสำคัญคือการจัดทำ “รายการงานที่ไม่จำเป็น” คนเรามักถนัดทำรายการของงานที่ต้องทำ แต่ไม่ถนัดทำรายการของงานที่ไม่จำเป็นต้องทำ หากต้องการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง ต้องคัดงานที่ไม่จำเป็นออกจากรายการงานที่ต้องทำก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าเรามีเวลามากพอสำหรับการเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่ทำเราจะไม่มีเวลาสำหรับการเปลี่ยนแปลงแม้จะต้องการก็ตาม เพราะใช้เวลาไปกับงานที่ไม่จำเป็นอยู่เสมอ ผู้นำต้องสร้างพื้นที่ทางกายภาพที่สามารถกระโจนสู่การเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าสมาชิกยังได้รับมอบหมายงานจำนวนมาก ไม่ว่าจะชี้แจงเป้าหมายของการเปลี่ยนแปลงที่ดีแค่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถทำงานนั้นได้อย่างสบายใจ คนเรามีขอบเขตทางกายภาพที่เรียกว่าเวลาและขอบเขตของสมรรถภาพส่วนบุคคลด้วย แต่บ่อยครั้งที่เรามองข้ามขอบเขตเหล่านั้น แล้วพูดแต่ว่าต้องการการเปลี่ยนแปลง […]
หากคุณกำลังพบว่า ความจำและอารมณ์ผิดปกติ นอนหลับตอนกลางคืนไม่ดี รู้สึกเหนื่อยตลอดทั้งวัน คุณอาจกำลังมีปัญหาที่ “สมอง” ก็ได้ แต่อย่าเพิ่งกังวล เพราะการใช้ชีวิตของเรามีอำนาจเหนืออาการเหล่านั้น และสามารถเปลี่ยนแปลงโดยทิ้งคนเก่าที่มีความจำและอารมณ์ผิดปกติไปได้ ขอนำ เคล็ดลับสมองดีกับ ดร. ทอม โอไบรอัน “เชอร์ล็อก โฮล์มส์” แห่งวงการแพทย์ ที่จะพาคุณไปดูแลและฟื้นฟูสมองแบบองค์รวม โดยค้นปัญหาที่แท้จริงของสิ่งที่ทำให้คุณสมองล้า เราไปติดตามวิธีดีๆ นี้กัน มองหน้าตัวเองให้ถี่ขึ้น ให้สังเกตว่าตัวเองมีหน้าผากใหญ่เกินสัดส่วนหรือไม่ หากใช่ มีแนวโน้มเป็นโรคเซลิแอค ซึ่งเป็นโรคที่ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อกลูเตน ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในพืชจำพวกข้าวบารเลย์ ข้าวสาลี และข้าวไรย์ ซึ่งทำให้ดูดซึมสารอาหารอย่างเหมาะสมได้ยาก เมื่อไม่สามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีก็จะขาดกรดอะมิโน และเมื่อปริมาณกรดอะมิโนไม่เพียงพอก็ไม่สามารถมีระดับฮอร์โมนในสมองหรือสารสื่อประสาทที่สมดุลได้ ซึ่งสิ่งนี้จำเป็นสำหรับความสมดุลในการทำงานของสมอง เลี่ยงน้ำตาลเท่าที่จะทำได้ การกินน้ำตาลที่ผ่านกระบวนการต่างๆ เพิ่มการอักเสบในร่างกาย น้ำตาลทรายขาวเป็นหนึ่งในอาหารที่กระตุ้นการอักเสบมากที่สุด ไม่ว่าจะปริมาณเพียงใด หากอยากรักษาหรือเพิ่มคุณภาพการทำงานของสมอง ก็ต้องหยุดกินอาหารที่มีน้ำตาลสูง