ยุคสมัยแห่งธิดาอ๋อง 王女韶华 溪畔茶 ซีพั่นฉา เขียน ภวิษย์พร แปล — โปรย — มู่หยวนอวี๋มาอยู่ในเมืองหลวงได้สามปีแล้ว แม้จะต้องเผชิญอุปสรรปัญหา ล้วนฝ่าฟัน เอาตัวรอดมาได้ทั้งสิ้น แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันพลันบังเกิด มู่หยวนอวี๋ประสบเหจุร้ายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ความลับที่พยายามเก็บรักษามาตลอดชีวิตกลับมีคนล่วงรู้ ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังเหตุร้ายทั้งหมดนี้คือใคร มู่หยวนอวี๋จะรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ และรักษาชีวิตอยู่ในเมืองหลวงได้ตลอดไปหรือไม่ … _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) บทที่ 96 หลังจากเอาของไปส่ง มู่หยวนอวี๋ก็หวาดหวั่นอยู่สองวัน ถึงค่อยพบว่าคลื่นลมสงบดี ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น หรือเป็นเพราะฮ่องเต้มีราชกิจรัดตัว เลยไม่มีเวลามาถือสากับลูกไม้เล็กๆน้อยๆของนาง นางจึงเริ่มวางใจ และยังคงไปเรียนเป็นปกติทุกวัน เพียงแต่ว่าวันเวลาที่ไม่ได้พบหน้าจูจิ่นเซินค่อนข้างจะน่าเบื่อ มีจูจิ่นเซินอยู่ด้วย นางก็มีเป้าหมายที่ชัดเจน นั่นคือพยายามสาดความรู้สึกอันดีใส่เขา และเดิมทีการอยู่กับเขาก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง เขาไม่อยู่ นางก็ไม่ค่อยมีกะจิตกะใจจะพูดคุยกับคนในห้องสักเท่าไหร่ ต้องมาฟังเสียงท่องบทเรียนเหมือนเสียงท่องคัมภีร์สิบรอบแล้วก็อีกสิบรอบ นางจึงมักจะใจลอยอยู่บ่อยครั้ง คงเป็นเพราะนางเลือกข้างชัดเจนเกินไป จูจิ่นสวินรู้ว่าแย่งชิงตัวนางกลับคืนมาไม่ได้ ตอนนี้จึงไม่ค่อยจะพูดคุยกับนางสักเท่าไหร่ ส่วนจูจิ่นยวนนั้นไม่รู้ว่ามีเป้าหมายอะไรถึงชอบมาชวนนางคุยเป็นประจำ มู่หยวนอวี๋จำคำบอกของจูจิ่นเซินได้จึงรักษาระยะห่างกับจูจิ่นยวนอย่างมีมารยาท […]
Category Archives: ทดลองอ่าน
ยุคสมัยแห่งธิดาอ๋อง 王女韶华 溪畔茶 ซีพั่นฉา เขียน ภวิษย์พร แปล — โปรย — มู่หยวนอวี๋มาอยู่ในเมืองหลวงได้สามปีแล้ว แม้จะต้องเผชิญอุปสรรปัญหา ล้วนฝ่าฟัน เอาตัวรอดมาได้ทั้งสิ้น แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันพลันบังเกิด มู่หยวนอวี๋ประสบเหจุร้ายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ความลับที่พยายามเก็บรักษามาตลอดชีวิตกลับมีคนล่วงรู้ ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังเหตุร้ายทั้งหมดนี้คือใคร มู่หยวนอวี๋จะรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ และรักษาชีวิตอยู่ในเมืองหลวงได้ตลอดไปหรือไม่ … _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) บทที่ 97 กุญแจโซ่เหล็กที่คล้องประตูหลักถูกนำออกไปแล้ว มู่หยวนอวี๋พุ่งตัวเข้าไปราวกับบิน องครักษ์เสื้อแพรที่ยืนเข้าแถวอยู่สองฝั่งเตรียมจะถอยออก ไม่มีใครรั้งนางอีก องครักษ์บางคนมองแผ่นหลังของมู่หยวนอวี๋ด้วยแววตาเจือความเลื่อมใส…นี่สมกับประโยคที่ว่า เมื่อลมพายุพัดแรงจึงรู้ว่าหญ้าต้นไหนแข็งแกร่ง ในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความโกลาหลวุ่นวาย ถึงได้มองออกว่าใครไม่ใช่ขุนนางผู้ซื่อสัตย์ ช่วงเวลาที่องค์ชายรองถูกขังไม่ใช่เวลาสั้นๆ คนที่ไม่ยอมหลบเลี่ยงการตกเป็นผู้ต้องสงสัย ยอมเสี่ยงอันตรายมาที่นี่ก็มีแต่ท่านผู้นี้ แม้ว่าใบหน้าจะเหมือนผู้หญิงไปสักหน่อย แต่กลับมีนิสัยเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว ไม่เสียแรงที่เป็นผู้สืบทอดของอ๋องนักรบสกุลมู่ ในเรือนหลัก จูจิ่นเซินเองก็เพิ่งได้รู้ข่าวนี้ คนข้างนอกถอยออกไปอย่างเงียบเชียบ ไม่มีใครเข้ามาอ่านพระราชโองการอะไรให้เขาฟัง แต่เพราะคนครัวที่ต้องไปรับวัตถุดิบทำอาหารที่หน้าประตูตามกิจวัตรประจำวันพบเข้า ถึงได้วิ่งตะบึงกลับมารายงานเขาอย่างกระท่อนกระแท่นวกวน จูจิ่นเซินที่ถือถ้วยยาอึ้งตะลึงไปครู่หนึ่ง […]
โอตาคุวันสิ้นโลก 重生宅男的末世守则 暖荷 หน่วนเหอ เขียน เมิ่งเหวิน เเปล นิยาย 7 เล่มจบ ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ ____________________________________ บทที่ 102 สะพานลอยฟ้า งานก่อสร้างโครงการใหญ่มาอีกแล้ว การันตีได้เลยว่ามีงานให้ทำไปอีกนาน! เมื่อได้ฟังถ้อยคำที่เหมือนการสารภาพรักของเหยียนเฟยประโยคนี้แล้ว ใบหน้าหลัวซวินก็แดงซ่านขึ้นอีกครั้ง ดวงตาเสมองไปทางอื่น “ฉันนึกว่า…ใครจะไปคิดล่ะว่านายจะเก็บเรื่องไร้สาระมาคิดเป็นตุเป็นตะได้ถึงขนาดนี้” ต่อให้เมื่อชาติที่แล้วเขาเคยจับมือกับคนคนนั้นมาก่อน…อย่างเช่นตอนหนีเอาชีวิตรอดต้องดึงอีกฝ่ายขึ้นรถอะไรประมาณนั้น แต่ที่แน่ๆ คือตอนนี้แม้แต่ชื่อของผู้ชายคนนั้นเขายังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่จะว่าไป… จู่ๆ หลัวซวินก็กวาดตาพิจารณาเหยียนเฟยด้วยสีหน้าบึ้งตึงแล้วพูดขึ้นว่า “ว่าแต่ถ้าเทียบกันแล้ว ฉันว่านายน่าจะมีอดีตเยอะกว่าฉันอีกนะ” เหยียนเฟยคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะกล้าสวนกลับตน ทว่าเหยียนเฟยยังคงเก็บสีหน้าอาการ ใบหน้าเปื้อนยิ้มอ่อนโยนไม่เปลี่ยน เขาเลื่อนมือข้างหนึ่งไปช้อนลำคอด้านหลังของหลัวซวิน ส่วนมืออีกข้างก็เลื่อนลงไปใต้ข้อพับเข่า “จะเอามาเทียบกันได้ยังไง