ฮัสกี้หน้าโง่กับอาจารย์เหมียวขาวของเขา 二哈和他的白猫师尊 肉包不吃肉 โร่วเปาปู้ชือโร่ว เขียน Bou Ptrn แปล คำเตือน!! นิยายเรื่องนี้เหมาะสมกับผู้ที่อายุ 21 ปีขึ้นไป โดยมีเนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับ… : among other immoralities (การผิดศีลธรรมจรรยา) : Angst (มีความรุนแรงในอารมณ์ บีบคั้นกดดัน) : Cannibalism (การกินเนื้อเผ่าพันธุ์เดียวกัน) : child abuse (การทารุณกรรมเด็ก) : coercion (การใช้อำนาจที่เหนือกว่าบังคับให้คนอื่นทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ) : corporal punishment (การลงโทษทางร่างกาย) : death (การตาย) : depression (ภาวะซึมเศร้า) : explicit sex (การร่วมเพศแบบเปิดเผย) : gang-rape (การข่มขืนเป็นกลุ่ม) : genocide (การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์) : gore […]
Category Archives: ทดลองอ่าน
ลิขิตรักข้ามปรภพ 孟婆 หวนมี่ เขียน ลีลรักษ์ แปล เล่มเดียวจบ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) __________________________ นี่คือน้ำพุเหลืองแห่งการรอคอย กล่าวกันว่าคนเราเมื่อตายแล้วจะเข้าสู่ด่านประตูผี ทางที่เดินไปเรียกว่าทางน้ำพุเหลืองซึ่งจะมีดอกม่านจูซาฮวา[1]ดุจเปลวเพลิงบานสะพรั่งทอดยาวเป็นผืน ทางที่มีบุปผาบานสะพรั่งสายนี้จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าทางแสงเพลิง ดอกม่านจูซาฮวาหรือดอกปี่อั้น[2] ดอกกับใบมิอาจพบพานกันตลอดกาล คลาดกันนับพันปี คือการเสาะแสวงหาทุกภพ รอคอยทุกชาติ หากแต่กลับมิอาจพบหน้า ณ ริมฝั่งน้ำสีแดงสดสวยมีสตรีสวมชุดแดงนางหนึ่งยืนกางร่มคอยท่า พัสตราภรณ์แดงงามหรูยาวระพื้น ใบหน้างามกระจ่างประดับรอยยิ้มอ่อนจาง ทว่ากลับเลื่อนลอยหมองเศร้าถึงเพียงนั้น นางกำลังรอ รอคอยโอกาสที่จะชดใช้ความผิด ใช้เวลานับพันปี … จุดสิ้นสุดของทางน้ำพุเหลืองมีธาราสายหนึ่งนามว่าธาราลืมเลือน ดวงวิญญาณที่ไม่ยอมดื่มน้ำแกงลืมชาติเพื่อลืมผู้เป็นที่รักในชาติก่อนแล้วเข้าสู่สังสารวัฏจะต้องลงไปในธาราลืมเลือนและเฝ้ารอผ่านกาลเวลาอันแสนยาวนาน พันปีผ่านพ้น หากจิตคะนึงมิคลาย ยังจดจำเรื่องในชาติก่อนได้ จะต้องลงไปยังโลกมนุษย์ตามหาคนรักในอดีต ในธาราลืมเลือน จักรพรรดิองค์หนึ่งกำลังรอคอย ใช้เวลาพันปีเฝ้ารอโอกาสที่จะรักนางอีกสักครั้ง เพราะสิ่งที่เขาติดค้างนางต่อให้ใช้เวลานับพันปีก็มิอาจชดใช้ได้หมดสิ้น … ริมธาราลืมเลือนเป็นสะพานอนิจจัง[3] ข้างสะพานมีศาลาหลังหนึ่งเรียกว่าศาลายายเมิ่ง ยายเมิ่งจะอยู่ที่นั่นคอยเคี่ยวน้ำแกงลืมชาติของดวงวิญญาณแต่ละดวงไว้ให้พวกเขาเหล่านั้น ทุกคนจะมีชามคนละหนึ่งใบ น้ำแกงลืมชาติในชามก็คือน้ำตาทั้งหมดที่คนผู้นั้นหลั่งออกมาขณะมีชีวิตอยู่ มีทั้งความยินดี ความโศกเศร้า ความเจ็บปวด ความเกลียดชัง ความทุกข์ระทม และความรัก เมื่อดื่มแล้วก็จะลืมสิ้นทุกสิ่งในชาติก่อน ค่อยๆ ลืมเลือนอดีตในใจทีละน้อยกระทั่งกลายเป็นควันบางเบาในสายตา จดจำมิได้อีกต่อไป […]
ลิขิตรักข้ามปรภพ 孟婆 หวนมี่ เขียน ลีลรักษ์ แปล เล่มเดียวจบ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) __________________________ ณ ศาลายายเมิ่ง น้ำพุเหลืองไม่เห็นแสงรุ่งอรุณตลอดปี มีเพียงอาทิตย์อัสดงคล้อยต่ำเช่นเคย แสงอัสดงจากดวงตะวันมักเหยียบย่างลงบนผืนธาราลืมเลือนเสมอ ไม่เคยลอยขึ้นและไม่เคยตกดิน ฉุดอารมณ์เศร้าระทมทุกข์ของการพรากจากพลุ่งขึ้นอย่างไร้สาเหตุ วนเวียนอยู่ในอก กลับมิควรค่าที่จะเอ่ยถึง ศาลายายเมิ่งประกอบด้วยแปลงดอกไม้ล้อมรั้ว ตัวเรือนสร้างจากไม้ ประตูทรงวงเดือนและบ่อศิลา ทั้งเงียบสงัดและงามประณีต ศาลายายเมิ่งคือสถานที่พำนักของยายเมิ่ง ตั้งอยู่มุมหนึ่งของแดนนรก มืดมิดมาแรมปี กระนั้นก็พอเห็นแสงตะวันบ้างเป็นครั้งคราว ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหมอกบางเบา มองจากที่ไกลจะเห็นเพียงเงาของอาคารรางๆ แม้เดินเข้าไปใกล้อีกสักหน่อยก็ยังไม่แน่ว่าจะหาเส้นทางไปที่นั่นพบ “ท่านยาย…” เสียงอ่อนหวานเปี่ยมด้วยชีวิตชีวาของสตรีดังมาจากข้างนอก ประตูไม้ที่ทั้งเล็กทั้งเตี้ยถูกผลักเปิดออก หมิงเหยา องค์หญิงเก้าผู้เป็นธิดาองค์สุดท้องของราชาแดนนรกร้องเรียกหลายครั้งแล้วไม่พบคน จึงถือวิสาสะผลักประตูเข้ามา เมื่อเดินเข้ามาถึงเรือนหลักแล้วยังไม่เห็นคนที่ตนมาหา หมิงเหยากัดริมฝีปาก เดินไปด้านนอกเรือนอีกฝั่งหนึ่ง อยู่ที่แปลงดอกไม้ทางนั้นหรือไม่หนอ นางคาดเดาอย่างอาจหาญ ฝีก้าวไม่ชักช้าลังเล เลี้ยวผ่านโค้งหนึ่ง ดึงชายกระโปรงเดินตัวปลิวจนไปถึงอีกด้านหนึ่งของเรือน ศาลายายเมิ่งจะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะว่าเล็กก็ไม่เชิง หากกล่าวเปรียบเทียบในมุมมองของโลกมนุษย์แล้ว รูปแบบก็คือบ้านชาวนาดีๆ นี่เอง เพียงแต่ไม่มีของประดับตกแต่งหรูหราหลากสีสันมากมายนัก ยายเมิ่งไม่ชอบสีสัน ดังนั้นทุกสิ่งที่เห็นในเรือนของนาง หากมิใช่สีดำก็เป็นสีเทา อาจจะมีสีขาวด้วย น้อยครั้งนักที่จะปรากฏสีสันให้เห็น […]