เพื่อให้สมองและร่างกายได้ปรับปรุง เมื่อไม่มีน้ำตาลก็จะพบว่าปัญหาทางอารมณ์ รวมถึงความวิตกกังวล ซึมเศร้า และกระวนกระวายจะน้อยลง ง่ายๆ เท่านี้เอง เปลี่ยนหัวฝักบัวใหม่ คลอรีนเป็นสารรบกวนการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อที่ทุกคนได้รับเพราะใช้น้ำประปา คลอรีนจะจับกับตัวรับไทรอยด์และขัดขวางไม่ให้ฮอร์โมนไทรอยด์เข้าสู่เซลล์ การลดการได้รับคลอรีนอาจมีประโยชน์ แต่เราไม่ควรดื่มน้ำลดลง โดยสามารถหาตัวกรองคลอรีนในฝักบัวได้ ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ […]
โอกาสได้งานในฝันจะมีเพิ่มขึ้น ถ้าคุณรู้ว่าจะถูกถามอะไรบ้างในการสัมภาษณ์งาน และนี่คือ 8 “คำถามสัมภาษณ์งาน” ยอดฮิตที่เด็กจบใหม่ต้องถูกถาม พร้อมด้วยเคล็ดลับการตอบที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณได้งานในองค์กรที่ใฝ่ฝัน เราไปติดตามกันว่ามีคำถามอะไรบ้าง! 1. แนะนำตัวเองให้ฟังหน่อย อาจเป็นคำถามที่เอาไว้ใช้ละลายพฤติกรรมให้ผู้ถูกสัมภาษณ์หายเกร็ง แต่ก็เป็นโอกาสให้ผู้สัมภาษณ์ได้ทำความรู้จักผู้สมัครมากขึ้น ในทางกลับกัน ก็เป็นโอกาสของผู้สมัครในการสร้างความประทับใจแรกเริ่มด้วย ถ้าเราเปิดตัวตอบคำถามนี้ได้ดี ก็จะมีส่วนทำให้บรรยากาศในการพูดคุยไหลลื่น และเป็นกันเองมากขึ้น การตอบคำถามอาจเริ่มอธิบายจากปัจจุบันว่าทำงานตำแหน่งอะไร แล้วย้อนไปถึงอดีตว่าเคยทำงานด้านไหนมาก่อน มีประสบการณ์ในด้านใดเป็นพิเศษ จากนั้นจึงจบด้วยการพูดถึงความสนใจ และเหตุผลที่อยากร่วมงานกับบริษัท พยายามพูดให้กระชับ เน้นเฉพาะใจความสำคัญ ไม่ต้องขยายความมาก หลีกเลี่ยงการพูดคุยเรื่องส่วนตัว และไม่จำเป็นต้องพูดถึงรายละเอียดที่มีในเรซูเม่ เช่น สถานศึกษา งานอดิเรก เพราะนั่นคือสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์รับทราบแล้ว แต่ถ้าในกรณีที่เราเพิ่งเรียนจบ ยังไม่มีประสบการณ์ทำงาน เราอาจต้องพูดถึงประวัติการศึกษา เหตุผลที่เลือกเรียนในสาขาที่จบมา กิจกรรมที่เคยทำระหว่างเรียน และแสดงออกถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะร่วมงานกับองค์กรนี้ โดยพยายามอธิบายว่าเราจะนำประสบการณ์ที่ได้จากการทำกิจกรรมมาประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์กับองค์กรได้อย่างไร 2. อธิบายถึงเป้าหมายในอาชีพของคุณหน่อยสิ ผู้สัมภาษณ์ ถามคำถามนี้เพราะอยากรู้เป้าหมายในการทำงานของผู้สมัคร และประเมินว่าองค์กรจะตอบโจทย์เป้าหมายนั้นได้หรือไม่ คำตอบนี้ยังสะท้อนได้ว่า ผู้สมัครเป็นคนมีความมุ่งมั่น ทะเยอทะยานมากน้อยเพียงใด