ที่ฉันเป็นห่วงคือเรื่อง ‘คู่ชีวิตในอนาคต’ ในความฝันของนาย ไม่ใช่ขุดคุ้ยอดีตก่อนวันสิ้นโลกว่าเคยมีแฟนทั้งหญิงและชายมาแล้วกี่คนเสียหน่อย” หลัวซวินนึกฉุน “ใครจะไปรู้ เกิดอยู่ดีๆ มีแฟนเก่านายโผล่มาขอให้ฉันหลีกทางให้ โดยอ้างว่าเธอสามารถคลอดลูกให้นายได้ขึ้นมา ถึงตอนนั้นถ้านายคิดทิ้งคนรักที่ร่วมลำบากด้วยกันมา…ฉันก็…” ในสมองหลัวซวินสับสนตีรวนไปหมด จนเจ้าตัวก็คิดไม่ออกว่าจะพูดอะไรต่อดี รอยยิ้มบนใบหน้าเหยียนเฟยยิ่งเด่นชัดขึ้น เขาจ้องมองหลัวซวิน […]
โอตาคุวันสิ้นโลก 重生宅男的末世守则 暖荷 หน่วนเหอ เขียน เมิ่งเหวิน เเปล นิยาย 7 เล่มจบ ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ ____________________________________ บทที่ 103 บทบัญญัติสามประการ[1] ไร้กฎเกณฑ์ย่อมไม่สำเร็จ เวลานี้จางซู่กลับมาแล้ว แถมกลับมาพร้อมกับข่าวหนึ่งด้วย “อุปกรณ์ตัวใหม่ที่ทางฐานที่มั่นค้นคว้าวิจัยถูกนำออกมาใช้แล้ว” เขาพูดพลางหันไปมองหลัวซวินกับเหยียนเฟยด้วยสีหน้าแฝงรอยยิ้มแปลกๆ “เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ตรวจว่าติดเชื้อไวรัสซอมบี้หรือเปล่าโดยที่ไม่ต้องเจาะผิวหนัง เพียงสแกนบนร่างกายก็พอ แถมยังบอกว่าตรวจได้แม้กระทั่งบนตัวรถและเสื้อผ้าว่าปนเปื้อนเชื้อไวรัสซอมบี้มาด้วยหรือเปล่า ที่พวกเราออกไปนอกฐานคราวก่อนโชคไม่ค่อยเข้าข้างสักเท่าไร นี่เพิ่งกลับมาได้ไม่กี่วันพวกเขาก็นำอุปกรณ์เครื่องนี้ออกมาใช้แล้ว” หลังเล่าจบเขาก็ผายมือยักไหล่ ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น เขาไม่คิดเลยหรือว่าหนึ่งในคนที่โชคไม่ดีพอจะได้ใช้ของแบบนี้ก็คือตัวเขาด้วยเหมือนกัน ดูท่าสะใจนั่นสิ จะสะใจเพื่อ? หลัวซวินเห็นสีหน้าท่าทางจะอาการหนักของจางซู่แล้วรู้สึกหมดคำพูด จึงได้แต่หันไปมองหวังตั๋วที่ตามติดจางซู่ชนิดไม่ห่างเกินสามก้าวด้วยสายตาสงสารจับใจ ส่วนหวังตั๋วยังคงยิ้มเซ่ออยู่เหมือนเก่า ราวกับคนโง่งมและซื่อบื้อที่ชีวิตในแต่ละวันมีแต่ความสุข จึงยิ่งทำให้หลัวซวินถึงกับทนมองไม่ได้หนักกว่าเดิม ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าทางฐานที่มั่นกำลังวิจัยอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อที่ง่ายและสะดวกมากขึ้น เพราะพวกเขามีจางซู่ซึ่งเป็นคนวงในเป็นเพื่อนร่วมทีมอยู่ทั้งคน เพียงแต่จะสามารถวิจัยออกมาอย่างเป็นรูปธรรมได้วันไหน และมีประสิทธิภาพการใช้งานจริงเป็นอย่างไรนั้น ไม่ใช่เรื่องที่จางซู่ผู้เป็นศัลยแพทย์จะสามารถรู้ก่อนได้ เขาก็ได้แต่ถามข่าวคราวทั่วๆไปเท่านั้น ส่วนเรื่องรายละเอียดที่เจาะจงมากกว่านี้ต้องรอให้นำออกมาใช้งานจริงก่อนถึงจะรู้ผล