ลิขิตรักข้ามปรภพ 孟婆 หวนมี่ เขียน ลีลรักษ์ แปล เล่มเดียวจบ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) __________________________ ณ หมู่บ้านเซี่ยเหอ เงาจันทร์ทาบทอเหนือผิวน้ำ คลื่นซัดกระเซ็นเป็นละอองน้ำเข้าหาหาดทรายริมฝั่งระลอกแล้วระลอกเล่า เจือด้วยสีเงินยวงของแสงจันทรา แลดูประหนึ่งภาพมายาเสมือนห้วงฝันเลื่อนลอยมิปาน ภายในหมู่บ้านเงียบสงบ มีเพียงเสียงคลื่นทะเลที่คล้ายดั่งกำลังครวญเพลงพื้นบ้าน สงบสุขปานนั้น บนโขดหิน ยายเมิ่งยืนตระหง่าน มองคลื่นกระทบโขดหินจนก่อตัวเป็นเกลียวคลื่น ละอองน้ำกระเซ็นหยดแล้วหยดเล่าดุจหยาดน้ำตาแห่งความเศร้าของเทพธิดาจันทรา รู้สึกหนาวเล็กน้อย ยายเมิ่งยังคงสวมชุดสีดำเช่นเคย สีดำนั้นพลิ้วไหวใต้แสงจันทร์ที่ทาบทอลงมาปกคลุม หยกพกตรงเอวส่งเสียงกรุ๊งกริ๊งใสเสนาะ “แม่เฒ่า” ชั่วขณะที่คลื่นไหลกลับ เสียงซัดสาดหายไป เสียงของเขาดังมาจากด้านหลังนาง มิรู้ว่าเพราะทิวทัศน์ดูลวงตาเกินไปหรือไม่ นางจึงใจลอย รับรู้ได้ว่าหัวใจเต้นแรงเพราะเสียงเรียกของเขาอย่างคาดไม่ถึง บางทีนางอาจจะตกใจเพราะเขา เพราะทัศนียภาพตรงหน้านี้ช่างงดงามเหลือเกิน ยายเมิ่งหมุนตัวหันมาเล็กน้อย ดวงหน้าเรียบเฉยนั้นสว่างสดใสภายใต้แสงจันทร์ แขนเสื้อปลิวไสว แลดูไม่จริงราวกับจะเลือนหายชั่วพริบตาต่อมา หลงอวี้หวิวโหวงในอก รู้สึกว่าลมหายใจคล้ายถูกช่วงชิงชั่วขณะนั้น คนตรงหน้านี้…คือผู้ใด เขาเพียงรู้สึกถึงกลิ่นอายอันคุ้นเคยยิ่ง จึงเข้ามาดูสักหน่อย คาดไม่ถึงว่าจะเห็นคนยืนอยู่บนโขดหิน และไม่เคยคิดว่า กายของคนผู้นี้จะมีกลิ่นน้ำหมึกคล้ายกลิ่นกายของยายเมิ่ง “แม่นาง ขออภัย ข้าน้อยนึกว่าเป็นศัตรู…” หลงอวี้ได้สติ หันมาขอโทษนางด้วยท่าทีไม่สะทกสะท้านแต่กลับไม่เสียมารยาท ยายเมิ่งอดยกยิ้มมุมปากน้อยๆ มิได้ […]