ซึ่งคนที่ตั้งเป้าหมายสูงก็มีแนวโน้มที่จะต้องพัฒนาตัวเอง เพื่อไปถึงจุดนั้นให้ได้ และถ้ารับเข้าไปอยู่ในองค์กรก็อาจจะทำให้ได้บุคลากรที่พัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา ส่วนผู้สมัครที่ไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ อาจถูกประเมินว่าเป็นคนที่ไม่เคยคิดวางแผนเผื่ออนาคต ทำงานเพียงแค่ให้เสร็จไปเท่านั้น เคล็ดลับในการตอบคำถาม เราอาจเริ่มอธิบายจากเป้าหมายระยะสั้น 1- […]
การใช้เงินที่ได้รับจากการทำสิ่งที่ชอบ โดยนำมาลงทุนซ้ำๆ กับตัวเอง ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะจะยิ่งช่วยให้คุณมีหนทางเพิ่มรายได้มากขึ้น กฎ 7 ข้อ ของการนำเงินที่ได้จากสิ่งที่ชอบมาลงทุนซ้ำให้เกิดความมั่งคั่ง จะมีอะไรบ้าง ถ้าอย่างนั้นเราไปดูหัวข้อแรกของกฎ 7 ข้อ “เลือกซื้อประสบการณ์ดีกว่าสิ่งของ” กันเลยดีกว่า เลือกซื้อประสบการณ์ดีกว่าสิ่งของ สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาดสำหรับคนที่ต้องการสร้าง “วงจรมิรู้จบ” ให้สำเร็จคือ การใช้เงินไปกับสิ่งอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราชอบหรือสิ่งที่เราถนัด สมมติว่าคุณเริ่มทำธุรกิจใหม่จากสิ่งที่ชอบ และได้เงินมา 10,000 บาท คุณรู้สึกดีใจกับรายได้พิเศษนี้ จึงนำเงินนั้นไปซื้อนาฬิกาข้อมือที่อยากได้ แต่มันไม่มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณชอบหรือสิ่งที่คุณถนัด เพราะถือเป็นเพียงการซื้อของขวัญให้ตัวเอง แน่นอนว่า การซื้อของขวัญให้ตัวเองนานๆ ครั้ง ถือเป็นสิ่งจำเป็น แต่นี่คุณเพิ่งจะเริ่มเข้าสู่วงจรมิรู้จบ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดที่ควรทำในตอนนี้คือ การพยายามสร้างปัจจัยในการทำเงินจากสิ่งที่คุณชอบหรือสิ่งที่คุณถนัด ด้วยเหตุนี้จึงขอแนะนำว่า อย่าเพิ่งรีบซื้อของอย่างอื่น แต่ให้ใช้จ่ายเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ และขัดเกลาทักษะความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ชอบหรือสิ่งที่คุณถนัดจะดีกว่าจากตัวอย่างที่ยกมา ถ้านาฬิกาข้อมือที่คุณซื้อให้ตัวเองเป็นของขวัญ คือสิ่งที่คุณชอบหรือสิ่งที่คุณถนัดละก็ แทนที่จะซื้อนาฬิกาข้อมือเฉยๆ คุณน่าจะลองออกไปพบเจอคนที่ประสบความสำเร็จจากธุรกิจนาฬิกา หรือออกเดินทางไปดูตลาดนาฬิกามือสองของจริงในฝั่งตะวันตก เพราะการใช้เงินแบบนี้ถือเป็นการลงทุนที่ช่วยพิ่มความรู้และประสบการณ์ให้คุณได้ นี่คือแนวคิดพื้นฐานของกฎข้อแรก “เลือกซื้อประสบการณ์ดีกว่าสิ่งของ” เลือกใช้ของที่มีมูลค่ามากกว่าราคา มีประโยคดังของวอร์เรน บัฟเฟตต์ที่กล่าวไว้ในหนังสือ “กฎการลงทุนของบัฟเฟตต์ นักลงทุนอันดับ 1 ของโลกคิดและลงมือทำอย่างไร (ฉบับตีพิมพ์ใหม่)” เขียนโดย เจเน็ต […]
ทุกคนสามารถเพิ่มทรัพย์สินได้จากความสามารถ 4 อย่าง ได้แก่ ความสามารถในการหาเงิน เก็บเงิน รักษาเงิน และใช้เงิน คนที่มีความสามารถในการหาเงินจะเรียกว่าคนรวยได้ แต่ถ้าพวกเขาตั้งใจจะรักษาความมั่งคั่งนั้นไว้ตลอดไป จะต้องมีความสามารถครบทั้ง 4 อย่าง เพราะการมีความสามารถเพียงอย่างเดียว แม้จะทำให้ร่ำรวยขึ้นก็จริง แต่ใช่ว่าความร่ำรวยนั้นจะคงอยู่ตลอดไป เราไปรู้จัก ความสามารถ 4 อย่าง ที่ช่วยให้มั่งคั่ง ร่ำรวย กัน! ความสามารถในการหาเงิน คนที่มีความสามารถในการหาเงิน คนกลุ่มนี้จะโดดเด่นชัดเจน ส่วนใหญ่เป็นคนที่ทำธุรกิจได้เก่งมาก หรือมีวิสัยทัศน์ก้าวไกลกว่าคนทั่วไป เป็นคนที่มีความสามารถในการขาย มองโลกในแง่ดีไม่ล้มเลิกอะไรง่ายๆ ในแวดวงธุรกิจมีคนแบบนี้มากมาย คนที่ฉลาดทำงานอย่างขยันขันแข็ง มีอาชีพเฉพาะทางมักมีความสามารถด้านนี้ โดยเฉพาะนักธุรกิจทั้งหลาย หากคนกลุ่มนี้ขาดความสามารถในมิติอื่น ก็อาจกลายเป็นหนี้หรือถูกหลอกลวงได้ เผลอๆ อาจถูกลูกน้องหลอกเงินโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากไม่ถนัดเรื่องการจัดการรายได้ที่หามา พวกเขาเลยมักพูดติดปากว่า “ขอแค่หาเงินได้เท่ากับที่จ่ายไปก็พอน่า” ไม่ชอบอ่านและพยายามทาความเข้าใจงบการเงิน จึงมีปัญหาทางด้านบัญชี เพิกเฉยในรายละเอียดยิบย่อยเมื่อต้องลงทุน เงินของพวกเขามักหายไปทั้งก้อน ทุกครั้งที่เก็บสะสมได้ นอกจากนี้ยังไม่ใส่ใจเรื่องเอกสารภาษี หรือสัญญาการลงทุนที่ซับซ้อน ทำทีเป็นคนใจป้ำราวกับเชื่อมั่นและไว้ใจมาก ทั้งที่จริงแค่รำคาญและไม่เข้าใจ พวกเขามักได้รับคำถามจากผู้คนรอบข้างเสมอว่า ทาไมหาเงินเก่งจัง แต่กลับไม่รู้ตัวว่า ตัวเองหาเงินเก่งมาก เนื่องจากพอหามาได้ก็ใช้หมดไปในทันที […]
อยากประสบความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงานแบบก้าวกระโดด ทำได้ไม่ยาก แค่ “ปลดล็อค” ความคิดและวิธีการที่เคยทำแบบเดิมๆ แล้วเปิดรับสิ่งใหม่ แนวคิดใหม่ เพียงเท่านี้ เราก็สามารถพัฒนาตัวเองแบบก้าวกระโดดได้ไม่ยากแล้ว ขอแนะนำชุดหนังสือสำหรับคนที่ต้องการพัฒนาตัวเองแบบก้าวกระโดดแล้วทิ้งคนเก่าไว้ข้างหลัง ดังนั้นถ้า อยากพัฒนาตัวเองแบบก้าวกระโดด ต้องอ่านหนังสือ howto เล่มไหนบ้างนะ เรามีคำตอบให้! ทำงานให้ได้ดีด้วย Mindset แบบ CEO เขียนโดย รยูรางโด