จากนั้นจางซู่ก็เล่าข่าวที่สองของค่ำคืนนี้ต่อ “ส่วนอีกข่าวหนึ่งก็คือ… อุปกรณ์ที่ลือว่าสามารถตรวจจำแนกประเภทและระดับขั้นของพลังพิเศษก็คิดค้นออกมาได้แล้วด้วย เห็นว่าตอนนี้กำลังทดสอบกันในกองทัพ ถ้ายืนยันแล้วว่าไม่มีข้อผิดพลาดอะไรก็สามารถนำมาใช้ได้เลย” เขาเล่าพลางยิ้มบางๆ “ข่าวนี้ยังเป็นความลับอยู่นะ […]
เมื่อผมเป็นเจ้าของสวนสัตว์ 我开动物园那些年 ลาเหมียนฮวาถังเตอะทู่จื่อ เขียน 拉棉花糖的兔子 Himazan แปล ติดตามกำหนดการวางขายหนังสือได้ที่เพจ Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ +++++++++++++++++++ บทที่ 53.3 วันต่อมา ทีมงานของรายการทั้งทีมต่างรู้เรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์หลิงโย่วไม่รู้ว่าใครที่ทำตัวเจ้าเล่ห์ ใส่ชุดมาสคอตออกมากอดราชินีจอเงินอย่างสนิทสนมร่วมสิบนาที ราชินีจอเงินเข้าใจว่าเป็นแผนของทีมงานเลยเล่นด้วย สุดท้ายพอทีมงานเฉลย เจ้าเพนกวินตัวนี้ก็หนีหายไปแบบใส ๆ ปล่อยให้ราชินีจอเงินเหวออยู่นาน เรื่องนี้ถูกแจ้งให้คนภายในสวนสัตว์ทราบ เวลามีดารามาเยอะ ๆ สวนสัตว์หลิงโย่วจะมีกฎว่าไม่ให้ไปรบกวนการทำงานของทีมงาน และต้องช่วยเคลียร์นักท่องเที่ยวที่มามุงด้วย ช่วงที่ดารากลุ่มนี้ถ่ายทำกันตอนกลางคืน อย่างมากคนส่วนใหญ่ก็แค่คอยดูอยู่ข้างนอก หรือถ้ามีโอกาสถ่ายรูปคู่ ก็ห้ามไปอยู่ด้วยเป็นสิบนาทีเหมือนมาสคอตตัวนั้น ถึงขั้นมีการกอดรัดฟัดเหวี่ยงอีกต่างหาก ด้วยเหตุนี้ มาสคอตตอนนั้นเป็นใคร ไอเดียสุดยอดมาก! เพราะพอแต่งชุดมาสคอตก็เข้าไปหาราชินีจอเงินได้เลย ทำเอาทุกคนอิจฉาริษยากันสุด ๆ ทั้งที่ชุดมาสคอตก็มีเยอะ แต่ทำไมพวกเขาถึงคิดวิธีนี้กันไม่ได้นะ…! ตอนต้วนเจียเจ๋อกินข้าว เขาได้ยินเสี่ยวซูเล่า “ผู้อำนวยการคะ คุณว่าถ้าฉันใส่ชุดมาสคอตฉีจี้ไปกอด จะมีโอกาสสำเร็จเยอะไหม ตอนนี้พวกเขาจะมีการเฝ้าระวังกันแล้วหรือเปล่า” […]
เมื่อผมเป็นเจ้าของสวนสัตว์ 我开动物园那些年 ลาเหมียนฮวาถังเตอะทู่จื่อ เขียน 拉棉花糖的兔子 Himazan แปล ติดตามกำหนดการวางขายหนังสือได้ที่เพจ Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ +++++++++++++++++++ บทที่ 53.2 “ไอ้ปัญญาอ่อน!” เสี่ยวจิ่วแผดเสียงด่าอยู่ในห้องพักผ่อน อะไรที่เรียกว่าต้องเป็นคนของเขา เจ้ามนุษย์นี่เสียสติเป็นบ้าไปแล้วหรือไง ถึงตอนนี้ตัวเก้าหัวอย่างเขาจะเหลือแค่หัวเดียว แต่ในอดีตก็เคยเป็นวงศ์วานกับมังกรมาก่อนนะ! “มนุษย์คนนั้นน่าจะสมองมีปัญหาจริง ๆ” โหย่วซูกรีดนิ้ว “เมื่อวานเขาเดินมาหาฉัน ขอพรให้เจอไป๋ซู่เจินสะดุดล้ม ความจำเสื่อมลืมว่าตัวเองเป็นหมอ จะได้ตามเขาไปถ่ายหนังเล่นละคร” ไป๋ซู่เจิน “เช้านี้เขาตั้งใจมาที่ส่วนจัดแสดงของฉัน บอกว่าฉันไม่สวย” ทุกคน “…” “อย่าไปสนใจเขาเลยครับ” ต้วนเจียเจ๋อกินพลางพูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ ลู่ยาทำตัวเป็นอากาศ ปัดผมของต้วนเจียเจ๋อ เมื่อกี้ต้วนเจียเจ๋อบอกว่าเหมือนจะเห็นผมของตัวเองออกสีทอง ลู่ยาเลยฟันธงว่าเป็นเพราะต้วนเจียเจ๋ออยู่กับตนนาน เนื่องจากอยู่ต่อหน้าคนเยอะ ต้วนเจียเจ๋อจึงไม่สะดวกจะพูดว่ายีนของอีกาทองสามขาอย่างพวกคุณไม่แรงถึงขั้นทำให้คู่แปรสภาพไปด้วยหรอก คุณคิดไปเองมากกว่า ลู่ยาเห็นว่านี่ไม่ใช่เรื่องของตน และผู้อำนวยการเมิ่งไม่เคยเจอเขา หรือต่อให้เจอ เขาก็ดึงตัวแฟนหนุ่มของคนอื่นไปไม่ได้ เพราะมันยากมากเกินไป โหย่วซูมองท่าทางนิ่งเฉยของลู่ยาแล้วเอ่ย […]
老婆粉了解一下 รู้ไว้ซะ ฉันนี่แหละแฟนคลับตัวแม่ ชุนเตาหาน เขียน เสี่ยวฝาน แปล — โปรย — กระจกเงาแบบตั้งพื้นสะท้อนภาพหญิงสาวตรงหน้าซึ่งมีใบหน้าขาวซีด ผมยาวม้วนงอเล็กน้อยในระดับอก ใบหน้านี้เป็นใบหน้าที่ครั้งหนึ่งเธอเคยชิงชัง เธอก้มศีรษะลงโค้งคำนับสามครั้ง “เซิ่งเฉียว ฉันขอโทษนะ” ขอโทษที่เมื่อก่อนฉันโจมตีเธอตามใจชอบโดยไม่รู้อะไรเลย ขอโทษที่ฉันรัวแป้นพิมพ์แบบไม่รับผิดชอบ ทำให้เธอต้องเจ็บปวด ขอโทษที่โลกออนไลน์ทำลายเธออย่างโหดร้ายไปตามกระแสสังคม ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงหายตัวไป อาจเป็นเพราะเธอแบกรับความโหดร้ายของโลกใบนี้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว และฉันก็เป็นหนึ่งในผู้ร้ายเสียด้วย ฉันจะแก้ไขปัญหาทุกอย่างเอง ฉันจะทำให้ชีวิตที่มืดมนของเธอได้พบกับแสงสว่าง _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) 6 จากคนใกล้ชิดกัน มาวันนี้กลับมองเธอด้วยแววตาห่างเหินและหวาดระแวง เซิ่งเฉียวรู้สึกว่าปลายลิ้นของเธอขมไปหมด แม้เมื่อก่อนเฉียวอวี่จะชอบด่าว่าเธอเป็นพวกสมองกลวงเอาแต่ตามดารา แต่เขากลับให้พวกเจ้าหน้าที่ในสำนักงานทนายความช่วยกันแย่งซื้อบัตรคอนเสิร์ตของฮั่วซีมาให้เธอเป็นประจำ ถึงจะไม่เคยพูด แต่แท้จริงแล้วเขาทนไม่ได้ที่จะปล่อยให้น้องสาวได้รับอยุติธรรม เรื่องพวกนี้เซิ่งเฉียวรู้ดี เธอรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งที่พ่อแม่และพระเจ้าส่งพี่ชายคนนี้มาให้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนพระเจ้าจะเอาตัวพี่ชายของเธอกลับคืนไปแล้ว แม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเลยสักกระผีก แต่ก็ไม่สามารถโผไปร้องไห้ในอ้อมแขนของเขาได้อีก