ลิขิตรักข้ามปรภพ 孟婆 หวนมี่ เขียน ลีลรักษ์ แปล เล่มเดียวจบ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) __________________________ คลื่นทะเลสาดเซาะหาดทรายบนชายฝั่งอย่างนุ่มนวล ลานยกสูงซึ่งสร้างจากวัสดุไม้ตั้งอยู่ริมหาด ไม้กระดานแผ่นหนึ่งยื่นออกไปในทะเลเล็กน้อย เป็นที่ผูกเรือประมงของหมู่บ้านเซี่ยเหอ นี่คือท่าเรือที่ชาวบ้านในหมู่บ้านเซี่ยเหอพูดกัน ยายเมิ่งยืนอยู่บนหาดทราย พินิจคันฉ่องทองแดงในมือ ในคันฉ่องนั้น หลงอวี้ไล่ตามไฉ่เอ๋อร์ทันแล้ว นางร่ำไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมอกเขา ท่าทางแลดูน่าสงสารเป็นพิเศษ สีหน้าหลงอวี้อ่อนโยนยิ่ง กระซิบคำลวงล่อหลอก ไม่ต้องได้ยินกับหูตนเอง นางก็คล้ายฟังออกว่านั่นเป็นสุ้มเสียงอันน่าเย้ายวนชวนเมามายเพียงไร ปลายนิ้วที่ถือคันฉ่องอยู่กำแน่นขึ้นเล็กน้อย ยังคงมองอารมณ์บนใบหน้างามประณีตของยายเมิ่งไม่ออก ดวงตาฉ่ำน้ำของนางหลุบลงเล็กน้อย จับจ้องมองภาพสะท้อนในคันฉ่องไม่วางตา นางคิด ยามที่ไฉ่เอ๋อร์หยุดร้องไห้แล้วเผยยิ้มนั้น ความเข้าใจผิดทั้งปวงหรือแม้กระทั่งความคลางแคลงใจล้วนคลี่คลายสิ้นแล้ว สิ่งที่ตาเห็น หลงอวี้เชยคางไฉ่เอ๋อร์ขึ้น ไฉ่เอ๋อร์ปิดตาลงด้วยความเขินอาย แหงนวงหน้างดงาม…นางยกมือขึ้นปัดทันใด ปิดภาพสะท้อนในคันฉ่องนั้นแล้วไม่มองอีกเลย ศาลาจันทร์คล้อย เมฆขาวบนนภาหมุนเป็นเกลียวลอยวนประหนึ่งม่านหมอก ปกคลุมทั่วทั้งศาลาจันทร์คล้อย ยิ่งแลดูล่องลอยดุจภาพมายา “ท่านผู้เฒ่าจันทรา…” ได้ยินเสียงเล็กไพเราะและเปี่ยมด้วยพลังดังมาแต่ไกล ผู้เฒ่าจันทราซึ่งกำลังจัดวางหุ่นดินปั้นชายหญิงที่จับคู่เสร็จแล้วในโถงคู่ครองสะดุ้งเล็กน้อย ค่อยๆ วางหุ่นดินปั้นอย่างระมัดระวัง รีบเดินออกไปข้างนอกแล้วปิดประตู นับแต่บทเรียนความล้มเหลวน่าชอกช้ำใจคราวก่อน ผู้เฒ่าจันทราวางหุ่นดินปั้นที่จับคู่แล้วไว้ในโถงคู่ครองทันที เพื่อกันมิให้เกิดเรื่องวุ่นวายอีก ขณะเดียวกันเพื่อหลีกเลี่ยงมิให้ด้ายแดงก่อหายนะเพราะถูกลมพัดอีกครา เขาจึงเก็บมันอย่างเรียบร้อย “ข้าผู้เฒ่าอยู่ตรงนี้!” เพื่อกันมิให้คนผู้นั้นเดินลึกเข้ามาด้านในมากกว่านี้ ผู้เฒ่าจันทราจึงส่งเสียงร้องปรามผู้มาเยือน […]
ลิขิตรักข้ามปรภพ 孟婆 หวนมี่ เขียน ลีลรักษ์ แปล เล่มเดียวจบ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) __________________________ ณ หอหงส์เยือน ยายเมิ่งที่กำลังละเลียดกินโจ๊กหยกเขียวพลันชะงัก ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกะทันหันทำนางมุ่นคิ้ว กระนั้นกลับมิรู้ว่าเกิดอันใดขึ้น หลงอวี้ที่นั่งตรงข้ามสังเกตเห็นความผิดปกติของนาง จึงเหลือบตาขึ้นถามเสียงเรียบ “เป็นอันใดหรือ” ยายเมิ่งมิได้ตอบเขาทันที