ได้แนะนำเรื่องโดนใจมนุษย์เงินเดือนที่ใช้ชีวิตไปวันๆ ว่า ในใจของพวกเขาจะมี “ถ่านไฟฉายชนิดชาร์จไฟ” อยู่ ทั้งที่อยากลาออกมากแค่ไหน แต่พอได้รับพลังเป็นเงินเดือนก็ทำให้มีแรงทำงานต่อไปได้ เล่มนี้จึงรวมสุดยอดเคล็ดลับการทำงานของแต่ละตำแหน่ง เพื่อให้คุณเข้าใจบทบาทน้าที่ของแต่ละตำแหน่งในองค์กรและเติบโตไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น การแสดงให้คนอื่นเห็นวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน การสะสมชั่วโมงบินในการทำงาน การสร้างสูตรการทำงานเป็นของตัวเอง ผู้เขียนยังได้ตั้งคำถามว่า “คุณกำลังทำงานได้สมกับคุณค่าของตัวเองอยู่หรือเปล่า” นี่คือคีย์เวิร์ดสำคัญที่คุณต้องเริ่มถามตัวเองเดี๋ยวนี้! นอกจากนั้นยังได้รวบรวมข้อคิดและเคล็ดลับการทำงานของแต่ละตำแหน่ง ตั้งแต่ระดับ CEO กรรมการบริหาร หัวหน้าทีม ลูกทีม ไปจนถึงเจ้าของกิจการ เพื่อให้คุณเข้าใจบทบาทของแต่ละตำแหน่งและเติบโตไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นจงวางแผนกลยุทธ์เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายได้ตามความเป็นจริง อย่าทำตัวเหมือนเด็กฝึกงานในขณะที่ได้รับเงินหลักแสนต่อปี อย่าคาดหวังจะได้คำตอบใหม่ด้วยวิธีการเดิม อย่ามัวรอผลโดยไม่ลงแรง แต่จงวางแผนวิธีดำเนินงาน จงแยกระหว่างความเป็นจริงส่วนรวมกับความคิดเห็นส่วนตน จงให้ความสำคัญกับงานที่ต้องทำมากกว่างานที่อยากทำ เพราะไม่ว่าคุณจะอยู่ตำแหน่งไหนในองค์กรก็ประสบความสำเร็จได้ คนเก่งเขาก็ทำงานให้ง่ายแบบนี้แหละ […]
“งานยุ่งมาก” “ทำงานไม่ทัน” ผลสุดท้ายก็เบลอ ผลงานออกมาไม่มีคุณภาพ ขอแนะนำชุดหนังสือเพื่อคน การงานยุ่งเหยิง ทำงานไม่ทัน แก้ไขด้วยเล่มไหนดี หนังสือ 4 เล่ม เพื่อจัดการปัญหางานยุ่งมากถึงมากที่สุด แบบไม่เหนื่อยอีกต่อไป! จะมีเล่มไหนบ้าง ไปติดตามกัน! วิชาวางแผนการทำงานสิ่งสำคัญที่ไม่มีใครเคยสอน เขียนโดย มานาบุ มิซุโอะ ได้แนะนำว่า “การวางแผนการทำงาน” เป็นเทคนิคสำคัญที่ไม่มีโรงเรียนหรือบริษัทไหนสอนคุณ และเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าอยากให้งานก้าวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ความเร็ว และยังต้องทำงานอีกหลายอย่างไปพร้อมๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น การวางแผนการทำงานต้องเริ่มต้นจากการกำหนดจุดหมายปลายทาง และมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางด้วยระยะทางที่สั้นที่สุด การป้องกันปัญหางานยุ่งจึงควรกำหนดเส้นตาย แต่ถ้าเป็นเส้นตายที่ไม่ชัดเจนก็ไม่ต่างอะไรกับการไม่มีเส้นตาย