เซิ่งเฉียวก้มหน้ารินน้ำชาใส่ถ้วยให้เฉียวอวี่ พร้อมกับข่มน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมา เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆสองครั้ง ก่อนจะเอ่ยว่า “อย่างที่ฉันบอกทางโทรศัพท์ไปแล้วว่ามีเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายอยากจะปรึกษาน่ะค่ะ” เฉียวอวี่มองเธอสองสามรอบ เมื่อเห็นว่าท่าทางของหญิงสาวไม่เหมือนคนเสแสร้ง เขาก็โล่งใจ […]
AWM 绝地求生 Drunk on You (th) เพราะนายคือ AWM ของฉัน 漫漫何其多 ม่านม่านเหอฉีตัว เขียน จิ้งจอกธารา แปล — โปรย — ฉีจุ้ย หรือ Drunk เทพแห่งวงการอีสปอร์ต กัปตันทีมนักแม่นปืนผู้วางแผนเกมเป็นเลิศ หากเขาได้ปืนสไนเปอร์ปีศาจอย่าง AWM มาครอบครอง ศัตรูที่หมายตาย่อมไม่มีทางหลุดรอด ทว่าอวี๋หยาง หรือ Youth หนุ่มนักแข่งอีสปอร์ตสุดน่ารัก ผู้เป็นดุจปืน AWM หายากและเสนล้ำค่าของเทพฉี กลับมาหลอกให้เขารักแล้วหักอกกันซะได้ แทนที่อีกฝ่ายทำร้ายใจเขาแล้วจะหนีไปให้ไกล กลับพาตัวเองเข้ามาอยู่ในสโมสรเดียวกับเขาเสียอย่างนั้น คราวนี้มีหรือฉีจุ้ยจะปล่อยให้อีกฝ่ายหลุดรอดไปได้ ไม่ว่าจะปืนหรือคนก็ต้องเป็นของเขาเพียงผู้เดียว ———————————————————– ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายหนังสือได้ที่เพจ Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ 6 “ตัวสำรองงั้นเหรอ จะให้เขาเล่นแทนใคร” เฮ่อเสี่ยวซวี่หันไปมองสหาย Banana ผู้เล่นตำแหน่งจู่โจมของทีมหนึ่งโดยอัตโนมัติ พลางพึมพำเบาๆ ว่า “ไม่ดีมั้ง ยังไงน่าน่าก็เป็นเมียหลวง[1]ของนาย แถมเขาเพิ่งอายุยี่สิบสอง ยังเล่นได้อีกตั้งสองปี…” ปู่น่าน่าซึ่งกำลังดูสองคนตีกันอย่างสนุกสนาน คาดไม่ถึงว่าตัวเองจะพลอยโดนหางเลขไปด้วย […]
AWM 绝地求生 Drunk on You (th) เพราะนายคือ AWM ของฉัน 漫漫何其多 ม่านม่านเหอฉีตัว เขียน จิ้งจอกธารา แปล — โปรย — ฉีจุ้ย หรือ Drunk เทพแห่งวงการอีสปอร์ต กัปตันทีมนักแม่นปืนผู้วางแผนเกมเป็นเลิศ หากเขาได้ปืนสไนเปอร์ปีศาจอย่าง AWM มาครอบครอง ศัตรูที่หมายตาย่อมไม่มีทางหลุดรอด ทว่าอวี๋หยาง หรือ Youth หนุ่มนักแข่งอีสปอร์ตสุดน่ารัก ผู้เป็นดุจปืน AWM หายากและเสนล้ำค่าของเทพฉี กลับมาหลอกให้เขารักแล้วหักอกกันซะได้ แทนที่อีกฝ่ายทำร้ายใจเขาแล้วจะหนีไปให้ไกล กลับพาตัวเองเข้ามาอยู่ในสโมสรเดียวกับเขาเสียอย่างนั้น คราวนี้มีหรือฉีจุ้ยจะปล่อยให้อีกฝ่ายหลุดรอดไปได้ ไม่ว่าจะปืนหรือคนก็ต้องเป็นของเขาเพียงผู้เดียว ———————————————————– ติดตามกำหนดการวางจำหน่ายหนังสือได้ที่เพจ Rose Publishing …XOXO… มาดามโรส ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ 5 พอออกจากไลฟ์สตรีมแล้ว ฉีจุ้ยไปรื้อหาของในห้องนั่งเล่นบนชั้นสอง เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่ผิด กล่องปฐมพยาบาลในบ้านแคมป์มีแค่ยาทั่วไปพวกยาลดไข้ ยาแก้หวัด แต่ไม่มียาทาแผลไฟไหม้ โชคดีที่ไม่ไกลจากแคมป์มีร้านขายยาที่เปิดยี่สิบสี่ชั่วโมง ฉีจุ้ยออกจากบ้านไปเงียบๆ ไม่กระโตกกระตาก ขับรถออกไปซื้อยากลับมาหนึ่งหลอด ตอนบ่ายเพิ่งถูกผู้จัดการเตือนไม่ให้ไปข่มขวัญเด็กๆ ด้วยเหตุนี้ฉีจุ้ยจึงลังเลอยู่เล็กน้อย ไม่กล้าเดินตรงไปยังห้องซ้อมชั้นหนึ่งในทันที […]
老婆粉了解一下 รู้ไว้ซะ ฉันนี่แหละแฟนคลับตัวแม่ ชุนเตาหาน เขียน เสี่ยวฝาน แปล — โปรย — กระจกเงาแบบตั้งพื้นสะท้อนภาพหญิงสาวตรงหน้าซึ่งมีใบหน้าขาวซีด ผมยาวม้วนงอเล็กน้อยในระดับอก ใบหน้านี้เป็นใบหน้าที่ครั้งหนึ่งเธอเคยชิงชัง เธอก้มศีรษะลงโค้งคำนับสามครั้ง “เซิ่งเฉียว ฉันขอโทษนะ” ขอโทษที่เมื่อก่อนฉันโจมตีเธอตามใจชอบโดยไม่รู้อะไรเลย ขอโทษที่ฉันรัวแป้นพิมพ์แบบไม่รับผิดชอบ ทำให้เธอต้องเจ็บปวด ขอโทษที่โลกออนไลน์ทำลายเธออย่างโหดร้ายไปตามกระแสสังคม ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงหายตัวไป อาจเป็นเพราะเธอแบกรับความโหดร้ายของโลกใบนี้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว และฉันก็เป็นหนึ่งในผู้ร้ายเสียด้วย ฉันจะแก้ไขปัญหาทุกอย่างเอง ฉันจะทำให้ชีวิตที่มืดมนของเธอได้พบกับแสงสว่าง _______________________________ ติดตามการวางจำหน่ายหนังสือได้ทางเพจ “บ้านอรุณ“ สำนักพิมพ์อรุณ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) 5 นิ้วของเซิ่งเฉียวสั่นระริก เธอเงยหน้าขึ้นทันควัน แล้วมองอีกฝ่ายด้วยแววตาดุดัน เกาเหม่ยหลิงยังคงหัวเราะร่า เธอเก็บมือถือแล้วเอนไปด้านหลัง “อย่ามองฉันแบบนี้สิ ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะฉันช่วยจ่ายเงินสามล้านให้เธอหลุดพ้นจากพวกเจ้าหนี้นอกระบบ รูปพวกนี้ก็คงว่อนไปทั่วอินเทอร์เน็ตแล้ว ถ้าเธอจะโทษใคร ก็ควรโทษพ่อผีพนันของเธอนั่นแหละ” เธอกัดฟัน พยายามสงบสติอารมณ์อย่างสุดความสามารถ เกาเหม่ยหลิงยังคงพูดต่อ “จริงอยู่ที่สัญญาฉบับนี้ไม่เป็นธรรม แต่ตอนนั้นถ้าไม่มีสัญญาฉบับนี้และไม่มีฉันละก็ เธอกับแม่ที่พิการคงได้ไปอยู่กับพ่อผีพนันของเธอแล้ว สองหมื่นหยวนน้อยไปงั้นเหรอ…ที่จริงก็ไม่น้อยนะ เธอดูสังคมตอนนี้สิ พวกมนุษย์เงินเดือนทำงานแทบเป็นแทบตายทุกวันยังหาเงินไม่ได้ขนาดนี้เลย” เธอยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบอึกหนึ่ง […]