นิ้วมือเหี่ยวย่นจรดนับจับยาม สักพักนางพลันขมวดคิ้วมุ่น “แตกแล้ว…” นางพึมพำเสียงเบา “แตกแล้วรึ สิ่งใดแตกหรือ” หลงอวี้ไม่เข้าใจ ถามออกเสียง “อืม ไม่ร้ายแรงอันใด รัชทายาท กินมื้อนี้เสร็จ พวกเราต้องไปกันได้แล้ว” แม้รู้ว่าเจ็ดอารมณ์หกปรารถนาหวนคืนสู่ร่างตนแล้ว กระนั้นยายเมิ่งก็ยังคงมีสีหน้าท่าทีเยือกเย็น ประหนึ่งว่านั่นเป็นเพียงอากาศที่ลอยออกจากขวดเท่านั้น มิได้สลักสำคัญแต่อย่างใด “อืม” รู้ว่านางไม่อยากพูดมาก หลงอวี้เองก็ไม่ถาม กินอาหารของตนเงียบๆ ถึงแม้เป็นใบหน้าธรรมดาของมนุษย์ปุถุชน หากแต่เมื่อแสงตะวันสีทองทาบทอต้องร่างเขา กลับแผ่บรรยากาศสูงศักดิ์อย่างน่าประหลาด แม้กระทั่งรูปลักษณ์ภายนอกที่แสนธรรมดาก็ยังปิดบังไว้ไม่อยู่ ทั้งเย็นชาและสูงส่ง เปลือกนอกสามัญนั้นคือสิ่งที่คนบนโลกมนุษย์เห็น ทว่าในสายตานาง ใบหน้าเขายังคงหล่อเหลาดังเดิม ยายเมิ่งลอบมองประเมินโดยมิให้มีพิรุธ บุรุษตรงหน้าที่ทำให้องค์หญิงทั้งสองแห่งวังนรกทั้งรักทั้งเลื่อมใสอย่างลึกซึ้งผู้นี้มีดีที่ใดกันแน่ ไฉนถึงทำให้พวกนางหลงใหลถึงเพียงนี้ “รัชทายาท ข้าผู้เฒ่าขอละลาบละล้วง อยากถามเรื่องหนึ่ง” เพราะคิดนับร้อยตลบก็มิได้คำตอบ […]
ลิขิตรักข้ามปรภพ 孟婆 หวนมี่ เขียน ลีลรักษ์ แปล เล่มเดียวจบ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) __________________________ ยายเมิ่งถือกระบวยอยู่ในศาลายายเมิ่งข้างสะพานอนิจจัง เมื่อตักน้ำแกงลืมชาติให้ดวงวิญญาณที่ถือชามเดินเข้ามาดื่มแล้ว ก็มุ่งหน้าไปยังวงล้อแห่งสังสารวัฏที่อยู่อีกฟากฝั่งหนึ่งของสะพานอนิจจัง “แม่เฒ่า แม่เฒ่า!” ผู้คุมวิญญาณตัวผอมบางผู้หนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลวิ่งมาหาพลางร้องเรียกยายเมิ่งที่กำลังตักน้ำแกง ครั้นเห็นเช่นนั้น ผู้คุมวิญญาณชุดดำสองนายที่อยู่หน้าศาลายายเมิ่งยื่นมือมาขวางดวงวิญญาณด้านหลังที่จะเดินขึ้นหน้า ทั้งหมดหยุดยืนหน้าศาลา รอให้ผู้คุมวิญญาณพูดจบ “เกิดอันใดขึ้น” ยายเมิ่งเดินไปยังมุมหนึ่งของศาลา ลดเสียงต่ำถาม “แม่เฒ่า ราชามังกรแห่งทะเลบูรพาเสด็จมา! ยามนี้คอยอยู่ในเรือนท่าน พวกเขาอยากให้ท่านไปเข้าเฝ้าสักครั้ง ส่วนงานทางนี้ก็ฝากคนอื่นไว้ก่อน” ผู้คุมวิญญาณนามสวินถงกดเสียงเบากล่าว ยายเมิ่งขมวดคิ้ว “ทางนี้จะฝากให้คนอื่นได้อย่างไรกัน ปีนี้โลกมนุษย์แล้งหนัก ชาวบ้านตายไม่น้อย