คำว่า “เร็วที่สุด” ไม่สามารถใช้วัดอะไรได้เลย มีแต่จะทำให้งานถูกผัดออกไปเรื่อยๆ คำว่า “เร็วที่สุด” ของแต่ละคนอาจจะเป็นเดือนหน้าหรือปีหน้าก็ได้ ดังนั้นคำว่า “เร็วที่สุด” จึงถือเป็นคำที่เสี่ยงมาก ในเมื่อเวลาเป็นสิ่งที่นับหรือวัดระยะได้ เราจึงไม่ควรใช้คำพูดที่ไม่ระบุหน่วยที่ชัดเจน ทางที่ดีควรยืนยันเวลาให้ชัดเจน อีกคำหนึ่งที่มักใช้กันบ่อยๆ คือคำว่า “ภายในวันนี้” ซึ่งแต่ละวงการ แต่ละบริษัท หรือแต่ละคนมักตีความต่างกันไป ดังนั้น ต้องกำหนดให้ชัดเจนเลยว่าวันไหนและกี่โมง เราจึงควรงดใช้คำพูดที่ตีความด้วยความรู้สึกเช่นนี้ แต่เลือกใช้คำพูดระบุเวลาที่ทุกคนเข้าใจตรงกันให้เป็นนิสัย และต้องยืนยันวันและเวลาของเส้นตายเสมอ […]
Mentalist DaiGo ผู้เขียนหนังสือ “เปลี่ยนความชอบให้เป็นเงิน” ได้แนะนำ สิ่งสำคัญของการเปลี่ยนสิ่งที่ชอบให้เป็นตัวทำเงิน ซึ่งสิ่งสำคัญอย่างแรกคือ ต้องเริ่มจากการทำให้ทุกคนรู้ว่า “ตัวเราชอบทำอะไร ทำสิ่งนั้นเก่งมากแค่ไหน แล้วสามารถทำอะไรกับมันได้บ้าง” แล้วความชอบนั้นจะนำมาซึ่งโอกาสและเปลี่ยนเป็นเงินในที่สุด สิ่งสำคัญนั้นจะมีอะไรบ้าง เราไปติดตามเคล็ดลับง่ายๆ นี้กัน ประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ว่าเราชอบอะไร ก้าวแรกของการทำเงินจากสิ่งที่ชอบต้องเริ่มจากให้ทุกคนรู้ว่า “เราชอบทำอะไร ทำสิ่งนั้นเก่งมากแค่ไหน แล้วสามารถทำอะไรกับมันได้บ้าง” ไม่ว่าคุณจะเชี่ยวชาญเรื่องนั้นมากแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีใครรู้เลย ก็อาจไม่มีใครมาพูดกับคุณว่า “ตอนนี้มีโปรเจ็กต์หนึ่งที่อยากให้เธอเป็นคนทำ” ความพยายามที่ทำให้คนรอบข้างรับรู้ถึงความสามารถของคุณ เรียกว่า “การดึงดูด & การผูกมัด” การยืนยันกับทุกคนว่าคุณมีสิ่งที่ชอบ และอยากนำสิ่งนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับงาน จะทำให้คนรอบข้างเริ่มรับรู้และเข้าใจคุณ แต่ถ้าคุณไม่พูด คนรอบข้างก็จะไม่รู้ และไม่มีใครหยิบยื่นโอกาสดีๆ ในด้านนั้นให้ ส่งผลให้ “สิ่งที่คุณชอบ” กลายเป็น “งาน” ได้ยาก คนส่วนใหญ่อาจเขินอายที่ต้องพูดถึงสิ่งที่ตัวเองชอบหรือสิ่งที่ตัวเองอยากทำ และกล้าที่จะบอกมันแค่เพื่อนสนิท คนรัก หรือคนในครอบครัวเท่านั้น ความลึกลับไม่ใช่เสน่ห์สำหรับเรื่องนี้ แต่มันเป็นสิ่งที่จะทำให้คุณพลาดโอกาสดีๆ ไป ดังนั้นคุณจึงควรพูดถึง “สิ่งที่คุณชอบ” “สิ่งที่คุณถนัด” ให้ได้มากที่สุดกับใครหรืออะไรก็ตาม แม้จะเพิ่งเจอเป็นครั้งแรก เพราะนี่ถือเป็นการลงทุนด้วยคำพูด “การให้และให้” […]