ดวงวิญญาณที่จะไปเกิดมีมากเพียงนี้ จะให้ฝากผู้ใด เจี้ยงเหนียงเองก็ปลีกตัวมาไม่ได้ อย่าว่าแต่จะมาเลย” สวินถงเกาหัวด้วยความหงุดหงิด ใบหน้าสีเขียวฉายแววกังวลใจยิ่ง “เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี ราชามังกรทรงเป็นคนที่พวกเราล่วงเกินไม่ได้เสียด้วยสิ” “ราชามังกรเสด็จมาที่นี่ด้วยเรื่องใด” “คือ…ข้าเองก็ไม่รู้ เพียงรับสั่งว่าให้แม่เฒ่าเข้าเฝ้า รายละเอียดหยุมหยิมหลังจากนั้นจะทรงอธิบายอีกที” สวินถงเล่าตามสัตย์แล้วยกมือเกาหัวอีก “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ให้พระองค์ประทับรอต่อไปแล้วกัน” ยายเมิ่งเดินขึ้นหน้า ไม่สนว่าสวินถงจะเบิกตากว้างจนลูกตาแทบถลนอยู่แล้ว ก่อนทำมือเป็นสัญลักษณ์ให้ผู้คุมวิญญาณด้านหน้าปล่อยดวงวิญญาณพวกนั้นเข้ามา “อา อา…แม่เฒ่า…” อย่าทำเช่นนี้สิ! แม่เฒ่า […]
ลิขิตรักข้ามปรภพ 孟婆 หวนมี่ เขียน ลีลรักษ์ แปล เล่มเดียวจบ (ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์) __________________________ ณ ศาลาจันทร์คล้อย ชายชราเคราขาวหนวดยาวผู้หนึ่งนั่งปั้นหุ่นดินปั้นอยู่ในศาลา ที่ปั้นอยู่คือหุ่นผู้หญิงตัวหนึ่ง ทั้งยังเป็นองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ที่เกิดแต่จักรพรรดิสวรรค์ มิอาจทำลวกๆ ได้แม้แต่ผมสักเส้น ผู้เฒ่าจันทรา [1] กำลังปั้นและแกะสลักหน้าตาของหุ่นผู้หญิงอย่างตั้งอกตั้งใจ เมื่อปั้นเสร็จก็วางนางไว้บนโต๊ะ มือผอมแห้งหยิบดินเหนียวมากำหนึ่ง คราวนี้เขาตั้งใจจะปั้นหุ่นผู้ชายที่คู่ควรกับนาง “ผู้เฒ่าจันทรา นี่คือสมุดบันทึกรายนามของครั้งนี้” นอกศาลา มีสตรีผมขาวหน้าแดงปลั่งผู้หนึ่งยืนอยู่ เรือนผมขาวของนางที่ยาวเลยเอวลงไปพลิ้วตามลม อาบย้อมด้วยแสงสีเหลืองดุจทองคำ ดวงหน้างามเกลี้ยงเกลาหากแต่แลดูเฉยชาอยู่บ้างยามนี้ปราศจากอารมณ์ สวมชุดสีเทาทั้งร่าง กลับดูไม่โดดเด่นสะดุดตา เจือด้วยปราณทมิฬจากแดนนรกบางเบา ผู้เฒ่าจันทราหรี่ตาพลางวางหุ่นผู้ชายในมือลง รับสมุดบันทึกรายนามจากมือสตรีผู้นั้น นี่เป็นสมุดบันทึกรายนามของชายหญิงในโลกมนุษย์ที่ยังไม่ได้แต่งงาน “ไฉนแม่เฒ่าถึงต้องมาส่งด้วยตนเองเล่า เพียงให้แม่หนูเซี่ยมาส่งก็ได้ ลำบากแม่เฒ่าแล้วจริงๆ …” สตรีเบื้องหน้าเพียงกะพริบตาครั้งหนึ่ง มิได้ใส่ใจ “ไม่ต้องเกรงใจ เซี่ยเอ๋อร์ป่วย ข้าต้องมาที่นี่พอดี จึงถือโอกาสนำมาให้ด้วยเลย” “แม่เฒ่ามาหาข้าผู้เฒ่าที่นี่มีเรื่องใด ให้ข้าผู้เฒ่าช่วยได้หรือไม่” สตรีผู้นั้นเม้มปากนิดๆ เอ่ยเสียงเนิบ “ความจริงแล้วก็มิใช่เรื่องใหญ่อันใด ก่อนหน้านี้องค์หญิงรองแดนนรกตกหลุมรักองค์ชายใหญ่ของราชามังกร จึงไหว้วานให้ข้าถือโอกาสที่มาร่วมงานฉลองวันคล้ายวันเกิดของเทพธิดาเจ็ดดาราแวะมาที่นี่สักเที่ยว เพื่อสอบถามเรื่องด้ายแดงระหว่างนางกับเขา” น้ำเสียงราบเรียบ […]
มหาวิทยาลัยซอมบี้ Zombies in College 喪病大學 顏涼雨 เหยียนเหลียงอวี่ เขียน Jpolly Wu แปล นิยาย 4 เล่มจบ (วางขายเเยกเล่ม) TRIGGER WARNING : นิยายเรื่องนี้ NOT FOR EVERYONE * มีเนื้อหาเกี่ยวกับ angst (มีความรุนแรงในอารมณ์ บีบคั้นกดดัน), death (การตาย), depression (ภาวะซึมเศร้า), gore (เนื้อหามีความโหดร้าย และรุนแรง) และ suicide (การฆ่าตัวตาย) ———————————————————– ตอนที่ 96 มือหนึ่งถือกรรไกร มือหนึ่งวาดผ่านคลื่นน้ำ ปลายแหลมสอดประสานกับเกลียวคลื่น ศีรษะกลืนไปกับความมืด…นักศึกษาใหม่แซ่ค่วงยืนหยัดอยู่ในทะเลสาบด้วยท่าทางเช่นนี้มานานสิบสองนาทีแล้ว สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหว เขาว่ายน้ำระยะสองพันเมตรได้สบายๆ แต่การสวมเสื้อแจ็กเก็ตขนเป็ดลงไปในน้ำเย็นๆ นี่มันไม่ใช่ทางของเขาเลย “พวกนายช่วยรีบหน่อยได้ไหม-ม-ม” เสื้อแจ็กเก็ตดูดซับน้ำในทะเลสาบทำให้ร่างกายของเขาจมลง ความเย็นที่เสียดแทงกระดูกกำลังเผาผลาญพละกำลังที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดอย่างรวดเร็ว […]
มหาวิทยาลัยซอมบี้ Zombies in College 喪病大學 顏涼雨 เหยียนเหลียงอวี่ เขียน Jpolly Wu แปล นิยาย 4 เล่มจบ (วางขายเเยกเล่ม) TRIGGER WARNING : นิยายเรื่องนี้ NOT FOR EVERYONE * มีเนื้อหาเกี่ยวกับ angst (มีความรุนแรงในอารมณ์ บีบคั้นกดดัน), death (การตาย), depression (ภาวะซึมเศร้า), gore (เนื้อหามีความโหดร้าย และรุนแรง) และ suicide (การฆ่าตัวตาย) ———————————————————– ตอนที่ 95 วันต่อมา กระแสลมพัดมาจากทางใต้ ในอากาศเย็นๆ นั้นพัดพาเอาความอบอุ่นมาด้วยเล็กน้อย ค่วงเหย่หลับไม่ค่อยสนิท ใช่แล้ว หลับไม่สนิทเลย เขามักจะลืมตาตื่นทุกห้านาที บางครั้งก็กลัวว่าห้องเกรียงไกรไม่ย่อท้อจะเป็นเพียงภาพลวงตา ไม่มีใครมาที่สระว่ายน้ำแห่งนี้จริงๆ หรือบางครั้งก็กลัวว่าห้องเกรียงไกรไม่ย่อท้อจะทิ้งเขาไปเงียบๆ […]